Smith’s father was artist, Tony Smi

Smith’s father was artist, Tony Smith and her mother was actress and opera singer, Jane Lawrence.[3] Although Kiki's work takes a very different form than that of her parents, early exposure to her father's process of making geometric sculptures allowed her to experience formal craftsmanship firsthand. Her childhood experience in the Catholic Church, combined with a fascination of the human body, has long shaped her work conceptually.[4]

Smith moved from Germany to South Orange, New Jersey as an infant in 1955. Subsequently attended Columbia High School.[1] Later, she was enrolled at Hartford Art School in Connecticut for eighteen months from 1974-75. She then moved to New York City in 1976 and joined Collaborative Projects (Colab), an artist collective. The influence of this radical group's use of unconventional materials can be in seen in her work.[5] For a short time in 1984, she studied to be an emergency medical technician and by 1990, she began to make fully realized figures.[1]

Results (Thai) 1:

พ่อของ Smith เป็นศิลปิน Tony Smith และแม่ของเธอเป็นนักแสดงและนักร้องโอเปร่า ลอว์เรนซ์เจน [3] แม้ว่างานของ Kiki ใช้แบบฟอร์มที่แตกต่างกว่าของพ่อ สัมผัสต้นกับพ่อของเธอการทำประติมากรรมเรขาคณิตอนุญาตให้เธอไปพบทางฝีมือโดยตรง ประสบการณ์วัยเด็กของเธอในโบสถ์คาทอลิก รวมกับเสน่ห์ของร่างกายมนุษย์ นานมีรูปผลงานของเธอทางแนวคิด [4]สมิธย้ายจากเยอรมนีไปสีส้มใต้ นิวเจอร์ซีย์เป็นทารกในปี 1955 โรงเรียนมัธยมโคลัมเบีย attended ในเวลาต่อมา [1] ในภายหลัง เธอเข้าเรียนที่โรงเรียนศิลปะฮาร์ตฟอร์ดคอนเนตทิคัตในสิบแปดเดือนจาก 1974-75 จากนั้นเธอย้ายไปนิวยอร์กซิตี้ในปี 1976 และเข้าร่วมโครงการร่วมกัน (Colab), รวมศิลปิน อิทธิพลของกลุ่มนี้รุนแรงใช้วัสดุแปลกใหม่ในเห็นได้ในงานของเธอ [5] สำหรับช่วงเวลาสั้น ๆ ในปี 1984 เธอศึกษาจะ มีช่างเทคนิคการแพทย์ฉุกเฉิน และ โดย 1990 เธอเริ่มทำตัวเลขเต็ม [1]

Results (Thai) 2:

พ่อของสมิ ธ เป็นศิลปินโทนี่สมิ ธ และแม่ของเธอเป็นนักแสดงและนักร้องโอเปร่าเจนอเรนซ์. [3] แม้ว่างานของ Kiki ใช้รูปแบบที่แตกต่างกันมากกว่าที่พ่อแม่ของเธอเปิดเผยในช่วงต้นถึงกระบวนการของพ่อของเธอในการทำประติมากรรมรูปทรงเรขาคณิตอนุญาตให้เธอได้สัมผัสกับงานฝีมืออย่างเป็นทางการโดยตรง ประสบการณ์วัยเด็กของเธอในโบสถ์คาทอลิกบวกกับเสน่ห์ของร่างกายมนุษย์ที่มีรูปร่างยาวแนวคิดการทำงานของเธอ. [4]

สมิ ธ ย้ายจากเยอรมนีไป South Orange, นิวเจอร์ซีย์ยังเป็นทารกในปี 1955 ต่อมาได้เข้าร่วมโรงเรียนมัธยมโคลัมเบีย. [ 1] ต่อมาเธอได้เข้าเรียนที่โรงเรียนศิลปะฮาร์ตฟอร์ดในคอนเนตทิคัสิบแปดเดือน 1974-75 แล้วเธอก็เดินไปยังนครนิวยอร์กในปี 1976 และได้เข้าร่วมโครงการความร่วมมือ (Colab) ซึ่งเป็นกลุ่มศิลปิน อิทธิพลของกลุ่มนี้ที่รุนแรงของการใช้วัสดุที่แปลกใหม่สามารถเห็นได้ในในการทำงานของเธอ. [5] เป็นเวลาสั้น ๆ ในปี 1984 เธอเรียนที่จะเป็นเทคนิคการแพทย์ฉุกเฉินและโดยปี 1990 เธอเริ่มที่จะทำให้ตัวเลขรู้อย่างเต็มที่. [1]

Results (Thai) 3:

สมิธพ่อเป็นจิตรกรแม่เป็นนักแสดงและนักร้องโอเปร่าโทนี่สมิธและลอเรนซ์เจน . . . 3 กิกิ [ ] ในการทำงานต้องเป็นวิธีที่แตกต่างกว่าที่พ่อแม่เธอทำประติมากรรมของพ่อต้นก่อนที่จะเปิดเผยอย่างเป็นทางการ firsthand ขั้นตอนที่ช่วยให้ประสบการณ์ craftsmanship เรขาคณิต ในโบสถ์คาทอลิกในเด็กก่อนรวม A ของประสบการณ์ของมนุษย์ที่ยาวก่อนที่จะ 4 อันเชลอตตี conceptually [ งาน ]สมิธจากตอนเหนือของเยอรมนีลงใต้ของ Orange , New Jersey , ทารกในปี 1955 ภายหลังเข้าร่วมโรงเรียนมัธยมโคลัมเบีย [ 1 ] . . . . . . . หลังจากที่เธอฟอร์ดวิทยาลัยในคอนเนตทิคัตเข้มข้น ( จากปี 1974 สิบแปดเดือน 75 จากนั้นเธอย้ายไปนิวยอร์กเมื่อปี 1976 และประสานงานโครงการ ( พี่ ) , ศิลปินกลุ่ม ผลกระทบที่รุนแรงของกลุ่มที่ไม่ใช่แบบดั้งเดิมของวัสดุที่สามารถใช้ในงานก่อนหน้าของทะเลสาบ . . . . . . . [ 5 ] ในช่วงเวลาสั้นที่ศึกษาในปี 1984 และเธอเป็นหนึ่งในช่างเทคนิคการแพทย์ฉุกเฉินและในปี 1990 เธอเริ่มอย่างเต็มที่ดิจิตอล [ 1 ] . . . . . . .