and of women in which many began to

and of women in which many began to smoke in
early adult life and did not quit.
11-16
All these
studies showed that in middle age (about 30 to
69 years of age), mortality among cigarette smokers was two to three times the mortality among
otherwise similar persons who had never
smoked, leading to a reduction in life span by an
average of about 10 years (Fig. 1). This average
reduction combines zero loss for those not killed
by tobacco with an average loss of well over a
decade for those who are killed by it.
Second, many of those killed are still in
middle age, losing many years of life. Some of
those killed in middle age might have died soon
anyway, but others might have lived on for decades. On average, those killed in middle age by
smoking lose about 20 years of life expectancy as
compared with persons who have never smoked.
1
Third, stopping smoking works. Those who
have smoked cigarettes since early adulthood but
stop at 30, 40, or 50 years of age gain about 10,
9, and 6 years of life expectancy, respectively, as
compared with those who continue smoking.

Results (Thai) 1:

และผู้หญิงจำนวนมากเริ่มสูบใน ชีวิตในวัยผู้ใหญ่ตอนต้น และได้ออกจากการ11-16ทั้งหมดนี้ การศึกษาพบว่าในยุคกลาง (ประมาณ 30 เพื่อ 69 ปี), การตายระหว่างบุหรี่ผู้สูบบุหรี่ได้สองถึงสามเท่าการตายหมู่ มิฉะนั้นคนเหมือนกันที่ไม่เคยมี รมควัน นำไปสู่การลดลงในช่วงชีวิตโดยการ เฉลี่ยประมาณ 10 ปี (Fig. 1) ค่าเฉลี่ยนี้ ลดรวมขาดทุนเป็นศูนย์สำหรับผู้ที่ไม่ตาย โดยยาสูบมีการสูญเสียโดยเฉลี่ยดีกว่าการ ทศวรรษที่ถูกฆ่าตายโดยสอง หลายคนฆ่ายังคงใน วัยกลางคน สูญเสียชีวิตหลายปี บาง ผู้ที่เสียชีวิตในวัยกลางคนอาจมีการเสียชีวิตทันที อย่างไรก็ตาม แต่ผู้อื่นอาจมีอยู่ในทศวรรษที่ผ่านมา โดยเฉลี่ย ผู้เสียชีวิตในวัยกลางคนโดย สูบบุหรี่แพ้อายุขัยเป็นประมาณ 20 ปี เมื่อเทียบกับคนที่ไม่มีควัน1ที่สาม หยุดทำงานปลอดบุหรี่ ผู้ที่ ควันบุหรี่ตั้งแต่แรกวุฒิ แต่ หยุดที่ 30, 40, 50 ปีอายุได้ประมาณ 10 9 และ 6 ปีอายุขัย ตามลำดับ เป็น เมื่อเทียบกับผู้ที่ยังคงสูบบุหรี่

Results (Thai) 2:

และของผู้หญิงในซึ่งหลายคนเริ่มที่จะสูบบุหรี่ในชีวิตในวัยผู้ใหญ่ตอนต้นและไม่เลิก.
11-16
ทั้งหมดเหล่านี้การศึกษาแสดงให้เห็นว่าในวัยกลางคน (ประมาณ 30 ถึง 69 ปีของอายุ) อัตราการตายในหมู่สูบบุหรี่เป็นสองถึงสามครั้งตาย ในหมู่คนที่คล้ายกันเป็นอย่างอื่นที่ไม่เคยรมควันนำไปสู่การลดลงในช่วงชีวิตโดยเฉลี่ยประมาณ10 ปี (รูปที่ 1). นี้เฉลี่ยลดการสูญเสียเป็นศูนย์รวมสำหรับผู้ที่ไม่ถูกฆ่าตายโดยยาสูบที่มีการสูญเสียเฉลี่ยของดีกว่าทศวรรษที่ผ่านมาสำหรับผู้ที่จะถูกฆ่าโดยมัน. ประการที่สองจำนวนมากของผู้เสียชีวิตยังคงอยู่ในวัยกลางคนที่สูญเสียเป็นเวลาหลายปีของชีวิต บางส่วนของผู้ที่เสียชีวิตในวัยกลางคนอาจจะเสียชีวิตไม่นานอยู่แล้วแต่คนอื่น ๆ อาจจะมีชีวิตอยู่มานานหลายทศวรรษ โดยเฉลี่ยผู้เสียชีวิตในวัยกลางคนโดยการสูบบุหรี่สูญเสียประมาณ 20 ปีของอายุขัยขณะที่เมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่เคยสูบบุหรี่. 1 ประการที่สามการหยุดงานการสูบบุหรี่ บรรดาผู้ที่มีรมควันบุหรี่ตั้งแต่วัยผู้ใหญ่ตอนต้นแต่หยุดที่30, 40 หรือ 50 ปีของการเพิ่มอายุประมาณ 10, 9 และ 6 ปีอายุขัยตามลำดับเมื่อเทียบกับผู้ที่ยังคงสูบบุหรี่

Results (Thai) 3:

และผู้หญิงที่หลายคนเริ่มที่จะสูบบุหรี่ใน
ชีวิตผู้ใหญ่ก่อนและไม่ได้ลาออก


มีการศึกษา 11-16 พวกนี้ในยุคกลาง ( ประมาณ 30

อายุ 69 ปี ) การตายในกลุ่มผู้สูบบุหรี่เป็นสองถึงสามเท่า อัตราการตายของอย่างอื่นที่คล้ายกัน คนที่ไม่เคย

รมควัน ที่นำไปสู่การลดลงในช่วงชีวิตโดย
เฉลี่ยประมาณ 10 ปี ( รูปที่ 1 )
เฉลี่ยนี้การรวมศูนย์สำหรับการสูญเสียที่ไม่ได้ฆ่า
โดยยาสูบที่มีการสูญเสียเฉลี่ยกว่า
ทศวรรษสำหรับพวกที่ถูกฆ่าโดย .
2 , มากของผู้ที่ถูกฆ่าตายยัง
วัยกลางคนเสียหลายปีของชีวิต บางส่วนของผู้ที่ถูกฆ่าตายในกลางอายุ

อาจจะเสียชีวิตเร็วอยู่แล้ว แต่คนอื่นอาจจะได้อาศัยอยู่มานานหลายทศวรรษ โดยเฉลี่ยแล้ว ผู้ที่ถูกฆ่าตายในวัยกลางคน โดย
สูบบุหรี่สูญเสียประมาณ 20 ปีของอายุขัยเป็น
เมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่เคยสูบบุหรี่
3
1 สูบบุหรี่หยุดทำงาน ผู้ที่ได้รับควันบุหรี่ตั้งแต่วัยผู้ใหญ่ตอนต้น

หยุดแต่ 30 , 40 หรือ 50 ปีได้รับประมาณ 10
9 และ 6 ปีของอายุขัย ตามลำดับ ขณะที่ เมื่อเทียบกับผู้ที่ยังคงสูบบุหรี่
.