Taraxacum brevicorniculatum produce

Taraxacum brevicorniculatum produces high-quality natural rubber in its roots and could be developed as an alternative commercial source of this valuable raw material. However, current wild type accessions have a low biomass and branched roots that make them difficult to harvest. We set out to determine the optimum fertilizer and spacing requirements for T. brevicorniculatum plants in greenhouse and field trials, aiming to increase root biomass and reduce branching thus maximizing rubber yield and reducing losses during harvesting. Our preliminary data from greenhouse trials show that fertilizers containing calcium and magnesium in addition to NPK (nitrogen, phosphorus and potassium) increase root biomass by 25% compared to standard NPK fertilizer plus boron, and by 15% compared to NPK plus calcium. Fertilizers with a low N:P ratio increased the root biomass in greenhouse and field trials. Dense sowing (5–10 cm between plants) inhibits root branching and leads to the formation of single taproots that can be harvested easily. We therefore provisionally recommend the application of low N:P ratio NPK fertilizer supplemented with calcium and magnesium to closely-spaced plants in order to achieve the greatest increase in plant biomass per hectare.

Results (Thai) 1:

Taraxacum brevicorniculatum ผลิตยางธรรมชาติคุณภาพสูงในรากของมัน และสามารถพัฒนาเป็นเชิงพาณิชย์อื่นของวัตถุดิบที่มีประโยชน์นี้ อย่างไรก็ตาม accessions ป่าชนิดปัจจุบันมีชีวมวลต่ำ และ branched รากที่ทำให้ยากต่อการเก็บเกี่ยว เราจะออกตรวจสอบปุ๋ยที่เหมาะสมและความต้องการระยะห่างสำหรับพืชเรือนกระจกและฟิลด์ทดลอง brevicorniculatum ต.มุ่งเพื่อเพิ่มมวลชีวภาพของราก และลดสาขาเพิ่มยางดังนั้น ผลผลิตและลดการสูญเสียระหว่างการเก็บเกี่ยว ข้อมูลเบื้องต้นจากเรือนกระจกทดลองแสดงว่า ปุ๋ยที่ประกอบด้วยแคลเซียมและแมกนีเซียมนอกจาก NPK (ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียม) เพิ่มรากชีวมวล โดย 25% เมื่อเทียบกับมาตรฐานปุ๋ย NPK plus โบรอน และ 15% เมื่อเทียบกับ NPK plus แคลเซียม ปุ๋ยที่ มีอัตราส่วน N:P ต่ำการเพิ่มมวลชีวภาพของรากในเรือนกระจกและฟิลด์การทดลอง หนาแน่น sowing (5 – 10 เซนติเมตรระหว่างพืช) ยับยั้งสาขาราก และนำไปสู่การก่อตัวของสหภาพเดียวที่สามารถเก็บเกี่ยวได้ง่าย จึงสู่ขอแนะนำการประยุกต์อัตราส่วน N:P ต่ำปุ๋ย NPK ที่เสริม ด้วยแคลเซียมและแมกนีเซียมเพื่อพืชระยะอย่างใกล้ชิดเพื่อให้พืชชีวมวลต่อ hectare เพิ่มมากที่สุด

Results (Thai) 2:

Taraxacum brevicorniculatum ผลิตที่มีคุณภาพสูงยางธรรมชาติในรากของมันและสามารถพัฒนาเป็นแหล่งการค้าทางเลือกวัตถ​​ุดิบที่มีคุณค่านี้ แต่สายพันธุ์ปัจจุบันมีชีวมวลต่ำและรากแขนงที่ทำให้พวกเขายากที่จะเก็บเกี่ยว เราได้ออกเดินทางไปตรวจสอบปุ๋ยที่เหมาะสมและความต้องการระยะห่าง T. สำหรับพืช brevicorniculatum ในเรือนกระจกและการทดลองภาคสนามมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มชีวมวลรากและลดการแตกแขนงดังนั้นการเพิ่มผลผลิตยางและลดการสูญเสียในระหว่างการเก็บเกี่ยว ข้อมูลเบื้องต้นจากการทดลองของเราแสดงให้เห็นว่าเรือนกระจกปุ๋ยที่มีแคลเซียมและแมกนีเซียมนอกเหนือไปจาก NPK (ไนโตรเจนฟอสฟอรัสและโพแทสเซียม) เพิ่มชีวมวลรากขึ้น 25% เมื่อเทียบกับปุ๋ย NPK มาตรฐานบวกโบรอนและ 15% เมื่อเทียบกับ NPK บวกแคลเซียม ปุ๋ยที่มีต่ำไม่มีอัตราส่วน P ชีวมวลเพิ่มขึ้นรากในเรือนกระจกและการทดลองภาคสนาม หว่านหนาแน่น (5-10 ซม. ระหว่างพืช) ยับยั้งการแตกแขนงรากและนำไปสู่​​การก่อตัวของ taproots เดียวที่สามารถเก็บเกี่ยวได้อย่างง่ายดาย ดังนั้นเราจึงชั่วคราวแนะนำการประยุกต์ใช้ในระดับต่ำยังไม่มีอัตราส่วน P ปุ๋ย NPK เสริมด้วยแคลเซียมและแมกนีเซียมให้กับโรงงานอย่างใกล้ชิดระยะห่างเพื่อให้บรรลุเพิ่มขึ้นมากที่สุดในชีวมวลของพืชต่อเฮกตาร์

Results (Thai) 3:

taraxacum brevicorniculatum ผลิตยางที่มีคุณภาพสูงในราก และสามารถพัฒนาเป็นทางเลือกแหล่งการค้าของวัตถุดิบนี้มีคุณค่า อย่างไรก็ตาม ตัวอย่างประเภทป่า ปัจจุบันมีจำนวนน้อยและกิ่งรากที่ทำให้พวกเขายากที่จะเก็บเกี่ยว เราตั้งค่าออกเพื่อหาปุ๋ยที่เหมาะสมและระยะห่างของ Tbrevicorniculatum พืชในเรือนกระจกและการทดลองภาคสนาม , เล็งเพิ่มปริมาณรากและกิ่งจึงลด เพิ่มผลผลิตยางพารา และลดความสูญเสียในการเก็บเกี่ยว ข้อมูลเบื้องต้นจากการทดลองแสดงให้เห็นว่าปุ๋ยเรือนกระจกที่มีแคลเซียมและแมกนีเซียมนอกจากนี้ NPK ไนโตรเจนฟอสฟอรัสและโพแทสเซียม ) เพิ่มปริมาณรากโดย 25% เมื่อเทียบกับมาตรฐาน NPK ปุ๋ยและโบรอน และ 15% เมื่อเทียบกับปุ๋ย NPK และแคลเซียม ปุ๋ยที่มี N : P ratio ต่ำเพิ่มขึ้นรากชีวมวลในเรือนกระจกและการทดลองภาคสนาม . หนาแน่น ( 5 – 10 เซนติเมตร ระหว่างปลูกพืช ) ยับยั้งรากกิ่งและนำไปสู่การก่อตัวของรากแก้วเดี่ยวที่สามารถเก็บเกี่ยวได้โดยง่ายดังนั้น เราจึงแนะนำให้ใช้ชั่วคราวต่ำ N : P เท่ากับ NPK ปุ๋ยเสริมด้วยแคลเซียมและแมกนีเซียมเพื่ออย่างใกล้ชิดระยะพืชเพื่อให้บรรลุเพิ่มมากที่สุดในชีวมวลต้นต่อเฮกแตร์