Nutritional Influences and Nutrigeno

Nutritional Influences and Nutrigenomics
The primary nutritional issue related to obesity is the
imbalance between energy expenditure and energy intake.
Simply stated, obesity results from more caloric intake than
expenditure. The primary goal of many people is to lose
weight. The literature indicates some basic steps in weight reduction: (a) reduce consumption of saturated fat, trans-fatty
acids, and cholesterol; (b) consume low-fat diets consisting
of less than 30% total fat calories; (c) consume low-calorie,
high fiber, and high-nutrient foods, including proteins that
are low in total and saturated fatty acids; (d) balance caloric
consumption and physical activity to prevent obesity; (e)
develop eating patterns consistent with lifestyle, including
foods from the essential food groups to include balanced
levels of protein, vitamins, minerals, and fiber; (f) consume
a diet in which 55% or more of the caloric intake is from
vegetables, fruits, and whole grains; and (g) limit alcohol
consumption to a moderate amount (two drinks or 1 to
2 ounces per day; Arden et al., 2004; Krauss et al., 2000;
Miller, 2005). Although culture and lifestyle accounts for
approximately 30% of the variation in BMI, genetics accounts for 40% to 70% (Marti et al., 2004). These percentages indicate the need to focus on multifactorial interactions.
Moreover, the above strategies for weight control must be
considered and implemented within the context of a person’s culture. All of these factors influence dietary choices
and regimens.
Despite the need for general dietary recommendations,
current research findings show the effects of nutrigenomics,
which is the study of the interaction between nutritional
intake and genetic variation, or gene-diet interactions. Individual genetic responses to nutrient intake influence how the
body reacts to specified nutrients or toxins within the body.
Advances in nutrigenomics allow for the identification of
individual variations or responses to common obesity interventions such as low-fat and low-cholesterol diets that
can be attributed to individual genotypes, while confirming
that implementing single dietary changes might not sufficiently treat or prevent obesity. For example, genetic and
familial propensities to obesity coupled with diets higher
in fat will most likely result in higher BMI, which further
confirms the multifactorial interaction component of obesity. Similarly, research findings have begun to show that
dietary supplements can compensate for genetic polymorphisms to enhance overall health status. Although data show
the importance of gene-diet interactions, new discoveries in
practice and research are needed (Eckel, 2005; One Person
Health, 2005; Perusse & Bouchard, 2000). In essence, “The
right diet needs to be matched with the right person” (Eckel,
2005, p. 97) in order to yield the greatest effect. Moreover,
the “right diet” must be defined in the context of individual
genotype.

Results (Thai) 1:

Influences โภชนาการและ Nutrigenomics
ปัญหาโภชนาการหลักที่เกี่ยวข้องกับโรคอ้วน
ความไม่สมดุลระหว่างรายจ่ายพลังงานและบริโภคพลังงาน.
กล่าว โรคอ้วนผลจากบริโภคแคลอริกมากกว่า
รายจ่าย เป้าหมายหลักของหลายคนคือเสีย
น้ำหนัก วรรณกรรมบ่งชี้ว่า บางขั้นตอนพื้นฐานในการลดน้ำหนัก: (a) ลดปริมาณของไขมันอิ่มตัว ไขมันทรานส์
กรด และไขมัน (ข) บริโภคอาหารไขมันต่ำประกอบด้วย
ของน้อยกว่า 30% รวมไขมันแคลอรี่ (ค) ใช้ต่ำแคลอรี่,
ใยสูง และสูงสารอาหาร รวมทั้งโปรตีนที่
ต่ำในกรดไขมันอิ่มตัว และรวม (ง) ยอดแคลอริก
ปริมาณและกิจกรรมทางกายภาพเพื่อป้องกันโรคอ้วน (e)
พัฒนารูปแบบสอดคล้องกับวิถีชีวิต การรับประทานอาหารรวมถึง
สมดุลอาหารจากกลุ่มอาหารรวม
ระดับของโปรตีน วิตามิน แร่ธาตุ และ ไฟเบอร์ (f) ใช้
ซึ่งการบริโภคแคลอริกอย่างน้อย 55% มาจากอาหาร
ผัก ผลไม้ และ ธัญพืช (g) จำกัดแอลกอฮอล์และ
ปริมาณเป็นจำนวนปานกลาง (เครื่องดื่มสองหรือ 1
2 ออนซ์ต่อวัน Arden et al., 2004 Krauss และ al., 2000;
มิลเลอร์ 2005) แม้ว่าวิถีชีวิตและวัฒนธรรมบัญชีสำหรับ
ประมาณ 30% ของความผันแปรใน BMI พันธุศาสตร์บัญชีสำหรับ 40% ถึง 70% (วาน่า et al., 2004) เปอร์เซ็นต์เหล่านี้บ่งชี้ว่า จำเป็นต้องให้ความสำคัญกับ multifactorial โต้ตอบ
นอก กลยุทธ์ข้างต้นสำหรับการควบคุมน้ำหนักต้อง
พิจารณา และดำเนินการภายในบริบทของวัฒนธรรมของคน ทั้งหมดของปัจจัยเหล่านี้มีอิทธิพลต่อการเลือกอาหาร
ก regimens
แม้จะต้องการคำแนะนำอาหารทั่วไป,
ปัจจุบันพบแสดงผลของ nutrigenomics,
ซึ่งเป็นการศึกษาปฏิสัมพันธ์ระหว่างโภชนาการ
บริโภค และความผันแปรทางพันธุกรรม หรือยีนอาหารโต้ตอบ ตอบรับทางพันธุกรรมแต่ละธาตุอาหารบริโภคอิทธิพลวิธี
ร่างกายปฏิกิริยาระบุสารอาหารหรือสารพิษภายในร่างกาย
ความก้าวหน้าใน nutrigenomics อนุญาตให้รหัสของ
แต่ละรูปแบบหรือตอบสนองต่อการรักษาโรคอ้วนทั่วไปเช่นไขมันต่ำและไขมันต่ำ diets ที่
สามารถเกิดจากการศึกษาจีโนไทป์แต่ละ ในขณะที่ยืนยัน
ที่ใช้เปลี่ยนแปลงอาหารเดียวอาจไม่พอรักษา หรือป้องกันโรคอ้วนได้ ตัวอย่าง พันธุกรรม และ
propensities ภาวะกับโรคอ้วนควบคู่กับอาหารสูง
ไขมันจะมักผล BMI สูง ที่เพิ่มเติม
ยืนยันโต้ multifactorial ส่วนประกอบของโรคอ้วน ในทำนองเดียวกัน พบได้เริ่มแสดงว่า
อาหารเสริมสามารถชดเชย polymorphisms พันธุกรรมเพื่อเพิ่มสถานะสุขภาพโดยรวมได้ แม้ว่าข้อมูลแสดง
ความสำคัญของการโต้ตอบ ยีนอาหาร ค้นพบใหม่ใน
ต้องปฏิบัติและการวิจัย (Eckel, 2005 คน
สุขภาพ 2005 Perusse & Bouchard, 2000) ในสาระสำคัญ, "
อาหารที่เหมาะสมต้องจับคู่กับบุคคล" (Eckel,
2005, p. 97) เพื่อผลผลิตผลกระทบมากที่สุด นอกจากนี้,
"ขวาอาหาร" ต้องกำหนดไว้ในบริบทของแต่ละบุคคล
ลักษณะทางพันธุกรรม

Results (Thai) 2:

อิทธิพลทางด้านโภชนาการและ Nutrigenomics
ปัญหาทางโภชนาการหลักที่เกี่ยวข้องกับโรคอ้วนเป็น
ความไม่สมดุลระหว่างการใช้พลังงานและการบริโภคพลังงาน
ระบุเพียงโรคอ้วนผลจากการบริโภคแคลอรี่มากขึ้นกว่า
ค่าใช้จ่าย เป้าหมายหลักของหลายคนคือการสูญเสีย
น้ำหนัก วรรณกรรมแสดงให้เห็นขั้นตอนพื้นฐานบางอย่างในการลดน้ำหนัก (ก) การลดการบริโภคไขมันอิ่มตัวไขมันทรานส์
กรดและคอเลสเตอรอล (ข) การบริโภคอาหารที่มีไขมันต่ำซึ่งประกอบด้วย
น้อยกว่า 30% แคลอรี่ไขมันทั้งหมด (ค) การบริโภคต่ำ แคลอรี่
ที่มีเส้นใยสูงและอาหารสูงสารอาหารรวมทั้งโปรตีนที่
ต่ำในกรดไขมันอิ่มตัวรวมและ (ง) ความสมดุลของแคลอรี่
การบริโภคและการออกกำลังกายเพื่อป้องกันโรคอ้วน (จ)
พัฒนารูปแบบการรับประทานอาหารที่สอดคล้องกับวิถีการดำเนินชีวิตรวมถึง
อาหารจาก กลุ่มอาหารที่สำคัญที่จะรวมถึงความสมดุล
ของระดับโปรตีนวิตามินเกลือแร่และเส้นใย (ฉ) กิน
อาหารที่ 55% หรือมากกว่าของแคลอรี่จาก
ผักผลไม้และเมล็ดธัญพืชและ (ช) จำกัด เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
การบริโภคเป็นจำนวนเงินที่ปานกลาง (สองเครื่องดื่มหรือ 1 ถึง
2 ออนซ์ต่อวันอาร์เดนและอัล 2004. อูเอตอัล, 2000.
มิลเลอร์, 2005) ถึงแม้ว่าวัฒนธรรมและการดำเนินชีวิตบัญชีสำหรับ
ประมาณ 30% ของการเปลี่ยนแปลงในค่าดัชนีมวลกายพันธุศาสตร์บัญชีสำหรับ 40% ถึง 70% (Marti et al,. 2004) ร้อยละเหล่านี้บ่งบอกถึงความจำเป็นที่จะต้องมุ่งเน้นไปที่การมีปฏิสัมพันธ์ multifactorial
นอกจากนี้กลยุทธ์ข้างต้นสำหรับการควบคุมน้ำหนักจะต้องได้รับ
การพิจารณาและดำเนินการในบริบทของวัฒนธรรมของบุคคล ปัจจัยเหล่านี้มีผลต่อการเลือกอาหาร
และยา
แม้จะมีความจำเป็นสำหรับคำแนะนำการรับประทานอาหารทั่วไป
ในปัจจุบันผลการวิจัยแสดงให้เห็นผลกระทบของการ Nutrigenomics,
ซึ่งคือการศึกษาของการปฏิสัมพันธ์ระหว่างโภชนาการ
การบริโภคและการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมหรือการโต้ตอบยีนอาหาร การตอบสนองทางพันธุกรรมของแต่ละบุคคลที่จะมีอิทธิพลต่อการบริโภคสารอาหารที่วิธีการที่
ร่างกายตอบสนองต่อสารอาหารที่ระบุหรือสารพิษภายในร่างกาย
ก้าวหน้าใน Nutrigenomics อนุญาตให้มีการระบุ
รูปแบบของแต่ละบุคคลหรือการตอบสนองต่อการแทรกแซงโรคอ้วนทั่วไปเช่นไขมันต่ำและคอเลสเตอรอลต่ำอาหารที่
สามารถนำมาประกอบ กับยีนของแต่ละคนในขณะที่ยืนยัน
ว่าการดำเนินการเปลี่ยนแปลงการบริโภคอาหารเพียงอย่างเดียวอาจจะไม่พอรักษาหรือป้องกันโรคอ้วน ตัวอย่างเช่นพันธุกรรมและ
ทำความครอบครัวไปสู่โรคอ้วนควบคู่ไปกับการรับประทานอาหารที่สูง
ในไขมันจะทำให้มีโอกาสมากที่สุดในที่สูงกว่าค่าดัชนีมวลกายซึ่งต่อไป
ยืนยันองค์ประกอบปฏิสัมพันธ์ multifactorial ของโรคอ้วน ในทำนองเดียวกันผลการวิจัยได้เริ่มที่จะแสดงให้เห็นว่า
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสามารถชดเชยความหลากหลายทางพันธุกรรมในการปรับปรุงสถานะสุขภาพโดยรวม แม้ว่าข้อมูลแสดงให้เห็น
ความสำคัญของการปฏิสัมพันธ์ของยีนอาหารที่ค้นพบใหม่ใน
การปฏิบัติและการวิจัยมีความจำเป็น (Eckel 2005; หนึ่งในคน
สุขภาพ 2005; perusse และ Bouchard, 2000) ในสาระสำคัญ "
อาหารที่เหมาะสมจะต้องมีการจับคู่กับคนที่เหมาะสม "(Eckel,
2005 พี. 97) ในการสั่งซื้อเพื่อให้ได้ผลที่ยิ่งใหญ่ที่สุด นอกจากนี้
"อาหารที่เหมาะสม" จะต้องมีการกำหนดไว้ในบริบทของแต่ละ
สายพันธุ์

Results (Thai) 3:

โภชนาการใน uences flนิวตริจีโนมิกส์
หลักโภชนาการและปัญหาที่เกี่ยวข้องกับโรคอ้วนมีความไม่สมดุลระหว่างการใช้พลังงานและ

การบริโภคพลังงาน ระบุเพียงว่าโรคอ้วนผลจากการบริโภคแคลอรี่มากขึ้นกว่า
รายจ่าย เป้าหมายหลักของหลายๆ คนต้องสูญเสีย
น้ำหนัก วรรณกรรมแสดงขั้นตอนพื้นฐานในการลดน้ำหนัก ( 1 ) ลดการบริโภคไขมันอิ่มตัวไขมันทรานส์
กรด , และคอเลสเตอรอล ; ( b ) บริโภคอาหารไขมันต่ำประกอบด้วย
น้อยกว่า 30% รวมแคลอรี่ไขมัน ; ( c ) บริโภคแคลอรี่ต่ำ
ไฟเบอร์สูง และมีธาตุอาหาร อาหาร ได้แก่ โปรตีนที่
ต่ำในทั้งหมดและกรดไขมันไม่อิ่มตัว ( D ) สมดุลแคลอรี่
การบริโภคและกิจกรรมทางกายเพื่อป้องกันโรคอ้วน ( E )
พัฒนารูปแบบที่สอดคล้องกับวิถีการกิน รวมทั้ง
อาหารจากกลุ่มอาหารที่สำคัญ ได้แก่ ความสมดุล
ระดับของโปรตีน วิตามิน แร่ธาตุ และใยอาหาร ;
( F ) กินอาหารที่ 55 % หรือมากกว่าของแคลอรี่จาก
ผัก ผลไม้ และธัญพืช และ ( g ) วงเงินแอลกอฮอล์
การบริโภคปานกลาง ( สองเครื่องดื่ม หรือ 1
2 ออนซ์ต่อวัน อาร์เดน et al . , 2004 ; เคราส์ et al . , 2000 ;
มิลเลอร์ , 2005 )แม้ว่าบัญชีวัฒนธรรมและวิถีชีวิต
ประมาณ 30% ของการเปลี่ยนแปลงในค่าดัชนีมวลกาย , บัญชีพันธุศาสตร์ 40% ถึง 70% ( มาร์ตี้ et al . , 2004 ) เปอร์เซ็นต์เหล่านี้ระบุว่า ต้องเน้นการปฏิสัมพันธ์ multifactorial .
นอกจากนี้ กลยุทธ์ดังกล่าวเพื่อควบคุมน้ำหนักต้อง
ถือว่าและใช้ในบริบทของวัฒนธรรมของคน ทั้งหมดของปัจจัยเหล่านี้มีอิทธิพลต่ออาหารทางเลือก
และการรักษา .
แม้จะต้องแนะนำอาหารทั่วไป
ผลการวิจัยปัจจุบันแสดงผลของนิวตริจีโนมิกส์
, ซึ่งคือการศึกษาปฏิสัมพันธ์ระหว่างการได้รับสารอาหาร และการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรม หรือ ยีน
, อาหารที่เพิ่มขึ้น แต่ละพันธุ์ตอบสนองต่อสารอาหารที่ได้รับมีผลต่อร่างกาย reacts เพื่อระบุรัง

หรือสารพิษในร่างกายความก้าวหน้าในนิวตริจีโนมิกส์อนุญาตให้กำหนดรูปแบบของแต่ละบุคคลหรือการตอบสนองต่อการแทรกแซง
โรคอ้วนทั่วไปเช่นไขมันต่ำและอาหารไขมันต่ำที่สามารถจะเกิดจากพันธุ์

ที่ใช้ยืนยันบุคคล ขณะเดียวการเปลี่ยนแปลงอาหารอาจจะไม่เพียงพอในการรักษา หรือป้องกันโรคอ้วน ตัวอย่างเช่น พันธุกรรมและ
ครอบครัว propensities โรคอ้วนควบคู่กับอาหารสูงกว่า
ในไขมันจะมากที่สุดผล BMI สูงกว่า ซึ่งต่อไป
ยืนยัน multifactorial ปฏิสัมพันธ์ระหว่างองค์ประกอบของโรคอ้วน ในทํานองเดียวกัน การวิจัย ได้เริ่มแสดงให้เห็นว่า
อาหารเสริมสามารถชดเชยพันธุกรรมความหลากหลายเพื่อเสริมสร้างภาวะสุขภาพโดยรวม แม้ว่าข้อมูลที่แสดงความสำคัญของยีน
อาหาร ปฏิสัมพันธ์การค้นพบใหม่ในการฝึกและวิจัย
เป็น ( เอเคิล , 2005 ; หนึ่งคน
สุขภาพ , 2005 ; perusse &บูชาร์ด , 2000 ) ในสาระสำคัญ , "
ใช่อาหารต้องถูกจับคู่กับคนที่เหมาะสม " ( เอเคิล
, 2548 , หน้า 97 ) เพื่อผลผลิตผลที่ยิ่งใหญ่ที่สุด โดย
" อาหาร " จะต้องกำหนดไว้ในบริบทของแต่ละไทป์