การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาปัจจัยที่เป็นสาเหตุทำให้ทหารติดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อศึกษาพฤติกรรมการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของทหาร เพื่อศึกษาผลกระทบจาก
การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของทหารในด้านต่างๆ และศึกษาความคิดเห็นในมาตรการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในภาครัฐและแนวโน้มในการตัดสินใจเลิกดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของทหาร ประชากรที่และกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ เจ้าหน้าที่ทหารสังกัดหนึ่งจำนวนทั้งสิ้น 30 คน ที่มีพฤติกรรมการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ รับราชการทหารใน กรุงเทพมหานครเครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้เป็นแบบสอบถาม แนวคำถามในการสัมภาษณ์ความคิดเห็น สร้างจากการศึกษาข้อมูลเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องโดยลักษณะคำถามมีทั้งปลายปิดและปลายเปิด โครงสร้างของแบบสอบถามและแนวคำถามในการสัมภาษณ์ วิเคราะห์ข้อมูลเอกสาร (Content Analysis) พรรณนาและอธิบายปรากฏการณ์ วิเคราะห์สาเหตุและผล (Cause and Effect Analysis) ผลที่เกิดจากเหตุในการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สถิติเชิงบรรยาย (Description Statistics) ค่าร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย (Mean) ผลปรากฏดังนี้
1. เพื่อศึกษาเพื่อศึกษาปัจจัยที่เป็นสาเหตุทำให้ทหารติดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เริ่มดื่มเมื่อเฉลี่ยที่ 16 ปีมีสาเหตุจากถูกชักชวนมากที่สุด จำนวน 14 คน (46.67%) โดยถูกชักชวนจากเพื่อนมากที่สุดจำนวน 10 คน (71.42%) ครั้งแรกดื่มเหล้าสี จำนวน 17คน (56.67%) มากกว่าครึ่งที่ดื่มกับเพื่อน จำนวน 24 คน คิ (80%) ความรู้สึกในการดื่มครั้งแรกรู้สึกถึงรสชาติแปลกขมจำนวน 23 คน (76.67%) สถานที่ในการดื่มครั้งแรกดื่มในบ้านหรือที่พักอาศัยของเพื่อนเป็นจำนวนมากที่สุด 12 คน (40%) ปัจจัยทางจิตวิทยา มีความสุขผ่อนคลายความตึงเครียด 28 คน (93.33%) หายเหนื่อยจากการทำงาน จำนวน 25 คน (83.33%) บริเวณรอบที่พักอาศัยมีร้านจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ซื้อได้สะดวก จำนวน 29คน (96.67%) ทำให้ง่ายต่อการซื้อแต่ในความเป็นทหารไม่สามารถซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แบบสินเชื่อได้ และเห็นคนส่วนใหญ่ก็ดื่มกันทั้งนั้น จำนวน 22 คน ( 73.33%)
ผู้ที่เห็นพ่อแม่ดื่มเป็นประจำคิดว่าไม่มีผลต่อการดื่มของตนเอง ปัจจัยทางสังคม ร่วมดื่มกับเพื่อนร่วมงาน จำนวน 26 คน (86.67%) ชอบดื่มสุราหลังเวลาเลิกงาน จำนวน 26คน คิดเป็นร้อยละ 86.67 พบปะสังสรรค์เพื่อดื่มสุราทุกครั้งที่รับเงินเดือน จำนวน 19 คน (63.33%) ทหารส่วนใหญ่จะไม่ร่วมดื่มกับบุคคลในครอบครัวแต่จะดื่มกับเพื่อนบ้านหรือเพื่อนร่วมงาน
2. เพื่อศึกษาพฤติกรรมการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของทหาร คิดว่าตนเองดื่มได้มากกว่าผู้อื่น จำนวน 17คน (56.67%) สาเหตุในการดื่มในปัจจุบันพบว่าถูกชักชวนให้ดื่ม จำนวน 26 คน (86.67%) รุ่นพี่ชักชวนมากที่สุด จำนวน 17 คน (65.38%) นิยมดื่มสุราสี จำนวน 29 คน คิด
(96.67%) และเบียร์ จำนวน 28 คน (93.33%) แสดงว่ามีอย่างน้อย 28 คน นิยมดื่มในร้านอาหารหรือสถานบันเทิงจำนวน 19คน (63.33%) ค่าใช่จ่ายในการดื่มสุราต่อเดือน3400 บาทมีค่าใช้จ่ายในการดื่มสุราสูงสุดคือ 5000 บาทต่อเดือนโดย เฉลี่ยค่าใช้จ่ายในการดื่มสุราอยู่ที่ 3300 บาทต่อเดือน ครั้งละ 206 บาท ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์วันเว้นวันจำนวน 11 คน (36.67%) ดื่มสุราเกือบทุกวัน จำนวน 10 คน (33.33%) บ่อยครั้งที่การดื่มเป็นสาเหตุทำให้ไม่สามารถทำสิ่งต่างตามปกติอย่างที่เคยทำได้เกิดขึ้นทุกสัปดาห์ จำนวน 17 คน (56.67%) บ่อยครั้งของการเริ่มต้นดื่มเครื่องดื่มแล้วจะไม่สามารถหยุดดื่มได้เกิดขึ้นทุกสัปดาห์จำนวน 10 คน (33.33%) ต้องการดื่มในตอนเช้าเพื่อให้รู้สึกดีขึ้นหลังจากที่ได้ดื่มอย่างหนักมาก่อนหน้านี้ไม่เคยเกิดขึ้นเลย จำนวน 22 คน (73.33%) เสียใจรู้สึกผิดกับการกระทำหลังการดื่ม ไม่เคยรู้สึกผิดกับการกระทำหลังดื่มสุราเลย จำนวน 17 คน (56.67%) การดื่มทำให้ไม่สามารถจดจำได้ว่าเกิดอะไรบ้างในคืนที่ดื่มจนเมาเกิดขึ้นทุกสัปดาห์จำนวน 15 คน (50%) มีแพทย์และเพื่อนหรือบุคคลแสดงความเป็นห่วงในการดื่มของท่านพบว่าส่วนใหญ่ไม่เคยได้รับการเตือนเลยเรื่องการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จำนวน 24 คน (80%) ทั้งที่การดื่มมีผลกระทบในหลายด้าน
3. ผลกระทบจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ด้านร่างกาย เกิดอาการผิดปกติในร่างกายมีอาการหลงลืมเป็นระยะ จำนวน 18 คน (60%) อารมณ์หงุดหงิดง่ายจำนวน 14 คน (46.7%) เมาค้างจำนวน 12 (40%) อาการคลื่นไส้อาเจียนจำนวน 9 คน (30%) มีเพศสัมพันธ์กับผู้อื่นที่ไม่ใช่คู่สมรสจำนวน 5 คน (16.67%) ด้านการทำงาน ไม่ทำให้ทำงานผิดพลาดจำนวน 26 คน (86.67%)และการดื่มแอลกอฮอล์ไม่ทำให้ขาด/ลา/มาสายในการทำงานจำนวน 27 คน (90%) ด้านเศรษฐกิจ มีปัญหาด้านการเงินเสียค่าใช้จ่ายในการซื้อสุราจำนวน 26 คน (86.67%) ด้านสังคม เสียสัมพันธภาพกับสมาชิกในครอบครัวเกิด ความหวาดระแวงและหึงจำนวน 19 คน (63.33%) หวงโต้เถียง ทะเลาะวิวาทจำนวน 8 คน (26.66%) และสัมพันธภาพกับคนในครอบครัวไม่ดี จำนวน 5 คน (16.67%) พูดจาเอะอะ โวยวายจำนวน 12 คน (40%) ไม่ทำให้เกิดผลเสียต่อความสัมพันธ์ในเพื่อนฝูงหรือเพื่อนร่วมงานไม่เห็นด้วย จำนวน 17 คน (56.66)

4.แนวทางในการเลิกดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เห็นควรจะเพิ่มแนวทางการควบคุมการจำหน่ายแอลกอฮอล์ให้อยู่ในเวลาที่กำหนดและเพิ่มโทษของผู้ฝ่าฝืน งดขายเหล้าในสถานที่ราชการและตั้งด่านตรวจแอลกอฮอล์อย่างจริงจัง ห้ามโชว์สินค้าสุราปิดบริษัทที่จำหน่ายรณรงค์ผลเสียของการดื่มสุรา ร่วมทั้งแสดงให้เห็นถึงโทษของการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แก่เยาวชน

Results (English) 1:

This research aims to study the factors that cause the military stick to alcohol. To study the behavior of soldiers drinking alcohol in order to study the effects of.การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของทหารในด้านต่างๆ และศึกษาความคิดเห็นในมาตรการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในภาครัฐและแนวโน้มในการตัดสินใจเลิกดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของทหาร ประชากรที่และกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ เจ้าหน้าที่ทหารสังกัดหนึ่งจำนวนทั้งสิ้น 30 คน ที่มีพฤติกรรมการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ รับราชการทหารใน กรุงเทพมหานครเครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้เป็นแบบสอบถาม แนวคำถามในการสัมภาษณ์ความคิดเห็น สร้างจากการศึกษาข้อมูลเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องโดยลักษณะคำถามมีทั้งปลายปิดและปลายเปิด โครงสร้างของแบบสอบถามและแนวคำถามในการสัมภาษณ์ วิเคราะห์ข้อมูลเอกสาร (Content Analysis) พรรณนาและอธิบายปรากฏการณ์ วิเคราะห์สาเหตุและผล (Cause and Effect Analysis) ผลที่เกิดจากเหตุในการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สถิติเชิงบรรยาย (Description Statistics) ค่าร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย (Mean) ผลปรากฏดังนี้1. เพื่อศึกษาเพื่อศึกษาปัจจัยที่เป็นสาเหตุทำให้ทหารติดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เริ่มดื่มเมื่อเฉลี่ยที่ 16 ปีมีสาเหตุจากถูกชักชวนมากที่สุด จำนวน 14 คน (46.67%) โดยถูกชักชวนจากเพื่อนมากที่สุดจำนวน 10 คน (71.42%) ครั้งแรกดื่มเหล้าสี จำนวน 17คน (56.67%) มากกว่าครึ่งที่ดื่มกับเพื่อน จำนวน 24 คน คิ (80%) ความรู้สึกในการดื่มครั้งแรกรู้สึกถึงรสชาติแปลกขมจำนวน 23 คน (76.67%) สถานที่ในการดื่มครั้งแรกดื่มในบ้านหรือที่พักอาศัยของเพื่อนเป็นจำนวนมากที่สุด 12 คน (40%) ปัจจัยทางจิตวิทยา มีความสุขผ่อนคลายความตึงเครียด 28 คน (93.33%) หายเหนื่อยจากการทำงาน จำนวน 25 คน (83.33%) บริเวณรอบที่พักอาศัยมีร้านจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ซื้อได้สะดวก จำนวน 29คน (96.67%) ทำให้ง่ายต่อการซื้อแต่ในความเป็นทหารไม่สามารถซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แบบสินเชื่อได้ และเห็นคนส่วนใหญ่ก็ดื่มกันทั้งนั้น จำนวน 22 คน ( 73.33%)Those who see their parents drinking regularly, I think does not affect their own drink. Social factors together with colleagues, a number of the 26 people (86.67%) like to drink alcohol after work. The number of people accounted for 26 per cent to 86.67 nightfall binge every time they get a salary. The number 19 (63.33%), most of the soldiers will not be shared with the person in the family, but to drink with friends or colleagues.2. to study the behavior of an alcoholic drink thought himself a drink more than others. 17 people (56.67%) causes the current found that drinking is drinking the amount of 26 people to persuade (86.67%) most elder solicitation number 17 (65.38%) appreciated the color number of 29 people think binge.(96.67%) และเบียร์ จำนวน 28 คน (93.33%) แสดงว่ามีอย่างน้อย 28 คน นิยมดื่มในร้านอาหารหรือสถานบันเทิงจำนวน 19คน (63.33%) ค่าใช่จ่ายในการดื่มสุราต่อเดือน3400 บาทมีค่าใช้จ่ายในการดื่มสุราสูงสุดคือ 5000 บาทต่อเดือนโดย เฉลี่ยค่าใช้จ่ายในการดื่มสุราอยู่ที่ 3300 บาทต่อเดือน ครั้งละ 206 บาท ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์วันเว้นวันจำนวน 11 คน (36.67%) ดื่มสุราเกือบทุกวัน จำนวน 10 คน (33.33%) บ่อยครั้งที่การดื่มเป็นสาเหตุทำให้ไม่สามารถทำสิ่งต่างตามปกติอย่างที่เคยทำได้เกิดขึ้นทุกสัปดาห์ จำนวน 17 คน (56.67%) บ่อยครั้งของการเริ่มต้นดื่มเครื่องดื่มแล้วจะไม่สามารถหยุดดื่มได้เกิดขึ้นทุกสัปดาห์จำนวน 10 คน (33.33%) ต้องการดื่มในตอนเช้าเพื่อให้รู้สึกดีขึ้นหลังจากที่ได้ดื่มอย่างหนักมาก่อนหน้านี้ไม่เคยเกิดขึ้นเลย จำนวน 22 คน (73.33%) เสียใจรู้สึกผิดกับการกระทำหลังการดื่ม ไม่เคยรู้สึกผิดกับการกระทำหลังดื่มสุราเลย จำนวน 17 คน (56.67%) การดื่มทำให้ไม่สามารถจดจำได้ว่าเกิดอะไรบ้างในคืนที่ดื่มจนเมาเกิดขึ้นทุกสัปดาห์จำนวน 15 คน (50%) มีแพทย์และเพื่อนหรือบุคคลแสดงความเป็นห่วงในการดื่มของท่านพบว่าส่วนใหญ่ไม่เคยได้รับการเตือนเลยเรื่องการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จำนวน 24 คน (80%) ทั้งที่การดื่มมีผลกระทบในหลายด้าน3. ผลกระทบจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ด้านร่างกาย เกิดอาการผิดปกติในร่างกายมีอาการหลงลืมเป็นระยะ จำนวน 18 คน (60%) อารมณ์หงุดหงิดง่ายจำนวน 14 คน (46.7%) เมาค้างจำนวน 12 (40%) อาการคลื่นไส้อาเจียนจำนวน 9 คน (30%) มีเพศสัมพันธ์กับผู้อื่นที่ไม่ใช่คู่สมรสจำนวน 5 คน (16.67%) ด้านการทำงาน ไม่ทำให้ทำงานผิดพลาดจำนวน 26 คน (86.67%)และการดื่มแอลกอฮอล์ไม่ทำให้ขาด/ลา/มาสายในการทำงานจำนวน 27 คน (90%) ด้านเศรษฐกิจ มีปัญหาด้านการเงินเสียค่าใช้จ่ายในการซื้อสุราจำนวน 26 คน (86.67%) ด้านสังคม เสียสัมพันธภาพกับสมาชิกในครอบครัวเกิด ความหวาดระแวงและหึงจำนวน 19 คน (63.33%) หวงโต้เถียง ทะเลาะวิวาทจำนวน 8 คน (26.66%) และสัมพันธภาพกับคนในครอบครัวไม่ดี จำนวน 5 คน (16.67%) พูดจาเอะอะ โวยวายจำนวน 12 คน (40%) ไม่ทำให้เกิดผลเสียต่อความสัมพันธ์ในเพื่อนฝูงหรือเพื่อนร่วมงานไม่เห็นด้วย จำนวน 17 คน (56.66) 4. guidelines for drinking alcohol. Reviews should be added to the guidelines to regulate the sale of alcohol at the time, and increase punishment of violators. Abstain from liquor in a public place and checkpoint alcohol seriously. Do not show the items the company sells liquor off Midway through the effects of alcohol use also illustrates the consequence of drinking alcohol for an unforgettable youth.

Results (English) 3:

The purpose of this research is To study the factors causing the soldiers with alcohol. Study of alcohol drinking behavior of soldiers, to study the impact of
.การ ดื่ม เครื่องดื่ม แอลกอฮอล์ nearby ใน our cousin และ ศึกษา ความคิดเห็น ใน มาตรการ ควบคุม เครื่องดื่ม แอลกอฮอล์ has punishment และ แนวโน้ม ใน การตัดสิน ใจเลิก transferring แอลกอฮอล์ ของ ทหาร EOSThe military officer under the one were 30 people. With alcohol drinking behavior. Military service. กรุงเทพมหานคร เครื่องมือ. Living การศึกษา ครั้งนี้ in แบบสอบถาม EOSCreate the study from related documents and research the questions with both ends open and closed ends. The structure of the questionnaire and the interview questions analyzed documents (Content Analysis) describe and explain the phenomenon.