Theory on self-efficacy was employe

Theory on self-efficacy was employed to predict a positive relationship between leader efficacy and small business innovation (Hypothesis 3). As displayed in Table 2, the results of our analysis indicate a positive and significant relationship between efficacy and innovation (β = 0.812; p = 0.01). Thus, strong support was found for Hypothesis 3.

Results (Thai) 1:

ทฤษฎีประสิทธิภาพในตนเองถูกจ้างเพื่อทำนายความสัมพันธ์เชิงบวกระหว่างประสิทธิภาพของผู้นำและนวัตกรรมทางธุรกิจขนาดเล็ก (สมมติฐานที่ 3) ตามที่แสดงในตารางที่ 2 ผลของการวิเคราะห์ระบุความสัมพันธ์เชิงบวก และมีความสำคัญระหว่างประสิทธิภาพและนวัตกรรม (β = 0.812; p = 0.01) ดังนั้น แรงสนับสนุนที่พบสำหรับ 3 สมมติฐาน

Results (Thai) 2:

ทฤษฎีการรับรู้ความสามารถตนเองเป็นลูกจ้างในการทำนายความสัมพันธ์เชิงบวกระหว่างการรับรู้ความสามารถเป็นผู้นำและนวัตกรรมธุรกิจขนาดเล็ก (สมมติฐาน 3) ตามที่แสดงในตารางที่ 2 ผลการวิเคราะห์ของเราแสดงให้เห็นความสัมพันธ์ในเชิงบวกและมีนัยสำคัญระหว่างประสิทธิภาพและนวัตกรรม (β = 0.812; p = 0.01) ดังนั้นการสนับสนุนที่แข็งแกร่งถูกพบสมมติฐาน 3

Results (Thai) 3:

ทฤษฎีการรับรู้ความสามารถของตนมาใช้เพื่อทำนายความสัมพันธ์ระหว่าง ผู้นำนวัตกรรมประสิทธิภาพและธุรกิจขนาดเล็ก ( สมมติฐาน 3 ) ตามที่แสดงในตารางที่ 2 ผลของการวิเคราะห์ของเราแสดงความสัมพันธ์บวกระหว่างประสิทธิภาพและนวัตกรรม ( บีตา = 0.812 ; p = 0.01 ) ดังนั้น การสนับสนุนที่แข็งแกร่งพบสมมติฐาน 3 .