He saw a huge medicinal plant garde

He saw a huge medicinal plant garden, choked with weeds. However, within the weeds, Meng Hao caught sight of some legendary medicinal plants, the sight of which left him panting.

They were plants that Pill Demon had spoken of back when he cultivated the Dao of alchemy in the Violet Fate Sect, plants that were supposed to be extinct. However, within that medicinal plant garden, he saw at least a hundred different varieties of such legendary plants.

There was something else he saw there that was especially noteworthy… an Immortality Illumination Vine!!

The only problem was that there were innumerable black beetles in the area, seemingly without end. If he got too close, they would fly up in great clouds, forcing him to flee off into the distance. If he had been even the slightest bit slower, it would surely lead to his death.

He saw something the size of a planet, but covered with tentacles. Even the mere sight of it in the distance caused Meng Hao’s scalp to grow numb, and he immediately fled.

At one point, he saw a right hand that was so huge it looked as big as a galaxy….

In addition to these things, he saw innumerable corpses floating about in the Ruins of Immortality. There were shattered remnants of buildings, vast stretches of land, and even wild beasts whistling through the air.

Compared to these vast and mysterious Ruins of Immortality, Meng Hao himself was tiny and weak. Compared to all of the amazing things he saw, he was nothing.

During the month, some of his life force actually vanished. However, his cultivation base was slowly recovering, which gave him some more confidence. Most importantly, the Sixth Generation Demon Sealer’s sword contained some strange power. Any time he faced some danger, the sword would emanate a bright light, which was one of the main reasons Meng Hao was still alive.

When he touched the surface of the sword, he was able to feel the Sixth Demon Sealing Hex. However, this hex was a difficult one, and during the month, Meng Hao was unable to gain enlightenment.

After walking around for a month, he was unable to find the corpse of the Pāramitā God. Nor did he ever see the Dao Tree. The only way for him to find his path back home was if he found that corpse and that tree.

One day, he saw an Immortal’s cave, floating there in the air. It appeared to be in the midst of a phasing teleportation cycle, occasionally there, occasionally not there.

It was covered with cracks, as if countless battles had been fought outside of it. When Meng Hao looked at the cracks, his mind spun, as if there were shocking divine abilities and magical techniques inside of them.

In the instant that he caught sight of the Immortal’s cave, its door opened soundlessly, and a white-robed woman could be seen sitting there. In that moment, it seemed as if everything else disappeared except for the woman, sitting there all alone.

Her gaze was tranquil as she looked off into the distance, and also seemed to be filled with an unending loneliness….

She seemed to be the type of person who could elicit the worship of all living things, who could cause the Ruins of Immortality to tremble. She seemed to have lost something that she could never get back, something that only the sad song that had echoed out by the Dao Tree could possibly clearly explain.

She slowly looked up, and her gaze fell onto Meng Hao.

Meng Hao trembled as he realized that this woman… was none other than the one who had appeared by the ancient Dao Tree, the one who had caused all the other figures to bow in worship.

“Henceforth you are 13th in the Echelon,” she said slowly. Her echoing voice sounded as if it was resonating out from ancient times.

Results (Thai) 1:

เขาเห็นสวนพืชสมุนไพรใหญ่ สำลักกับวัชพืช อย่างไรก็ตาม ในระยะวัชพืช เมงเฮาจับสายตาของบางตำนานสมุนไพร สายตาที่เหลือเขาหอบพวกเขาเป็นพืชที่ปีศาจยามีพูดเมื่อเขาปลูกดาวของขลังในนิกายชะตากรรมสีม่วง พืชที่ควรจะสูญพันธุ์ อย่างไรก็ตาม ภายในสวนพืชสมุนไพร เขาเห็นน้อยร้อยพันธุ์ต่าง ๆ ของพืชดังกล่าวในตำนานมีอย่างอื่นเขาเห็นมีที่น่าสนใจโดยเฉพาะอย่างยิ่ง...เถาไฟมีความเป็นอมตะ!!ปัญหาเดียวก็อยู่ที่นั่นที่ถูกด้วงดำที่นับไม่ถ้วนในพื้นที่ ดูเหมือนจะไม่จบไม่สิ้น ถ้าเขาเข้ามาใกล้เกินไป พวกเขาจะบินขึ้นในเมฆดี บังคับให้เขาต้องระเห็จออกไปเป็นระยะทาง ถ้าเขาได้แม้แต่นิดช้า มันจะนำไปสู่ความตายของเขาย่อมเขาเห็นบางขนาดของดาวเคราะห์ แต่มีหนวด แม้เพียงสายตาของมันในระยะเกิดเมงห้าวศีรษะการปลูกชา และเขาหนีทันทีเมื่อถึงจุดหนึ่ง เขาเห็นมือขวาที่ใหญ่มันดูใหญ่เท่ากาแล ...นอกเหนือจากสิ่งเหล่านี้ เขาเห็นศพที่ลอยเกี่ยวกับที่ซากปรักหักพังของความเป็นอมตะนับไม่ถ้วน มีเศษมลายอาคาร ยืด และวงศ์ย่อยแดงผ่านอากาศสัตว์ป่ามากมายเมื่อเทียบกับเหล่าใหญ่ และลึกลับซากปรักหักพังของความเป็นอมตะ เมงเฮาเองก็เล็ก และอ่อนแอ เมื่อเทียบกับทั้งหมดของสิ่งที่น่าอัศจรรย์ที่เขาเห็น เขาเป็นอะไรเดือน บางส่วนของพลังของเขาชีวิตจริงลือ อย่างไรก็ตาม ฐานการเพาะปลูกของเขาถูกช้ากู้คืน ซึ่งเขามีความเชื่อมั่นบางอย่างเพิ่มเติม สำคัญที่สุด ที่หกสร้างปีศาจซีลของดาบประกอบด้วยพลังแปลก ตลอดเวลาที่เขาต้องเผชิญกับอันตรายบางอย่าง ดาบจะโชยมาแสงสว่าง ซึ่งเป็นหนึ่งในเหตุผลหลักที่เมงเฮาก็ยังมีชีวิตอยู่เมื่อเขาสัมผัสพื้นผิวของดาบ เขาได้รู้สึกหกปีศาจปิดผนึก Hex อย่างไรก็ตาม นี้หกหนึ่งยาก และเดือน เมงเฮาไม่สามารถตรัสรู้ได้รับหลังจากเดินรอบเดือน เขาไม่สามารถค้นหาศพของพระบารมี หรือเขาไม่เคยเห็นต้นไม้ Dao วิธีเดียวที่เขาจะค้นหาเส้นทางของเขากลับบ้านคือ ถ้าเขาพบว่าศพและต้นไม้ที่วันหนึ่ง เขาเห็นอมตะถ้ำ ลอยอยู่ในอากาศมี มันปรากฏมีในท่ามกลาง phasing teleportation วงจร บางครั้ง บางครั้งไม่มีมันถูกปกคลุม ด้วยรอยแตก เช่นถ้าได้รับการเข้าร่วมสงครามนับไม่ถ้วนนอก เมื่อเฮาเมงมองรอยแตก จิตปั่น ว่ามีตกใจเทพความสามารถและเทคนิคมหัศจรรย์ภายในของพวกเขาทันทีที่เขาจับสายตาของถ้ำของอมตะ ประตูเปิดเงียบกริบ และอาจจะเห็นผู้หญิงชุดขาวนั่งอยู่ที่นั่น ในช่วงเวลานั้น เหมือนกับว่า ทุกสิ่งทุกอย่างหายไปยกเว้นหญิงสาว นั่งนั่นคนเดียวสายตาของเธอคือเงียบสงบเธอมองออกเป็นระยะทาง และยัง ดูเหมือนจะเต็มไป ด้วยความเหงาที่ไม่รู้จักจบ...เธอดูเหมือนจะเป็นประเภทของบุคคลที่สามารถล้วงเอาบูชาของสิ่งมีชีวิตทั้งหมด ที่อาจทำให้ซากปรักหักพังของความเป็นอมตะสั่นเครือ เธอดูเหมือนจะสูญเสียสิ่งที่เธอไม่เคยได้รับกลับ สิ่งที่เฉพาะเพลงเศร้าที่มีการสะท้อนเสียงออก โดย Dao ต้นไม้อาจจะ อธิบายอย่างชัดเจนเธอค่อย ๆ มองขึ้น และสายตาของเธอตกลงเฮาเมงเฮา เมง trembled เขาตระหนักว่าผู้หญิงคนนี้...เป็นใครอื่นนอกเหนือจากที่ได้ปรากฏโดยต้นไม้ดาวโบราณ ผู้ที่ได้เกิดอื่น ๆ ตัวเลขทั้งหมดจะน้อมนมัสการ"แท้ ๆ คุณอยู่ในระดับ 13 เธอกล่าวอย่างช้า ๆ เสียงสะท้อนที่ไพเราะเป็นถ้ามันถูกสะท้อนออกมาตั้งแต่สมัยโบราณ

Results (Thai) 2:

เขาเห็นสวนพืชสมุนไพรขนาดใหญ่สำลักไปด้วยวัชพืช อย่างไรก็ตามภายในวัชพืชเม้งเฮาจับสายตาของพืชสมุนไพรบางตำนานสายตาของที่เหลือเขาหอบ.

พวกเขาเป็นพืชที่ยาปีศาจได้พูดหลังเมื่อเขาปลูกดาวของการเล่นแร่แปรธาตุในสีม่วงโชคชะตานิกายพืชที่มี ควรจะสูญพันธุ์ อย่างไรก็ตามภายในสวนสมุนไพรพืชที่เขาเห็นอย่างน้อยร้อยสายพันธุ์ที่แตกต่างกันของพืชเช่นตำนาน.

มีอย่างอื่นที่เขาเห็นมีที่เป็นที่น่าสังเกตโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ... เกิดอมตะสว่างเถา !!

ปัญหาเดียวก็คือว่ามีแมลงปีกแข็งสีดำนับไม่ถ้วนใน พื้นที่ที่ดูเหมือนจะไม่จบไม่สิ้น ถ้าเขาได้ใกล้ชิดเกินไปพวกเขาจะบินขึ้นไปในเมฆที่ดีบังคับให้เขาต้องหนีออกไปไกล หากเขาได้รับแม้แต่นิดช้ามันก็จะนำไปสู่การตายของเขา.

เขาเห็นบางสิ่งบางอย่างขนาดของดาวเคราะห์ แต่ปกคลุมไปด้วยหนวด แม้จะเห็นเพียงในระยะทางที่เกิดจากหนังศีรษะเม้งเฮาจะเติบโตชาและทันทีที่เขาหลบหนีไป.

เมื่อถึงจุดหนึ่งเขาเห็นทางขวามือที่มีขนาดใหญ่เพื่อให้มันดูเป็นใหญ่เป็นกาแลคซี ... .

นอกเหนือจากสิ่งเหล่านี้ เขาเห็นศพนับไม่ถ้วนลอยในซากปรักหักพังของความเป็นอมตะ มีเศษแตกของอาคารและกว้างใหญ่ไพศาลของที่ดินและแม้กระทั่งสัตว์ป่าผิวปากผ่านอากาศเป็น.

เมื่อเทียบกับโบราณสถานที่กว้างใหญ่และลึกลับเหล่านี้เป็นอมตะเม้งเฮาเองก็เล็กและอ่อนแอ เมื่อเทียบกับทุกสิ่งที่น่าอัศจรรย์ที่เขาเห็นเขาเป็นอะไร.

ในช่วงเดือนบางส่วนของพลังชีวิตของเขาหายไปจริง อย่างไรก็ตามฐานการเพาะปลูกของเขาได้รับการฟื้นตัวช้าซึ่งทำให้เขามีความเชื่อมั่นมากขึ้น สิ่งสำคัญที่สุดคือดาบหกรุ่นปีศาจซีลของที่มีอำนาจบางอย่างแปลก ทุกครั้งที่เขาต้องเผชิญกับอันตรายบางดาบจะออกมาไฟสว่างซึ่งเป็นหนึ่งในเหตุผลหลักที่เม้งเฮายังมีชีวิตอยู่.

เมื่อเขาสัมผัสพื้นผิวของดาบเขาก็สามารถที่จะรู้สึกหกปีศาจซีล Hex อย่างไรก็ตามฐานสิบหกนี้เป็นเรื่องยากที่หนึ่งและในช่วงเดือนเม้งเฮาก็ไม่สามารถที่จะได้รับการตรัสรู้.

หลังจากที่เดินไปรอบ ๆ สำหรับเดือนเขาก็ไม่สามารถที่จะหาศพของ Paramita พระเจ้า เขาก็ไม่เคยเห็นต้นไม้เชียงดาว วิธีเดียวที่สำหรับเขาที่จะหาเส้นทางกลับบ้านของเขาเป็นถ้าเขาพบว่าศพและต้นไม้ที่.

วันหนึ่งเขาเห็นถ้ำของอมตะมีลอยอยู่ในอากาศ มันดูเหมือนจะอยู่ในท่ามกลางของวงจรการวางขั้นตอน teleportation บางครั้งมีบางครั้งไม่ได้มี.

มันถูกปกคลุมไปด้วยรอยแตกเช่นถ้าการต่อสู้นับไม่ถ้วนได้รับการต่อสู้นอกของมัน เมื่อเม้งเฮามองที่รอยแตกความคิดของเขาปั่นเช่นถ้ามีความสามารถของพระเจ้าที่น่าตกใจและเทคนิคที่มีมนต์ขลังภายในของพวกเขา.

ในทันทีที่เขาจับสายตาของถ้ำอมตะของประตูเปิดเงียบกริบและผู้หญิงสีขาวเสื้อคลุมที่จะทำได้ จะเห็นได้นั่งอยู่ที่นั่น ในขณะที่มันดูเหมือนว่าทุกอย่างอื่นหายไปยกเว้นสำหรับผู้หญิงคนนั้นนั่งอยู่ที่นั่นคนเดียวทั้งหมด.

จ้องมองเธอเป็นที่เงียบสงบเช่นเธอมองออกไปไกลและยังดูเหมือนจะเต็มไปด้วยความเหงาไม่รู้จักจบ ... .

เธอดูเหมือนจะเป็น ประเภทของบุคคลที่จะล้วงเอาความเคารพบูชาของสิ่งมีชีวิตทุกคนที่อาจก่อให้เกิดซากปรักหักพังของความเป็นอมตะจะตัวสั่น เธอดูเหมือนจะมีบางสิ่งบางอย่างที่หายไปว่าเธอไม่เคยได้รับกลับมาบางสิ่งบางอย่างที่เฉพาะเพลงเศร้าที่ได้สะท้อนออกมาจากเชียงดาวต้นไม้อาจจะอธิบายได้อย่างชัดเจน.

เธอค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมองและจ้องมองเธอตกลงไปบนเม้งเฮา.

เม้งเฮากลัวจนตัวสั่นในขณะที่เขา ตระหนักว่าผู้หญิงคนนี้ ... ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากคนหนึ่งที่เคยปรากฏโดยเชียงดาวต้นไม้โบราณเป็นผู้หนึ่งที่ได้ก่อให้เกิดทั้งหมดตัวเลขอื่น ๆ ที่จะน้อมในการนมัสการ.

"นับจากนี้ไปคุณจะอยู่ในระดับที่ 13" เธอบอกว่าช้า เสียงสะท้อนของเธอฟังดูราวกับว่ามันถูกสะท้อนออกมาตั้งแต่สมัยโบราณ