Negative emotions are beneficial. T

Negative emotions are beneficial. There I said it.Ok, ok, I know it sounds controversial that negativity brings health especially in the era of “smile and the world will smile back at you” we live in.Everywhere we look, there are messages such as, “Smile more often” or “Think positive” as if it was that easy and even the right thing to do.But being a psychologist and a student of positive psychology, I must say that such messages are dangerous.Why are they dangerous? Because they aim to drive people away from a very natural and important psychological resource: Negativity.Yes, negativity can be beneficial. It can help you build a more optimal, resourceful version of yourself and consequently a happier and more satisfying life.If you have ever read The Upside of Your Dark Side by Todd Kashdan and Robert Biswas Diener, you will see that there many scientific findings supporting this claim.I’m not saying that being negative is better than being positive, but there are moments where allowing yourself into some negativity can help you achieve better results in your life, work, relationship, etc.The secret is to learn to exercise the right balance between positive and negative emotions. Of course, positive emotions generate a more pleasurable feeling but that doesn’t mean we should always be in positive states of mind.Here are 3 good reasons why we should allow ourselves to be negative:1. Negative emotions are naturalAs human beings, feeling sad, stressed out, anxious and afraid is a natural consequence of daily events. Furthermore, it is acceptable to feel that way.When we enforce expressions like, “Smile more often”, we are telling ourselves that this is the optimal state we can be in and therefore denying a very natural emotional state of mind. We are telling ourselves we shouldn’t feel sad or anxious or stressed when our mind desperately wants us to let those feelings come out and be listened to.If we always tell ourselves to smile when all we want to do is cry, we are psychologically mistreating ourselves, which in the long run will negatively impact our psychological welfare.2. Negative emotions make you awareNegative emotions exist for a reason. They protect us, makes us aware of dangers, and let us know something is not working for us.For instance, fear helps you react to danger, anxiety makes you more aware of potential threats around you, and guilt makes you reconsider past actions that may have been harmful to others and make amends with them (Rosen, 2008; Tibbetts, 2003).On the other hand, positive emotions can make you more aloof. It’s good to be carefree but this also carries some threats: less aware of risks happening in your life, less attention to detail in your work, or being unconcerned of how your behavior is negatively impacting others (Biswar-Dienar & Kashdan, 2014).3. Negativity is a motivatorNo one changes because he or she is feeling good. We change when we feel something is wrong and making us unhappy and we can’t bear it any longer.Negative emotions prompt us to act upon our current circumstance and generate positive changes, Such as anger (Biswar-Diener & Kashdan, 2014). Anger is one negative emotion closely related to justice.I mean, can you imagine a country fighting for independence without feeling angry towards its rulers? Emotions are psychological metrics of our well-being. They tell us when are we more or less happy.Negative emotions, however, serve as a motivator. They tell us we are not happy with the path our lives are taking and when they reach a certain level of intensity, they motivate us to act. Therefore, we should listen to them as soon as we start to feel them, regulate their intensity and start acting in more healthy ways towards the changes we wish to establish in our lives.As we can see, negativity is useful and should be looked at as such.Again, I’m not trying to demerit positivity.But it is important to tell ourselves that we are human beings who feel both positive and negative emotions. The key to a better life is to understand when and how to use our emotions properly, in order to build more authentic, resourceful versions of ourselves, and more fulfilling versions of our lives.

Results (Thai) 1:

อารมณ์เชิงลบเป็นประโยชน์ มีผมบอกว่ามัน
เอาล่ะฉันรู้ว่ามันฟังดูขัดแย้งที่ปฏิเสธนำสุขภาพโดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคของ“รอยยิ้มและโลกจะยิ้มกลับมาที่คุณ” เราอาศัยอยู่ใน.

ทุกที่ที่เราดูมีข้อความเช่น“รอยยิ้มบ่อยขึ้น” หรือ“ คิดบวก” ราวกับว่ามันเป็นเรื่องที่ง่ายและแม้กระทั่งสิ่งที่ถูกต้องที่จะทำ

แต่การเป็นนักจิตวิทยาและนักเรียนของจิตวิทยาเชิงบวกที่ผมต้องบอกว่าข้อความดังกล่าวเป็นอันตราย

ทำไมพวกเขาจะมีอันตรายหรือไม่? เพราะพวกเขามีจุดมุ่งหมายที่จะขับรถออกไปจากคนเป็นทรัพยากรทางจิตวิทยาเป็นธรรมชาติมากและมีความสำคัญ: ปฏิเสธ

ใช่ปฏิเสธสามารถเป็นประโยชน์ มันสามารถช่วยให้คุณสร้างที่เหมาะสมมากขึ้นรุ่นมั่งคั่งของตัวเองและทำให้ชีวิตมีความสุขและความพึงพอใจมากขึ้น

ถ้าคุณเคยอ่าน Upside ของด้านมืดของคุณโดยการทอดด์ Kashdan และโรเบิร์ต Biswas Diener คุณจะเห็นว่ามีการค้นพบทางวิทยาศาสตร์จำนวนมากสนับสนุนการเรียกร้องนี้
ผมไม่ได้บอกว่าเป็นเชิงลบจะดีกว่าที่เป็นบวก แต่มีช่วงเวลาที่ปล่อยให้ตัวเองเข้าสู่การปฏิเสธบางคนสามารถช่วยให้คุณบรรลุผลลัพธ์ที่ดีกว่าในชีวิตของคุณทำงานสัมพันธ์ ฯลฯ

ความลับคือการเรียนรู้ที่จะออกกำลังกายสมดุลที่เหมาะสม ระหว่างอารมณ์บวกและลบ แน่นอนอารมณ์เชิงบวกสร้างความรู้สึกพึงพอใจมากขึ้น แต่ไม่ได้หมายความว่าเราควรจะเป็นในรัฐในเชิงบวกของจิตใจ

ที่นี่ 3 เหตุผลดีว่าทำไมเราควรจะปล่อยให้ตัวเองเป็นลบคือ:

1. อารมณ์เชิงลบเป็นธรรมชาติ
ในฐานะที่เป็นมนุษย์รู้สึกเศร้าเครียดวิตกกังวลและหวาดกลัวเป็นผลมาจากธรรมชาติของเหตุการณ์ในชีวิตประจำวัน นอกจากนี้ยังเป็นที่ยอมรับรู้สึกอย่างนั้น

เมื่อเราบังคับใช้การแสดงออกเช่น“รอยยิ้มบ่อยขึ้น” เราจะบอกตัวเองว่านี่คือสภาพที่ดีที่สุดที่เราสามารถอยู่ในและดังนั้นจึงปฏิเสธสภาวะอารมณ์ธรรมชาติมากของจิตใจ เราจะบอกตัวเองว่าเราไม่ควรจะรู้สึกเศร้าหรือวิตกกังวลหรือเครียดเมื่อใจของเราหมดท่าต้องการให้เราปล่อยให้ความรู้สึกเหล่านั้นออกมาและได้รับฟัง

หากเรามักจะบอกกับตัวเองที่จะยิ้มเมื่อทุกสิ่งที่เราต้องการจะทำคือร้องไห้เรามีจิตใจ mistreating ตัวเองซึ่งในระยะยาวจะส่งผลกระทบในเชิงลบสวัสดิการทางด้านจิตใจของเรา

2. อารมณ์เชิงลบให้คุณทราบ
อารมณ์เชิงลบที่มีอยู่สำหรับเหตุผล พวกเขาปกป้องเราทำให้เราตระหนักถึงอันตรายและแจ้งให้เราทราบสิ่งที่ไม่ได้ทำงานให้กับเรา

ยกตัวอย่างเช่นความกลัวจะช่วยให้คุณตอบสนองต่ออันตรายความวิตกกังวลทำให้คุณตระหนักถึงภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นรอบ ๆ ตัวคุณและความรู้สึกผิดที่ทำให้คุณพิจารณาการกระทำที่ผ่านมาว่าอาจจะเป็นอันตรายต่อผู้อื่นและชดใช้ให้กับพวกเขา (โรเซ็น 2008 Tibbetts, 2003)

บนมืออื่น ๆ , อารมณ์ในเชิงบวกที่สามารถทำให้คุณห่างมากขึ้น มันเป็นเรื่องดีที่จะเป็นห่วง แต่เรื่องนี้ยังดำเนินการคุกคามบาง: น้อยตระหนักถึงความเสี่ยงที่เกิดขึ้นในชีวิตของคุณให้ความสนใจน้อยลงเพื่อให้รายละเอียดในการทำงานของคุณหรือถูกไม่แยแสของวิธีการทำงานของคุณมีผลเสียต่อคนอื่น ๆ (Biswar-Dienar & Kashdan 2014)

3. ปฏิเสธเป็นแรงผลักดัน
ไม่มีใครเปลี่ยนแปลงเพราะเขาหรือเธอเป็นความรู้สึกที่ดี เราเปลี่ยนไปเมื่อเรารู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างที่ไม่ถูกต้องและทำให้เราไม่มีความสุขและเราไม่สามารถแบกมันได้อีกต่อไป

อารมณ์เชิงลบแจ้งให้เราดำเนินการตามสถานการณ์ในปัจจุบันของเราและสร้างการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกเช่นความโกรธ (Biswar-Diener & Kashdan 2014) ความโกรธเป็นหนึ่งในเชิงลบอารมณ์ที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดเพื่อความยุติธรรม

ฉันหมายความว่าคุณสามารถจินตนาการประเทศการต่อสู้เพื่อความเป็นอิสระโดยไม่รู้สึกโกรธที่มีต่อการปกครองของตนหรือไม่ อารมณ์เป็นตัวชี้วัดทางด้านจิตใจของเราเป็นอยู่ที่ดี พวกเขาบอกเราเมื่อเรามากหรือน้อยมีความสุข

อารมณ์เชิงลบ แต่ทำหน้าที่เป็นแรงผลักดัน พวกเขาบอกเราว่าเราไม่ได้มีความสุขกับเส้นทางชีวิตของเราจะพาและเมื่อพวกเขาถึงระดับหนึ่งของความรุนแรงที่พวกเขากระตุ้นให้เราที่จะกระทำ ดังนั้นเราจึงควรฟังพวกเขาทันทีที่เราเริ่มที่จะรู้สึกพวกเขาควบคุมความเข้มของพวกเขาและเริ่มทำหน้าที่ในรูปแบบที่มีสุขภาพดีมากขึ้นต่อการเปลี่ยนแปลงที่เราต้องการสร้างในชีวิตของเรา

ในฐานะที่เราสามารถมองเห็นการปฏิเสธเป็นประโยชน์และควรจะมองที่เป็นเช่นนี้

อีกครั้งผมไม่ได้พยายามที่จะ positivity บาป

แต่มันเป็นสิ่งสำคัญที่จะบอกกับตัวเองว่าเราเป็นมนุษย์ที่รู้สึกทั้งบวกและอารมณ์เชิงลบ กุญแจสำคัญในการที่จะมีชีวิตที่ดีคือการเข้าใจเมื่อและวิธีการใช้อารมณ์ของเราอย่างถูกต้องเพื่อที่จะสร้างจริงมากขึ้นรุ่นมั่งคั่งของตัวเองและรุ่นที่ตอบสนองมากขึ้นในชีวิตของเรา

Results (Thai) 2:

อารมณ์เชิงลบมีประโยชน์. ผมบอกว่ามัน
ตกลง, ตกลง, ฉันรู้ว่ามันเสียงขัดแย้งว่าปฏิเสธนำสุขภาพโดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคของ "รอยยิ้มและโลกจะยิ้มกลับมาที่คุณ" เราอาศัยอยู่ใน.

ทุกที่ที่เรามองมีข้อความเช่น "ยิ้มบ่อยขึ้น" หรือ "คิดในเชิงบวก" ราวกับว่ามันเป็นเรื่องง่ายและแม้กระทั่งสิ่งที่ถูกต้องที่จะทำ

แต่การเป็นนักจิตวิทยาและผู้เรียนจิตวิทยาเชิงบวกผมต้องบอกว่าข้อความดังกล่าวเป็นอันตราย

ทำไมพวกเขาจึงเป็นอันตราย? เพราะพวกเขามุ่งมั่นที่จะขับรถคนออกไปจากทรัพยากรทางจิตวิทยาที่เป็นธรรมชาติและมีความสำคัญ: ปฏิเสธ

ใช่ปฏิเสธสามารถเป็นประโยชน์ มันสามารถช่วยให้คุณสร้างที่เหมาะสมมากขึ้นรุ่นที่มีความสามารถของตัวเองและดังนั้นจึงมีความสุขและมีชีวิตที่น่าพอใจมากขึ้น

ถ้าคุณเคยอ่านหัวกลับของด้านมืดของคุณโดยทอดด์ Kashdan และโรเบิร์ต Biswas Diener, คุณจะเห็นว่ามีการวิจัยทางวิทยาศาสตร์หลายสนับสนุนการเรียกร้องนี้.
ผมไม่ได้บอกว่าการเป็นลบดีกว่าการเป็นบวกแต่มีช่วงเวลาที่ช่วยให้ตัวเองเป็นปฏิเสธบางอย่างสามารถช่วยให้คุณบรรลุผลที่ดีขึ้นในชีวิตของคุณ, การทำงาน, ความสัมพันธ์, ฯลฯ.

ความลับคือการเรียนรู้ที่จะใช้ความสมดุลที่เหมาะสมระหว่างอารมณ์บวกและลบ แน่นอน, อารมณ์เชิงบวกสร้างความรู้สึกที่น่าพอใจมากขึ้นแต่ที่ไม่ได้หมายความว่าเราควรจะอยู่ในสถานะบวกของจิตใจ.

ต่อไปนี้เป็นเหตุผลที่ดี3ประการที่เราควรยอมให้ตัวเองเป็นลบ:

1. อารมณ์เชิงลบเป็นธรรมชาติ
ในฐานะมนุษย์, รู้สึกเศร้า, เครียด, กังวลและกลัวเป็นผลตามธรรมชาติของเหตุการณ์ประจำวัน. นอกจากนี้ยังเป็นที่ยอมรับที่จะรู้สึกแบบนั้น

เมื่อเราบังคับใช้สำนวนเช่น "ยิ้มบ่อยขึ้น" เราจะบอกตัวเองว่านี่เป็นสภาวะที่ดีที่สุดที่เราสามารถอยู่ในและดังนั้นการปฏิเสธสภาพอารมณ์ทางธรรมชาติมากของจิตใจ เราบอกตัวเองว่าเราไม่ควรรู้สึกเศร้าหรือวิตกหรือเครียดเมื่อจิตใจของเราหมดต้องการให้เราปล่อยให้ความรู้สึกเหล่านั้นออกมาและฟัง

ถ้าเรามักจะบอกตัวเองให้ยิ้มเมื่อทุกสิ่งที่เราต้องการจะทำคือการร้องไห้เรามีจิตใจที่ทำร้ายตัวเองซึ่งในระยะยาวจะส่งผลกระทบในเชิงลบต่อสวัสดิภาพทางจิตใจของเรา

2. อารมณ์เชิงลบทำให้คุณทราบ
อารมณ์เชิงลบมีอยู่ด้วยเหตุผล. พวกเขาปกป้องเราทำให้เราตระหนักถึงอันตรายและแจ้งให้เราทราบบางสิ่งบางอย่างที่ไม่ได้ทำงานให้กับเรา

ตัวอย่างเช่น, กลัวช่วยให้คุณตอบสนองต่ออันตราย, ความวิตกกังวลทำให้คุณตระหนักถึงภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นรอบตัวคุณ, และรู้สึกผิดทำให้คุณพิจารณาการกระทำที่ผ่านมาที่อาจเป็นอันตรายต่อผู้อื่นและทำให้ชดเชยกับพวกเขา (, ๒๐๐๘; Tibbetts, ๒๐๐๓)

ในทางกลับกันอารมณ์เชิงบวกสามารถทำให้คุณมีความสนใจมากขึ้น มันเป็นเรื่องที่ดีที่จะเป็นห่วงแต่สิ่งนี้ยังดำเนินการภัยคุกคามบางอย่าง: ตระหนักถึงความเสี่ยงที่เกิดขึ้นในชีวิตของคุณน้อยลงความสนใจในรายละเอียดในการทำงานของคุณหรือการไม่เป็นห่วงว่าพฤติกรรมของคุณจะส่งผลกระทบต่อผู้อื่น (Biswar-Dienar & Kashdan, ๒๐๑๔)

3. ปฏิเสธเป็นแรงผลักดัน
ไม่มีใครเปลี่ยนแปลงเพราะเขาหรือเธอรู้สึกดี เราเปลี่ยนแปลงเมื่อเรารู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติและทำให้เราไม่มีความสุขและเราไม่สามารถทนได้อีกต่อไป

อารมณ์เชิงลบแจ้งให้เราปฏิบัติตามสถานการณ์ปัจจุบันของเราและสร้างการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวก, เช่นความโกรธ (Biswar-Diener & Kashdan, ๒๐๑๔). ความโกรธเป็นอารมณ์เชิงลบอย่างใกล้ชิดที่เกี่ยวข้องกับความยุติธรรม

ผมหมายถึงคุณสามารถจินตนาการถึงประเทศที่ต่อสู้เพื่อเอกราชโดยไม่รู้สึกโกรธต่อไม้บรรทัดของตนได้หรือไม่ อารมณ์เป็นตัวชี้วัดทางจิตวิทยาของความเป็นอยู่ที่ดีของเรา พวกเขาบอกเราเมื่อเรามีความสุขมากขึ้นหรือน้อยลง

อย่างไรก็ตามอารมณ์เชิงลบทำหน้าที่เป็นแรงผลักดัน พวกเขาบอกเราว่าเราไม่พอใจกับเส้นทางที่ชีวิตของเรากำลังถ่ายและเมื่อพวกเขาถึงระดับความเข้มที่แน่นอนพวกเขากระตุ้นให้เรากระทำ ดังนั้นเราควรฟังพวกเขาทันทีที่เราเริ่มรู้สึกว่าพวกเขาควบคุมความเข้มข้นของพวกเขาและเริ่มทำหน้าที่ในวิธีที่มีสุขภาพดีต่อการเปลี่ยนแปลงที่เราต้องการที่จะสร้างในชีวิตของเรา

ในฐานะที่เราสามารถดูปฏิเสธมีประโยชน์และควรจะดูเช่นกัน

อีกครั้งผมไม่ได้พยายามที่จะทำให้การบวก

แต่มันเป็นสิ่งสำคัญที่จะบอกตัวเองว่าเราเป็นมนุษย์ที่รู้สึกทั้งอารมณ์บวกและลบ. กุญแจสำคัญในชีวิตที่ดีขึ้นคือการเข้าใจเมื่อและวิธีการใช้อารมณ์ของเราอย่างถูกต้องเพื่อที่จะสร้างที่แท้จริงมากขึ้นรุ่นที่มีไหวพริบของตัวเองและการตอบสนองรุ่นของชีวิตของเรามากขึ้น

Results (Thai) 3:

อารมณ์เชิงลบเป็นสิ่งที่ดี ฉันบอกแล้วไง
โอเคฉันรู้ว่ามันฟังดูแย้งว่าการมองโลกในแง่ร้ายจะนำมาซึ่งสุขภาพโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่เราอยู่ด้วยรอยยิ้มโลกจะยิ้มให้คุณ
ทุกที่ที่เราเห็นมีข้อมูลเช่นยิ้มบ่อยๆหรือคิดบวกถ้ามันเป็นสิ่งที่ง่ายและถูกต้อง
แต่เป็นนักจิตวิทยาและนักศึกษาจิตวิทยาเชิงบวกผมต้องบอกว่าข้อมูลดังกล่าวเป็นอันตราย
ทำไมพวกเขาถึงอันตราย เพราะพวกเขามีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้คนห่างไกลจากธรรมชาติและทรัพยากรทางจิตวิทยาที่สำคัญมากลบ
ใช่การปฏิเสธเป็นสิ่งที่ดี มันสามารถช่วยให้คุณสร้างรุ่นที่เหมาะมากขึ้นและมีไหวพริบมากขึ้นเพื่อให้ชีวิตของคุณมีความสุขและความพึงพอใจมากขึ้น
ถ้าคุณได้อ่านเกี่ยวกับประโยชน์ของด้านมืดของทอดด์คาชดานและโรเบิร์ตบิสวัสดีน่าคุณจะพบว่ามีการค้นพบทางวิทยาศาสตร์มากมายที่สนับสนุนมัน
ผมไม่ได้บอกว่าลบดีกว่าบวกแต่บางครั้งมันก็ช่วยให้คุณได้รับผลลัพธ์ที่ดีกว่าในชีวิตงานและความสัมพันธ์
ความลับคือการเรียนรู้ที่จะรักษาสมดุลที่เหมาะสมระหว่างอารมณ์เชิงบวกและเชิงลบ แน่นอนอารมณ์ที่เป็นบวกจะสร้างความรู้สึกที่ดีกว่าแต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเราควรจะอยู่ในอารมณ์ที่เป็นบวก
เราควรจะปล่อยให้ตัวเองมีสามเหตุผลเชิงลบ
หนึ่ง อารมณ์เชิงลบคือธรรมชาติ
เป็นมนุษย์ความเศร้าความเครียดความวิตกกังวลและความกลัวเป็นผลตามธรรมชาติของเหตุการณ์ทุกวัน นอกจากนี้ความรู้สึกนี้เป็นที่ยอมรับ
เมื่อเราบังคับตัวเองให้ยิ้มบ่อยขึ้นเราบอกตัวเองว่ามันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่เราสามารถและดังนั้นจึงปฏิเสธรัฐธรรมชาติของอารมณ์ เราบอกตัวเองว่าเราไม่ควรรู้สึกเศร้ากังวลหรือเครียดเมื่อสมองของเราต้องการให้เรารู้สึกและฟัง
ถ้าเรามักจะบอกตัวเองว่าเราต้องยิ้มเมื่อเรารู้สึกเหมือนร้องไห้เราทำร้ายตัวเองทางจิตวิทยาซึ่งจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตของเราในระยะยาว
สอง อารมณ์เชิงลบที่ทำให้คุณตระหนักถึง
อารมณ์เชิงลบที่มีอยู่ด้วยเหตุผล พวกเขาปกป้องเราและทำให้เราตระหนักถึงอันตรายและแจ้งให้เราทราบว่าสิ่งที่ไม่ทำงานสำหรับเรา
ตัวอย่างเช่นความกลัวช่วยให้คุณตอบสนองต่ออันตรายความวิตกกังวลทำให้คุณตระหนักถึงภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นรอบตัวคุณและความรู้สึกผิดที่ช่วยให้คุณพิจารณาพฤติกรรมที่อาจเป็นอันตรายต่อผู้อื่นในอดีตและชดเชยด้วย
บนมืออื่นๆที่เป็นบวกจะทำให้คุณเย็นชามากขึ้น มันเป็นสิ่งที่ดีที่จะไม่กังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงที่เกิดขึ้นในชีวิตของคุณไม่ได้ดูแลเกี่ยวกับรายละเอียดของงานของคุณหรือวิธีการที่พฤติกรรมของคุณมีผลกระทบเชิงลบต่อผู้อื่น
สาม ลบเป็นแรงจูงใจ
ไม่มีใครเปลี่ยนเพราะเขารู้สึกดี เมื่อเรารู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติและทำให้เราไม่มีความสุขเราไม่สามารถทนได้อีกต่อไปเราเปลี่ยน
อารมณ์เชิงลบที่กระตุ้นให้เราดำเนินการตามสถานการณ์ปัจจุบันและสร้างการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกเช่นความโกรธ ความโกรธเป็นอารมณ์เชิงลบที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับความยุติธรรม
ฉันหมายถึงคุณสามารถจินตนาการประเทศที่ต่อสู้เพื่อเอกราชโดยไม่โกรธผู้ปกครอง อารมณ์เป็นตัวชี้วัดทางจิตวิทยาของความสุขของเรา พวกเขาบอกเราว่าเมื่อเรามากกว่าหรือน้อยกว่ามีความสุข
อย่างไรก็ตามอารมณ์เชิงลบเป็นแรงจูงใจ พวกเขาบอกเราว่าเราไม่ได้มีความสุขกับวิธีที่เราอาศัยอยู่และเมื่อพวกเขามาถึงระดับหนึ่งของความแข็งแรงพวกเขากระตุ้นให้เราทำ ดังนั้นเมื่อเราเริ่มที่จะรู้สึกว่าพวกเขาเราต้องฟังพวกเขาปรับความเข้มของพวกเขาและเริ่มที่จะดำเนินการในลักษณะที่มีสุขภาพดีกับการเปลี่ยนแปลงที่เราต้องการสร้างในชีวิต
อย่างที่เราเห็นมันเป็นประโยชน์ที่จะมองในแง่ลบ
อีกครั้งฉันไม่ได้พยายามที่จะลดความกระตือรือร้นของฉัน
แต่มันเป็นสิ่งสำคัญที่จะบอกตัวเองว่าเราเป็นคนที่รู้สึกทั้งทางบวกและทางลบ กุญแจสู่ชีวิตที่ดีกว่าคือการเข้าใจเมื่อและวิธีการที่จะใช้อารมณ์ของเราอย่างถูกต้องเพื่อสร้างจริงมากขึ้นมีไหวพริบมากขึ้นตัวเองและเพิ่มชีวิตของเรา