International trade theory recogniz

International trade theory recognizes three fundamental reasons for countries to trade: comparative advantage (to exploit differences in countries' tastes, technologies, or factor endowments), economies of scale (to concentrate on fewer tasks in order to produce more efficiently), and imperfect competition (to expose firms to more competition). Comparative advantage has always been dominant in trade theory, although economies of scale also long played a secondary role. This changed in the late 1970s, when economists realized that the lion's share of world trade consisted of the exchange of similar (manufactured) goods between similar (rich) countries.

A common reaction to this realization was that such trade could not be due to comparative advantage. But if similar countries trade similar goods, price elasticities (the sensitivities of demands and supplies of goods to price variations) are likely to be high since the traded products will likely be good substitutes. Similar countries would have similar relative prices in autarky (the absence of international trade), so comparative-advantage trade, establishing a world price between the two autarky prices, would imply a modest price change in each country. But, with high elasticities, this could still involve heavy trade. Likewise, dissimilar countries trading very distinct goods - manufactures for primary products, for example - could be expected to experience large price changes, but the resulting trade volumes could be small as price elasticities are likely to be low.

So, comparative advantage was not necessarily inconsistent with actual trade. Nevertheless, it was important to consider alternative possibilities because, although trade to exploit differences does not imply that the greater the differences, the greater the trade, it does imply, other things being equal, that the greater the differences, the greater the gains from trade. Thus one might conclude that the smaller part of world trade - that between dissimilar countries in quite different products - is more important for policy. But if trade patterns are significantly due to something other than comparative advantage, this conclusion need not follow.

Increasing returns to scale (IRS) and imperfect competition supply alternatives. This article considers the former, often also referred to as economies of scale.

Types of Scale Economies In practice, scale economies occur in great variety, so a classification of the more important attributes is useful.

Internal versus external (to the firm). Scale economies are internal if the individual firm can reduce average costs by operating at a higher scale (e.g., assembly-line operations and equipment made possible by large-scale production). They are external if the individual firm operates subject to constant returns to scale (CRS), but costs are lower the larger the industry in which the firm is located (e.g., well-developed infrastructure and a large supply of skilled workers consequent on a large industrial sector). Internal economies are inconsistent with a perfectly competitive equilibrium, and external economies are, well, externalities. Since the theory of comparative advantage assumes perfect competition and no externalities, trade due to economies of scale alone cannot be comparative-advantage trade.

National versus international. Economies of scale may depend on the scale of operations within a nation (e.g., large plant size) or on the scale of operations globally (e.g., division of labor and free trade in intermediate goods). Either might be internal or external to the firm. An example of internal, international economies of scale is research and development (R&D) by a multinational firm that utilizes the results of the R&D in several countries.

Aggregative versus disaggregative. Increasing returns may be a property of manufacturing generally (e.g., the size of the industrial sector) or of individual manufactured goods (e.g., the number of red sedans).

These three considerations generate eight types of scale economies, each relevant in reality. Comparative-advantage trade can also be due to many causes, but they all matter solely in terms of how they influence differences in relative autarky prices. This imparts an attractive formal unity to that theory's predictions. Trade due to economies of scale is dramatically different: Basic implications are indeed very sensitive to the type of scale economy. Consider first national, aggregative, increasing returns external to the firm.

Results (Thai) 1:

ทฤษฎีการค้าระหว่างประเทศตระหนักถึงสามเหตุผลพื้นฐานสำหรับประเทศเพื่อการค้า: ได้เปรียบเชิงเปรียบเทียบ (จะใช้ประโยชน์จากความแตกต่างในรสนิยมของประเทศ ', เทคโนโลยีหรือปัจจัยประการ) การประหยัดจากขนาด (ที่จะมีสมาธิกับงานที่น้อยลงเพื่อที่จะผลิตมากขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ) และการแข่งขันที่ไม่สมบูรณ์ (บริษัท จะเปิดเผยถึงการแข่งขันมากขึ้น)ได้เปรียบเชิงเปรียบเทียบได้เสมอที่โดดเด่นในทางทฤษฎีการค้าแม้ว่าการประหยัดจากขนาดยาวยังเล่นบทบาทรอง นี้เปลี่ยนแปลงไปในปี 1970 เมื่อนักเศรษฐศาสตร์ตระหนักว่าสิงโตของหุ้นของการค้าโลกประกอบด้วยการแลกเปลี่ยนของสินค้า (การผลิต) ที่คล้ายกันระหว่างประเทศที่คล้ายกัน (รวย).

ปฏิกิริยาร่วมกันเพื่อก่อให้เกิดนี้ก็คือการที่การค้าดังกล่าวไม่สามารถจะเป็นเพราะความได้เปรียบเชิงเปรียบเทียบ แต่ถ้าประเทศที่คล้ายกันค้าสินค้าคล้ายยืดหยุ่นราคา (ความเปราะบางของความต้องการและอุปกรณ์ของสินค้าไปยังรูปแบบราคาคงที่) มีแนวโน้มที่จะสูงตั้งแต่การซื้อขายสินค้าอาจจะทดแทนที่ดีประเทศที่คล้ายกันจะมีราคาที่ญาติที่คล้ายกันในพึ่งตน (ไม่มีตัวตนของการค้าระหว่างประเทศ) ดังนั้นการค้าเปรียบเทียบเปรียบการสร้างราคาโลกระหว่างสองราคาพึ่งตนจะบ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงของราคาเจียมเนื้อเจียมตัวในแต่ละประเทศ แต่มีความยืดหยุ่นสูงนี้ยังอาจเกี่ยวข้องกับการค้าหนัก เช่นเดียวกัน,ประเทศที่แตกต่างกันการซื้อขายสินค้าที่แตกต่างกันมาก - ผลิตสำหรับผลิตภัณฑ์หลักเช่น -. คาดว่าอาจจะได้สัมผัสกับการเปลี่ยนแปลงของราคาขนาดใหญ่ แต่ส่งผลให้ปริมาณการค้าอาจจะมีขนาดเล็กเป็นความยืดหยุ่นราคามีแนวโน้มที่จะต่ำ

ดังนั้นได้เปรียบเชิงเปรียบเทียบคือไม่จำเป็นต้อง ที่ไม่สอดคล้องกับการค้าที่เกิดขึ้นจริง แต่อย่างไรก็ตามมันเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องพิจารณาทางเลือกที่เป็นไปได้เพราะแม้ว่าการค้าจะใช้ประโยชน์จากความแตกต่างไม่ได้หมายความว่ายิ่งใหญ่กว่าความแตกต่างที่มากขึ้นการค้ามันจะบ่งบอกถึงสิ่งอื่น ๆ เหมือนกันที่แตกต่างกันมากขึ้นมากขึ้นกำไรจากการค้าหนึ่งจึงอาจสรุปได้ว่าเล็ก ๆ ส่วนหนึ่งของการค้าโลก - ว่าระหว่างประเทศที่แตกต่างกันในผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างกันมาก - มีความสำคัญสำหรับนโยบาย แต่ถ้ารูปแบบการค้าอย่างมีนัยสำคัญเนื่องจากสิ่งอื่นนอกเหนือจากได้เปรียบเชิงเปรียบเทียบข้อสรุปนี้ไม่จำเป็นต้องทำตาม.

เพิ่มผลตอบแทนให้กับขนาด (IRS) และทางเลือกอุปทานการแข่งขันไม่สมบูรณ์ บทความนี้จะพิจารณาในอดีต,มักจะยังเรียกว่าการประหยัดจากขนาด.

ประเภทของเศรษฐกิจขนาดในทางปฏิบัติขนาดเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในความหลากหลายที่ดีเพื่อให้การจัดหมวดหมู่ของคุณลักษณะที่สำคัญมากขึ้นจะเป็นประโยชน์.

ภายในกับภายนอก (ให้ บริษัท ) เศรษฐกิจขนาดเป็นภายในถ้าแต่ละ บริษัท สามารถลดค่าใช้จ่ายโดยเฉลี่ยจากการดำเนินงานในระดับที่สูงขึ้น (เช่นการดำเนินงานของสายการประกอบและอุปกรณ์ทำไปโดยการผลิตขนาดใหญ่) พวกเขาอยู่ภายนอกถ้าแต่ละ บริษัท ดำเนินงานภายใต้ผลตอบแทนที่คงที่ขนาด (CRS) แต่ค่าใช้จ่ายที่ต่ำกว่าที่มีขนาดใหญ่ในภาคอุตสาหกรรมของ บริษัท ซึ่งตั้งอยู่ (เช่นโครงสร้างพื้นฐานทั้งการพัฒนาและอุปทานขนาดใหญ่ของแรงงานที่มีทักษะที่เกิดขึ้นเมื่อมีขนาดใหญ่ ภาคอุตสาหกรรม)เศรษฐกิจภายในที่ไม่สอดคล้องกับความสมดุลในการแข่งขันอย่างสมบูรณ์และเศรษฐกิจภายนอกดีวงนอก ตั้งแต่ทฤษฎีของการได้เปรียบเชิงเปรียบเทียบถือว่าการแข่งขันที่สมบูรณ์แบบและสภาพแวดล้อมที่ไม่มีการค้าเนื่องจากการประหยัดจากขนาดเพียงอย่างเดียวไม่สามารถเปรียบเทียบความได้เปรียบการค้า.

ชาติเมื่อเทียบกับต่างประเทศการประหยัดจากขนาดอาจขึ้นอยู่กับขนาดของการดำเนินงานภายในประเทศ (เช่นโรงงานขนาดใหญ่) หรือในระดับของการดำเนินงานทั่วโลก (เช่นการแบ่งงานและการค้าเสรีในสินค้าขั้นกลาง) อย่างใดอย่างหนึ่งอาจจะเป็นภายในหรือภายนอก บริษัท ตัวอย่างของภายใน,เศรษฐกิจระหว่างประเทศของขนาดคือการวิจัยและพัฒนา (R &ง) โดย บริษัท ข้ามชาติที่ใช้ผลของการ r &งในหลายประเทศ.

aggregative กับ disaggregative ผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้นอาจจะเป็นทรัพย์สินของการผลิตโดยทั่วไป (เช่นขนาดของภาคอุตสาหกรรม) หรือจากสินค้าที่ผลิตแต่ละ (เช่นจำนวนของรถเก๋งสีแดง).

เหล่านี้พิจารณาสามสร้างแปดชนิดของเศรษฐกิจขนาดแต่ละที่เกี่ยวข้องในความเป็นจริง เปรียบเทียบความได้เปรียบการค้านอกจากนี้ยังสามารถเกิดจากหลายสาเหตุ แต่พวกเขาไม่ทั้งหมด แต่เพียงผู้เดียวในแง่ของวิธีที่พวกเขามีอิทธิพลต่อความแตกต่างในราคาที่ญาติพึ่งตน ภูมิต้านทานนี้ความสามัคคีอย่างเป็นทางการน่าสนใจให้กับการคาดการณ์ของทฤษฎีที่ว่า การค้าเนื่องจากการประหยัดจากขนาดที่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด:ผลกระทบขั้นพื้นฐานที่แท้จริงมีความสำคัญมากกับชนิดของเศรษฐกิจขนาด พิจารณาเป็นครั้งแรกของประเทศ aggregative ผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้นภายนอก บริษัท

Results (Thai) 2:

ทฤษฎีการค้าระหว่างประเทศตระหนักถึงสาเหตุพื้นฐานสามประเทศเพื่อการค้า: เปรียบโดยเปรียบเทียบ (การใช้ความแตกต่างในรสนิยมของประเทศ เทคโนโลยี ปัจจัยสาธารณะกุศล) เศรษฐกิจของมาตราส่วน (การมุ่งเน้นงานน้อยลงเพื่อให้ผลิตมีประสิทธิภาพมากขึ้น), และการแข่งขันไม่สมบูรณ์ (ประจานบริษัทการแข่งขันเพิ่มเติม) เปรียบโดยเปรียบเทียบได้เสมอถูกหลักทฤษฎีทางการค้า แม้ว่าเศรษฐกิจของขนาดยาวยังเล่นบทบาทรอง ซึ่งการเปลี่ยนแปลงในปลายทศวรรษที่ 1970 เมื่อนักเศรษฐศาสตร์รู้ว่า สิงโตของหุ้นของการค้าโลกประกอบด้วยการแลกเปลี่ยนสินค้า (ผลิต) คล้ายคลึงกันระหว่างประเทศ (รวย) เหมือนกัน

ปฏิกิริยาทั่วไปการรับรู้นี้ถูกว่า ค้าดังกล่าวอาจไม่เป็น เพราะเปรียบโดยเปรียบเทียบ แต่ถ้าประเทศที่คล้ายกันค้าสินค้าที่คล้ายกัน ราคา elasticities (รัฐของความต้องการ) และอุปกรณ์ของสินค้าเปลี่ยนแปลงราคามีแนวโน้มที่จะสูงเนื่องจากผลิตภัณฑ์ที่ขายอาจจะทดแทนดี ประเทศที่คล้ายกันจะมีราคาเหมือนญาติ autarky (การขาดงานของการค้าระหว่างประเทศ), เพื่อเปรียบเทียบประโยชน์ค้า สร้างโลกราคาระหว่างราคา autarky สอง จะเป็นสิทธิ์แบบเจียมเนื้อเจียมตัวราคาเปลี่ยนแปลงในแต่ละประเทศ แต่ มี elasticities สูง นี้อาจยังคงเกี่ยวค้าหนัก ในทำนองเดียวกัน ไม่เหมือนประเทศที่ขายสินค้าแตกต่างกันมาก - ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์หลัก ตัวอย่าง - อาจจะคาดว่าการเปลี่ยนแปลงขนาดใหญ่ราคา แต่ปริมาณการค้าที่เกิดขึ้นอาจเล็ก elasticities ราคามีแนวโน้มที่จะต่ำ

ดังนั้น ประโยชน์เปรียบเทียบไม่จำเป็นต้องสอดคล้องกับการค้าจริง อย่างไรก็ตาม ก็ต้องพิจารณาไปที่อื่น เพราะ แม้ค้าใช้ความแตกต่างได้เป็นที่แตกต่างยิ่ง ยิ่งการค้า เป็นสิทธิ์มันแบบ สิ่งอื่น ๆ กำลังเท่ากัน ว่า ความแตกต่างยิ่ง ยิ่งกำไรการค้า ดังนั้น หนึ่งอาจสรุปว่า ส่วนย่อย ๆ ของโลกค้า -ที่ระหว่างประเทศไม่เหมือนผลิตภัณฑ์ที่แตกต่าง - เป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับนโยบายการ แต่ถ้ารูปแบบค้าเป็นอย่างมากเนื่องจากเปรียบโดยเปรียบเทียบเหนือ บทสรุปนี้ได้ไม่ตาม

กลับ Increasing สเกล (IRS) การแข่งขันไม่สมบูรณ์จัดหาทางเลือก บทความนี้พิจารณาอดีต นอกจากนี้ยังมักจะ เรียกว่าเศรษฐกิจของขนาด

ชนิดของขนาดเศรษฐกิจในปฏิบัติ เศรษฐกิจขนาดเกิดในหลากหลาย เพื่อจัดประเภทของแอตทริบิวต์สำคัญมีประโยชน์

ภายในกับภายนอก (ให้บริษัท) ขนาดเศรษฐกิจอยู่ภายในถ้าแต่ละบริษัทสามารถลดค่าใช้จ่ายเฉลี่ย โดยดำเนินงานในระดับสูง (เช่น การดำเนินงานของสายการประกอบและอุปกรณ์ได้ โดยการผลิตขนาดใหญ่) เป็นภายนอกถ้าแต่ละบริษัทดำเนินการภายใต้ผลตอบแทนคง (CRS) ขนาด แต่ต้นทุนต่ำขนาดใหญ่ที่อุตสาหกรรมที่บริษัทอยู่ (เช่น ห้องพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและซัพพลายขนาดใหญ่ฝีมือแรงที่ตามมาในภาคอุตสาหกรรมมีขนาดใหญ่) เศรษฐกิจภายในสอดคล้องกับสมดุลที่แข่งขันอย่างสมบูรณ์ และภายนอกประเทศ ดี externalities เนื่องจากทฤษฎีความได้เปรียบเปรียบเทียบถือว่าการแข่งขันสมบูรณ์และไม่ externalities ค้าเนื่องจากเศรษฐกิจของขนาดเพียงอย่างเดียวไม่ได้เปรียบเทียบประโยชน์ค้า

เมื่อเทียบกับนานาชาติได้ เศรษฐกิจของขนาดขึ้น ในระดับของการดำเนินการภายในประเทศ (เช่น โรงงานขนาดใหญ่ขนาด) หรือ ในระดับของการดำเนินงานทั่วโลก (เช่น ฝ่ายแรงงานและการค้าเสรีในสินค้าระดับกลาง) หรืออาจจะภายใน หรือภายนอกกับบริษัท ตัวอย่างของภายใน เศรษฐกิจระหว่างประเทศของมาตราส่วนคือ วิจัยและพัฒนา (R&D) โดยบริษัทข้ามชาติที่ใช้ผลของ R&D ในหลายประเทศ

Aggregative เทียบกับ disaggregative เพิ่มผลตอบแทนอาจมีคุณสมบัติของการผลิตทั่วไป (เช่น ขนาดของภาคอุตสาหกรรม) หรือผลิตสินค้า (เช่น จำนวนของ sedans สีแดง) ของแต่ละบุคคลได้

ข้อควรพิจารณาเหล่านี้สามสร้างแปดชนิดของขนาดเศรษฐกิจ ละเกี่ยวข้องกับความเป็นจริง ยังสามารถเปรียบเทียบข้อได้เปรียบทางการค้าเนื่องจากหลายสาเหตุ แต่พวกเขาทุกเรื่องแต่เพียงผู้เดียวในวิธีจะมีผลต่อความแตกต่างในราคา autarky ญาติ นี้พื้นมีกลิ่นสามัคคีเป็นน่าสนใจการคาดคะเนของทฤษฎีนั้น ทางการค้าเนื่องจากเศรษฐกิจของขนาดจะแตกต่างกันอย่างมาก: พื้นฐานผลกระทบมีแน่นอนมากความไวต่อชนิดของขนาดเศรษฐกิจ พิจารณาแรกชาติ aggregative เพิ่มกลับภายนอกไปที่บริษัท