Poor Mickey D's. First, it sells it

Poor Mickey D's. First, it sells its stake in Chipotle only to see that brand eclipse its own growth, and then it becomes the poster child for underpaid workers.

Rather than serving better food and making its franchisers pay a living wage, McDonald's decided that the real problem was that the brand needed burnishing.

The result: an aborted "Lovin' Beats Hatin'" campaign and a yuppie reboot of the already creepy Hamburglar.

Lesson learned: You can't fix a product problem by updating the brand.

Results (Thai) 1:

ไม่ดีมิกกี้ดี แรก จะขายของเดิมพันใน Chipotle เท่านั้นเมื่อต้องการดูที่อุปราคาแบรนด์ของตัวเองเติบโต แล้ว ก็กลายเป็นเด็กโปสเตอร์สำหรับผู้ปฏิบัติงานการชำระน้อยเกินนอกจากอาหารดีขึ้น และทำให้ franchisers การจ่ายค่าจ้างนั่งเล่น แมคโดนัลด์ตัดสินว่า ปัญหาแท้จริงไม่ว่า แบรนด์ต้อง burnishingผล: มีแคมเปญ "Lovin' เต้น Hatin'" ถูกยกเลิกและ yuppie เริ่มต้นของ Hamburglar แล้วน่าขนลุกบทเรียน: คุณไม่สามารถแก้ไขปัญหาผลิตภัณฑ์ โดยการปรับปรุงแบรนด์ได้

Results (Thai) 2:

แย่มิกกี้ D's ก่อนจะขายหุ้นใน บริษัท Chipotle เท่านั้นที่จะเห็นว่าแบรนด์คราสการเจริญเติบโตของตัวเองแล้วมันจะกลายเป็นเด็กโปสเตอร์สำหรับแรงงานค่าจ้างต่ำกว่า. แทนที่จะให้บริการอาหารที่ดีขึ้นและการทำแฟรนไชส์ที่จ่ายค่าจ้างชีวิต, โดนัลด์ตัดสินใจว่าปัญหาที่แท้จริงก็คือ ว่าแบรนด์ที่จำเป็นปั่นเงา. ผล: การยกเลิก "Lovin 'Beats hatin'" แคมเปญและรีบูต yuppie ของน่าขนลุกแล้ว Hamburglar. บทเรียนที่ได้เรียนรู้: คุณไม่สามารถแก้ไขปัญหาผลิตภัณฑ์โดยการปรับปรุงแบรนด์

Results (Thai) 3:

น่าสงสารมิกกี้ D . แรกก็ขายสัดส่วนการลงทุนใน Chipotle เท่านั้นที่เห็นคราสแบรนด์ของตัวเองเติบโตและจากนั้นมันจะกลายเป็นเด็กโปสเตอร์สำหรับแรงงานได้เงินน้อย

มากกว่าการให้อาหารดีกว่า และทำให้ชีวิตของแฟรนไชเซอร์จ่ายค่าจ้าง แมคโดนัลด์ ตัดสินใจ ว่า ปัญหาที่แท้จริงคือที่แบรนด์ต้องการ burnishing .

ผล :การยกเลิก " Lovin ' เต้น hatin ' " แคมเปญและยัปปี้ บูตของแฮมเบอร์กลาร์น่าขนลุกแล้ว บทเรียน

เรียน : คุณไม่สามารถแก้ไขปัญหา ปรับปรุงผลิตภัณฑ์ โดยแบรนด์