Another study, however, found just

Another study, however, found just the opposite of Carroll’s research. In Ault’s study of
student performance on the Ohio Sixth Grade Mathematics Proficiency Test, he found a
significant difference between the students’ mean score in the number relations sub-group
(2006). Students taught with traditional mathematics outperformed those in a standards-based
curriculum by 6.82 percent. Questions in the number relations section involved the computation
of whole numbers, decimals, and fractions (Ault, 2006)

Results (Thai) 1:

ศึกษาอื่น แต่ พบเพียงตรงข้ามด้านวิจัยของคาร์ ในการศึกษาของ Aultเขาพบนักเรียนประสิทธิภาพในโอไฮโอหกเกรดคณิตศาสตร์ความชำนาญในการทดสอบ การความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญระหว่างคะแนนเฉลี่ยของนักเรียนในความสัมพันธ์ของตัวเลขที่จัดกลุ่มย่อย(2006) นักเรียนที่สอน ด้วยคณิตศาสตร์ดั้งเดิม outperformed ในมาตรฐานโดยใช้หลักสูตรร้อยละ 6.82 คำถามในส่วนความสัมพันธ์ของหมายเลขการคำนวณที่เกี่ยวข้องของจำนวนเต็ม ทศนิยม เศษส่วน (Ault, 2006)

Results (Thai) 2:

การศึกษาอื่น แต่พบเพียงแค่ตรงข้ามของการวิจัยของแครอล ในการศึกษาเอิของ
ประสิทธิภาพของนักเรียนในชั้นประถมศึกษาปีที่หกโอไฮโอคณิตศาสตร์ทดสอบวัดความรู้เขาพบ
ความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญระหว่างนักเรียนมีคะแนนเฉลี่ยในจำนวนความสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มย่อย
(2006) ได้รับการสอนคณิตศาสตร์แบบดั้งเดิมเฮงผู้ที่อยู่ในตามมาตรฐาน
หลักสูตรร้อยละ 6.82 คำถามในหลายส่วนความสัมพันธ์ที่เกี่ยวข้องกับการคำนวณ
ของจำนวนเต็มทศนิยมและเศษส่วน (เอิร์ท 2006)

Results (Thai) 3:

ศึกษาอื่น แต่พบเพียงตรงข้ามของ คาร์โรลล์ งานวิจัยของ ในการศึกษาของนักเรียน เอิร์ท
ในโอไฮโอเกรด 6 คณิตศาสตร์ทดสอบมาตรฐาน เขาพบ
ความแตกต่าง ระหว่างคะแนนเฉลี่ยของนักเรียนในจํานวนสัมพันธ์กลุ่มซับ
( 2006 ) นักเรียนที่ได้รับการสอนคณิตศาสตร์ดั้งเดิมเกินเหล่านั้นในหลักสูตรอิงมาตรฐาน
โดย 6.82 เปอร์เซ็นต์คำถามในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการคำนวณตัวเลขสัมพันธ์
ทั้ง ตัวเลข ทศนิยม เศษส่วน ( เอิร์ท 2006 )