With some 20.4 million hectares (50

With some 20.4 million hectares (50.4 million acres) of farm land, of which about 10 million hectares (24.7 million acres) are under rice cultivation, Thailand continues to rely heavily on agriculture, although the country has suffered from declining export prices in recent years. Rice is the major crop grown; Thailand is the world's biggest rice exporter. Total rice production amounted to 17.5 million tons in 2001/02. The government has embarked on large-scale irrigation projects and introduced higher-yielding varieties of rice in an effort to increase production. In 2001, agricultural products accounted for 11.7% of exports and Thailand's agricultural trade surplus was nearly $4.5 billion (10th in the world).

Rubber, also a major export, is grown on the peninsula and, to a lesser extent, on the southeast coast. Total production in 1999 was 2,198,000 tons, the highest in the world and accounting for 34% of all production that year. Demand for natural rubber is growing along with the international concern about AIDS. Sugarcane production reached 52.8 million tons, while output of cassava (tapioca), traditionally important in Thailand, totaled 16.5 million tons. Thailand provides about 95% of the world's cassava exports. Much of the harvest is processed into chips and pellets and exported to the EU for fodder. Higher EU tariffs, however, have caused the Thai government to promote dairy, fruit, rubber, and cashew farming instead. Corn production, which has increased significantly in recent decades, reached 4.6 million tons in 1999. One third of annual corn production is consumed annually as fodder, with the remainder being exported to Europe and Japan. Kenaf, tobacco, cotton, and kapok are cultivated mainly for domestic use, but quantities of jute, cocoa, peanuts, soybeans, and medical plants are exported. Canned pineapple and fresh flowers, especially orchids, are important exports. The Thai government's official policy of encouraging mountain villagers to grow coffee, apples, strawberries, kidney beans, and other temperate crops instead of the lucrative opium poppy and marijuana has had some success; another aim of the project is to discourage deforestation through slash-and-burn cultivation. In 1987, King Bhumibol Adulyedej received a Magsaysay Award for International Understanding for his 20 years of effort in this area.

In the mid-1970s, farmers began to organize to express their discontent over the disparity between farm and nonfarm incomes. To improve farm conditions, the government legitimized squatters' rights to nearly 500,000 hectares (1,236,000 acres) of land classified as forest reserve and established credit and crop insurance programs for farmers. The government Marketing Organization for Farmers, founded in 1975, allows farmers to buy fertilizers, machinery, and equipment at the lowest possible prices and assists in crop marketing. It is also government policy to channel revenues from agricultural export taxes to a welfare fund called the Farmers Assistance Fund.



Read more: http://www.nationsencyclopedia.com/Asia-and-Oceania/Thailand-AGRICULTURE.html#ixzz3tgPfbLg4

Results (Thai) 1:

มีบางยัง 20.4 ล้านเฮกเตอร์ (50.4 ล้านเอเคอร์ของผืนไร่ ที่ประมาณ 10 ล้านเฮกเตอร์ (24.7 ล้านเอเคอร์) มีการเพาะปลูกข้าว ประเทศไทยยังคงหนักพึ่งเกษตร ถึงแม้ว่าประเทศได้รับความเดือดร้อนจากราคาส่งออกลดลงในปีที่ผ่านมา ข้าวเป็นพืชหลักที่ปลูก ประเทศไทยเป็นผู้ส่งออกข้าวที่ใหญ่ที่สุดในโลก ผลิตข้าวรวมมี 17.5 ล้านตันในปี 2001/02 รัฐบาลได้เริ่มต้นโครงการชลประทานขนาดใหญ่ และนำพันธุ์สูงกว่าผลผลิตของข้าวในการผลิต ในปีค.ศ. 2001 เกษตรบัญชี 11.7% ของการส่งออก และดุลการค้าด้านการเกษตรของประเทศไทยได้เกือบ $4.5 พันล้าน (10 แห่ง)ยาง นอกจากนี้สำคัญส่งออก ถูกปลูก บนคาบสมุทร และ ใน กรณีที่น้อยกว่า ฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ ผลิตรวมในปี 2542 เป็น 2,198,000 ตัน สูงที่สุดในโลกและบัญชี 34% ของการผลิตทั้งหมดปี ความต้องการยางธรรมชาติมีการเติบโตพร้อมกับความกังวลเกี่ยวกับโรคเอดส์นานาชาติ การผลิตอ้อยถึง 52.8 ล้านตัน ในขณะที่ผลผลิตของมันสำปะหลัง (มันสำปะหลัง), ประเพณีสำคัญในประเทศไทย รวม 16.5 ล้านตัน ประเทศไทยมีประมาณ 95% ของการส่งออกมันสำปะหลังของโลก มากเก็บเกี่ยวจะประมวลผลเป็นชิและขี้ และส่งออกไปยัง EU สำหรับอาหารสัตว์ ภาษีศุลกากรสูง EU อย่างไรก็ตาม ทำให้เกิดรัฐบาลไทยส่งเสริมโคนม ผลไม้ ยาง และมะม่วงหิมพานต์เลี้ยงแทนการ การผลิตข้าวโพด ซึ่งได้เพิ่มขึ้นอย่างมากในทศวรรษที่ผ่านมาล่าสุด ถึง 4.6 ล้านตันในปี 2542 หนึ่งในสามของการผลิตข้าวโพดปีจะใช้ปีเป็นอาหารสัตว์ กับส่วนเหลือส่งออกไปยุโรปและญี่ปุ่น ปอแก้ว ยาสูบ ฝ้าย และคาป๊อกจะปลูกส่วนใหญ่สำหรับการใช้ภายในประเทศ แต่ปริมาณของปอ โกโก้ ถั่วลิสง ถั่วเหลือง และโรงพยาบาลจะถูกส่งออก ดอกไม้สด โดยเฉพาะอย่างยิ่งกล้วยไม้ และสับปะรดกระป๋องจะส่งออกที่สำคัญ ทางรัฐบาลไทยของชาวบ้านเขานิมิตการปลูกกาแฟ แอปเปิ้ล สตรอเบอร์รี่ ไตถั่ว และพืชอื่น ๆ ซึ่งแทนป๊อปปี้กำไรฝิ่นและกัญชามีความสำเร็จบางอย่าง อีกจุดมุ่งหมายของโครงการคือการ กีดกันทำลายป่าผ่านการเพาะปลูกทับ และเขียน 1987, Adulyedej กษัตริย์ภูมิพลได้รับรางวัลแมกไซไซในต่างประเทศเขา 20 ปีของความพยายามในพื้นที่นี้ในในกลางทศวรรษ 1970 เกษตรกรเริ่มจัดระเบียบในการแสดงความไม่พอใจผ่าน disparity ระหว่างฟาร์มและ nonfarm รายได้ เพื่อปรับปรุงสภาพฟาร์ม สิทธิของ squatters legitimized รัฐบาลเกือบ 500000 เฮกเตอร์ (1,236,000 ไร่) ที่ดินจัดเป็นวนอุทยาน และสร้างโปรแกรมประกันสินเชื่อและการเพาะปลูกสำหรับเกษตรกร รัฐบาลองค์กรการตลาดเพื่อเกษตรกร ก่อตั้งขึ้นใน 1975 ช่วยให้เกษตรกรซื้อปุ๋ย เครื่องจักร และอุปกรณ์ที่ราคาต่ำที่สุดที่เป็นไปได้ และช่วยในการเพาะปลูกการตลาด เป็นนโยบายรัฐบาลเพื่อช่องทางรายได้จากภาษีส่งออกเกษตรสวัสดิการกองทุนเรียกว่ากองทุนความช่วยเหลือเกษตรกรอ่านเพิ่มเติม: http://www.nationsencyclopedia.com/Asia-and-Oceania/Thailand-AGRICULTURE.html#ixzz3tgPfbLg4

Results (Thai) 2:

กับบาง 20,400,000 เฮกตาร์ (50,400,000 ไร่) ที่ดินฟาร์มที่ประมาณ 10 ล้านเฮกตาร์ (24,700,000 เอเคอร์) ที่อยู่ภายใต้การเพาะปลูกข้าวในประเทศไทยยังคงต้องพึ่งพาการเกษตรแม้ว่าประเทศที่ได้รับความเดือดร้อนจากการลดลงของราคาสินค้าส่งออกในปีที่ผ่านมา . ข้าวเป็นพืชหลักที่ปลูก; ประเทศไทยเป็นผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ของโลก ผลิตข้าวรวมจำนวน 17.5 ล้านตันในปี 2001/02 รัฐบาลได้เริ่มต้นกับโครงการชลประทานขนาดใหญ่และแนะนำพันธุ์ที่ให้ผลผลิตสูงกว่าข้าวในความพยายามที่จะเพิ่มการผลิต ในปี 2001 สินค้าเกษตรคิดเป็น 11.7% ของการส่งออกและการเกินดุลการค้าสินค้าเกษตรของไทยเป็นเวลาเกือบ $ 4500000000 (10 ในโลก). ยางยังมีการส่งออกรายใหญ่ที่ปลูกบนคาบสมุทรและในระดับน้อยบนชายฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ . รวมทั้งการผลิตในปี 1999 เป็น 2,198,000 ตันที่สูงที่สุดในโลกและคิดเป็น 34% ของการผลิตทั้งหมดในปีนั้น ความต้องการยางธรรมชาติที่มีการเติบโตไปพร้อมกับความกังวลเกี่ยวกับโรคเอดส์ระหว่างประเทศ การผลิตอ้อยถึง 52,800,000 ตันขณะที่ผลผลิตมันสำปะหลัง (มันสำปะหลัง) ประเพณีที่สำคัญในประเทศไทยมีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 16,500,000 ตัน ประเทศไทยมีประมาณ 95% ของการส่งออกมันสำปะหลังของโลก มากของการเก็บเกี่ยวการประมวลผลเป็นชิปและเม็ดและส่งออกไปยังสหภาพยุโรปสำหรับอาหารสัตว์ อัตราภาษีที่สูงขึ้นในสหภาพยุโรป แต่ได้เกิดจากรัฐบาลไทยในการส่งเสริมนมแปรรูปยางพาราและการทำฟาร์มมะม่วงหิมพานต์แทน การผลิตข้าวโพดซึ่งมีการเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาถึง 4,600,000 ตันในปี 1999 หนึ่งในสามของการผลิตข้าวโพดประจำปีมีการบริโภคอาหารสัตว์เป็นประจำทุกปีกับส่วนที่เหลือถูกส่งออกไปยุโรปและญี่ปุ่น ปอยาสูบฝ้ายและนุ่นที่ปลูกส่วนใหญ่สำหรับการใช้งานในประเทศ แต่ปริมาณของปอกระเจา, โกโก้, ถั่วลิสงถั่วเหลืองและพืชทางการแพทย์ที่มีการส่งออก สับปะรดกระป๋องและดอกไม้สดโดยเฉพาะอย่างยิ่งกล้วยไม้ที่มีการส่งออกที่สำคัญ นโยบายอย่างเป็นทางการของรัฐบาลไทยในการสนับสนุนชาวบ้านภูเขาที่จะเติบโตกาแฟแอปเปิ้ลสตรอเบอร์รี่, ถั่วและพืชเมืองหนาวอื่น ๆ แทนของฝิ่นและกัญชาที่ร่ำรวยมีความสำเร็จ; เป้าหมายของโครงการหนึ่งคือการตัดไม้ทำลายป่าท้อผ่านเฉือนและการเผาไหม้การเพาะปลูก ในปี 1987 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพล Adulyedej ได้รับรางวัลแมกไซไซสำหรับความเข้าใจระหว่างประเทศเป็นเวลา 20 ปีที่ผ่านมาของความพยายามในพื้นที่นี้. ในช่วงกลางปี ​​1970 เกษตรกรเริ่มที่จะจัดระเบียบในการแสดงความไม่พอใจของพวกเขามากกว่าความแตกต่างระหว่างฟาร์มและรายได้ nonfarm เพื่อปรับปรุงสภาพฟาร์มรัฐบาล legitimized สิทธิไพน์วูด 'เกือบ 500,000 เฮกตาร์ (1,236,000 ไร่) ที่ดินจัดเป็นป่าสงวนและเป็นที่ยอมรับเครดิตและโปรแกรมการประกันภัยพืชผลเกษตรกร รัฐบาลองค์การตลาดเพื่อเกษตรกรก่อตั้งขึ้นในปี 1975 จะช่วยให้เกษตรกรที่จะซื้อปุ๋ยเครื่องจักรและอุปกรณ์ในราคาที่ต่ำที่สุดและช่วยในด้านการตลาดพืช นอกจากนี้ยังเป็นนโยบายของรัฐบาลที่จะหาช่องรายได้จากภาษีส่งออกสินค้าเกษตรไปยังกองทุนสวัสดิการที่เรียกว่าการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรกองทุน. อ่านเพิ่มเติม: http://www.nationsencyclopedia.com/Asia-and-Oceania/Thailand-AGRICULTURE.html#ixzz3tgPfbLg4

Results (Thai) 3:

มี 20.4 ล้านไร่ ( 50.4 ล้านเอเคอร์ ) ของที่ดินฟาร์ม ซึ่งมีประมาณ 10 ล้านไร่ ( 24.7 ล้านเอเคอร์ ) อยู่ภายใต้การปลูกข้าว ประเทศไทยยังคงต้องอาศัยการเกษตร แม้ว่าประเทศได้รับความเดือดร้อนจากการส่งออกลดลงในช่วงปี ปลูกข้าวเป็นหลัก ประเทศไทยเป็นผู้ส่งออกข้าวที่ใหญ่ที่สุดของโลก การผลิตข้าวทั้งหมดจำนวน 175 ล้านตัน ในปี 2001 / 02 รัฐบาลได้ทำโครงการชลประทานขนาดใหญ่ และให้ผลผลิตสูงกว่าพันธุ์แนะนำของข้าวในความพยายามที่จะเพิ่มการผลิต ในปี 2001 , ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรคิดเป็นร้อยละ 11.7 % ของการส่งออกและดุลการค้าของไทย การเกษตรเกือบ $ 4.5 พันล้าน ( 10 ในโลก )

ยางยังส่งออกรายใหญ่ ที่ปลูกบนคาบสมุทรและในขอบเขตที่น้อยกว่า บนชายฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ ยอดการผลิตในปี 1999 เป็น 2198000 ตัน ที่สุด ใน โลก และบัญชีสำหรับ 34% ของการผลิตทั้งหมดในปีนั้น ความต้องการยางธรรมชาติจะเติบโตพร้อมกับระหว่างประเทศเกี่ยวกับโรคเอดส์ การผลิตอ้อยถึง 52.8 ล้านตัน ขณะที่ผลผลิตมันสำปะหลัง ( มันสำปะหลัง ) , ประเพณีที่สำคัญในประเทศไทย มีมูลค่ารวม 16.5 ล้านตันประเทศไทยมีประมาณ 95 % ของการส่งออกมันสำปะหลัง มากของการเก็บเกี่ยวแปรรูปเป็นชิพและเม็ดและส่งออกไปยังสหภาพยุโรปสำหรับคนไร้ค่า อัตราภาษีที่สูงของสหภาพยุโรป อย่างไรก็ตาม เหตุรัฐบาลส่งเสริมนม ผลไม้ ยางพารา และทำสวนมะม่วงหิมพานต์แทน การผลิตข้าวโพด ซึ่งมีเพิ่มขึ้นอย่างมากในทศวรรษที่ผ่านมาถึง 4.6 ล้านตัน ในปี 1999หนึ่งในสามของการผลิตข้าวโพดประจำปีทุกปี คือใช้เป็นอาหารสัตว์กับส่วนที่เหลือจะถูกส่งออกไปยุโรปและญี่ปุ่น ปอ ฝ้าย ยาสูบ และนุ่นที่ปลูกส่วนใหญ่ใช้ภายในประเทศ แต่ปริมาณของปอ , โกโก้ , ถั่วลิสง , ถั่วเหลืองและพืชทางการแพทย์จะถูกส่งออก สับปะรดกระป๋อง และดอกไม้สด โดยเฉพาะกล้วยไม้ , การส่งออกที่สำคัญรัฐบาลไทยมีนโยบายสนับสนุนอย่างเป็นทางการชาวบ้านภูเขาปลูกกาแฟ , แอปเปิ้ล , สตรอเบอร์รี่ , ถั่ว , และพืชผลเมืองหนาวอื่น ๆแทนที่จะ lucrative ฝิ่นและกัญชาได้มีความสำเร็จบางอย่าง อีกเป้าหมายของโครงการคือการตัดไม้ทำลายป่า การเผาทำให้ผ่านการ . ในปี 1987พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว adulyedej ได้รับรางวัลแมกไซไซสำหรับความเข้าใจระหว่างประเทศของความพยายามในพื้นที่นี้ 20 ปีของเขา . . . . . .

ใน 1970 , เกษตรกรเริ่มจัดระเบียบเพื่อแสดงความไม่พอใจของพวกเขามากกว่าความต่างระหว่างฟาร์มและรายได้ Nonfarm . เพื่อปรับปรุงสภาพฟาร์มของรัฐบาล การเรียกเก็บเงิน legitimized สิทธิ Squatters เกือบ 500000 เฮกตาร์ ( 1 , 236 ,000 เอเคอร์ ) ของที่ดินแยกเป็นป่าสงวน และสร้างเครดิตและตัดโปรแกรมประกันภัยสำหรับเกษตรกร องค์กรการตลาดเพื่อเกษตรกรของรัฐบาล ก่อตั้งขึ้นใน 1975 , ช่วยให้เกษตรกรซื้อปุ๋ย เครื่องจักร และอุปกรณ์ในราคาที่เป็นไปได้ต่ำสุด และช่วยในการปลูกพืชนอกจากนี้นโยบายของรัฐบาลรายได้ภาษีการส่งออกสินค้าเกษตรไปยังช่องทางจากกองทุนสงเคราะห์เกษตรกร กองทุนเรียกว่าความช่วยเหลือ



อ่านเพิ่มเติม : http : / / www.nationsencyclopedia . com / เอเชียและโอเชียเนีย / การเกษตร . html # ixzz3tgpfblg4