Results (
Thai) 1:
[Copy]Copied!
หลวงพ่อใหญ่วัดตาลวัดตาล ต.หล่มเก่า อ.หล่มเก่า จังหวัดเพชรบูรณ์٭٭٭٭٭٭٭٭٭٭٭٭٭٭٭٭٭٭٭٭٭٭٭٭٭٭ประวัติวัดตาลวัดตาลตั้งอยู่เลขที่ 73 หมู่ที่ 3 ต.หล่มเก่า อ.หล่มเก่า จ. เพชรบูรณ์ สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย มีที่ดินที่ตั้งวัด เนื้อที่ 4 ไร่ 3 งาน 16 ตารางวา ตาม น.ส.4 จ .เลขที่ 14005 อาณาเขต.ทิศเหนือยาว 45 วา ติดต่อทางสาธารณะ ทิศใต้ยาว 45 วา ติดต่อกับหมู่บ้าน ทิศตะวันออก ยาว 40 วา ติดต่อกับซอยสาธารณะ ทิศตะวันตก ยาว 40 วา ติดต่อกับทางสาธารณะ มีที่ดินที่ธรณีสงฆ์ จำนวน 1 แปลง เนื้อที่ 13 ไร่ 3 งาน 3 ตารางวา อยู่ริมหมู่บ้าน ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นทุ่งนามีเนื้อที่ 11 ไร่ ตาม นส. 4 จ. เลขที่ 32077 วัดนี้ได้รับวิสุงคามสีมาประมาณ พ.ศ.2403 ปัจจุบันวัดตาลมีพระภิกษุอยู่จำพรรษา 1 รูป สามเณร 2 รูป อดีตเจ้าอาวาสภายหลังที่พอจะสืบทราบนามได้ได้แก่ ครูบาสิงห์, ครูบาหม, ครูบาคำ, ครูบาจันนา,พระมหาเกษม,ครูบาศร, พระอธิการทองรักษ์สุทันฺโต,หลวงตาจันทร์แจ่มเจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน คือพระครูสถิตพัชรธรรม พ.ศ.2538 –ปัจจุบันวัดตาล เดิมมีชื่อว่า “วัดตาลสราญรมณ์” แต่คนทั่วไปมักเรียกกันสั้นๆวัดตาล มี “หลวงพ่อใหญ่วัดตาล” เป็น พระพุทธรูปเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองหล่มเก่า สร้างด้วยปูนปั้น ปางมารวิชัย ศิลปลานช้าง ขนาดหน้าตักกว้าง 2.95 เมตร สูง 4.19 เมตร ประดิษฐานอยู่ภายในวิหาร ประชาชนทั่วไปตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันศรัทธาสักการะบูชาเป็นที่พึ่งด้านจิตใจ ต่างพากันมากราบขอพร ขอให้คุ้มครองรักษาอำนวยพรให้ครอบครัวลูกหลานของตนได้อยู่ดีมีสุข,ขอบนให้ขายที่ดินได้ง่าย เร็ว ราคาดี, ทำงาน, รับราชการ, ทำการค้า ให้มีความเจริญรุ่งเรือง, ขอบนให้ลูกของตนสามารถเข้าสอบเรียนต่อ เข้าทำงาน รับราชการ เลื่อนตำแหน่งหน้าที่การงานได้ ประสบผลที่ดี,ขอบนให้พ้นผิด ชนะคดีความในศาล,ขอบนมิให้ถูกติดเกณฑ์ทหาร, สาบานตนให้พ้นผิดเกี่ยวกับการลักขโมยสิ่งของ, กล่าวร้ายป้ายสีซึ่งกันและกัน แล้วมาแสดงความบริสุทธิ์,สาบานตนเลิก ลด ละยาเสพติดอื่นๆมีตำนานเล่าขานของชาวบ้านปากต่อปากจากรุ่นปู่ย่าตายายถ่ายทอด สู่ลูกสู่หลานสืบต่อๆกันมาถึงปัจจุบัน ได้เล่าเกี่ยวกับการสร้างพระพุทธรูปองค์นี้ว่า “มีพระเถระผู้ใหญ่เดินทางนั่งเรือมาจากทางใต้ ลงเรือที่ท่าน้ำหน้าวัด แล้วมานำพาประชาชนในละแวกนี้ พัฒนาวัดและได้สร้างพระพุทธรูปองค์ใหญ่นี้ขึ้นมา วันที่นำพาช่างและประชาชน ปั้นแต่งพระเศียรพระพักตร์ของพระพุทธรูปนั้น ยังไม่ทันได้แต่งพระเศียร พระพักตร์ พระนาสิก พระเนตร ก็ได้เวลาพักเที่ยง พากันมาหุงหาอาหารกันที่ป่าไผ่ด้านตะวันออก (บริเวณต้นหางนกยุงปัจจุบัน) ขณะนั้น ได้พากันเห็นคนแก่นุ่งขาวห่มขาวเดินไป - เดินมาระหว่างบ่อน้ำ (บริเวณใต้ต้นจันทร์ เป็นบ่อน้ำที่สร้างขึ้นมา พร้อมกับการสร้างหลวงพ่อใหญ่ แต่ปรากฏไม่มีตาน้ำใหลออกมาเลย ปัจจุบันทางเทศบาลได้บูรณะปฏิสังขรณ์ใหม่)กับพระพุทธรูปคือหลวงพ่อใหญ่วัดตาลที่กำลังได้รับการบูรณะในครั้งนั้น หลังจากที่รับประทานอาหารกันเรียบร้อยแล้ว ก็พากันมาจะปั้นแต่งพระพุทธรูปกันต่อ แต่ปรากฏว่า พระพักตร์ พระเศียรของพระพุทธรูปองค์ใหญ่นี้ ได้รับการปั้นแต่งพระพักตร์แล้วเสร็จบริบูรณ์งดงามแล้วและบ่อน้ำนั้นก็ปรากฏว่า มีน้ำผุดขึ้นมาพร้อมกับการปั้นแต่พระพักตร์ของหลวงพ่อใหญ่สำเร็จ)ก็เลยพากันเข้าใจว่าเทวดามาช่วยสร้าง (นางคำผัด ภักดีสาร ลูกหลานชาวบ้านวัดตาล) ย้อนหลังไปนับตั้งแต่พ.ศ.2516 ก่อนที่วิหารอันเป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อใหญ่วัดตาลหลังเดิม จะถูกรื้อแล้วสร้างหลังใหม่ขึ้นมาแทนดังที่เห็นปัจจุบันนี้นั้น ภายในวิหารหลังเดิม มีศิลาจารึกอักขระภาษาไทยโบราณปรากฏอยู่ แต่ผู้เขียนไม่อาจสามารถจะอ่านจับใจความได้ เนื่องจากอยู่ในสภาพหักบิ่นอยู่ครึ่งหนึ่งแต่รุ่นปู่ย่าสมัยนั้นได้ยืนยันข้อความที่ปรากฏอยู่ในแผ่นศิลาจารึกทั้งหมดว่า“พระพุทธรูปหน้าตาขี้รี้วขี้เหล่องค์นี้ มิใช่องค์จริง เป็นเพียงองค์ครอบเท่านั้น องค์จริงตั้งอยู่ภายในทำด้วยทองสำริด” เรื่องนี้เท็จจริงอย่างไรก็ไม่อาจพิสูจน์ได้เนื่องจากเกรงบารมีองค์พระและมีคำขานกันมา สมัยผู้เขียนยังเด็กเล็กๆ ชาวบ้านวัดตาลและใกล้เคียงทั้งผู้ใหญ่และลูกหลานกล่าวขานกันมาว่า “หินกลี้งเป็นที่ตั้งของทหาร วัดตาลเป็นวัดสาบาน” (วัดบ้านหินกลิ้งหรือวัดศรีมงคลบ้านหินกลี้งปัจจุบัน ห่างขึ้นไปทางทิศเหนือ ประมาณครึ่งกิโลเมตร (พระครูสถิตพัชรธรรม) นายดิเรก ถึงฝั่ง อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ คนที่ 36 1 กันยายน 2546 ) สืบค้นประวัติเมืองเพชรบูรณ์และพ่อขุนผาเมือง เขียนเป็นหนังสือชื่อ “พ่อขุนผาเมือง วีรกษัตริย์นอกประวัติศาสตร์เมืองราด-เพชรบูรณ์”ไว้ ใจความตอนหนึ่งว่า “ตามประวัติศาสตร์ท้องถิ่นเมืองหล่มสัก เมืองหล่มเก่า เล่าขานตกทอดกันว่า พ่อขุนผาเมืองนั้น มีพระชายาที่เป็นคนไทยอยู่ที่เมืองหล่มเก่าองค์หนึ่งชื่อ “พระนางเนาวรงค์เทวี” เป็นลูกพ่อเมืองหล่มเก่า (เมืองล่ม) เมืองเล็กๆ เมืองหนึ่งที่อยู่ในการดูแลของเมืองราด พระนางเนาวรงค์เทวีนั้นอยู่ที่วังตาล ปัจจุบันคือบริเวณวัดตาล เขตอำเภอหล่มเก่า นักประวัติศาสตร์บางคนระบุว่า พระชายาคนไทยของพ่อขุนผาเมืองชื่อ “พระนางปัทมาเทวี” เป็นราชวงค์สุโขทัย ซึ่งผิดข้อเท็จจริง กล่าวคือพ่อขุนผาเมืองออกจากกรุงสุโขทัยมาเป็นเวลานาน รบทัพจับศึกมาตลอดจนยึดนครเดิดได้ และไปสร้างเมืองใหม่ขึ้นคือ เมืองราด ช่วงนั้นพ่อขุนผาเมืองไม่ได้กลับกรุงสุโขทัย เพราะอยู่ระหว่างสร้างเมืองราดให้เข้มแข็ง ดังนั้น การที่จะไปมีพระชายาที่สุโขทัยและนำมาไว้ที่วังตาล เมืองหล่มเก่า (เมืองล่ม) นั้นจึงไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริงที่ปรากฏที่วัดตาล อำเภอหล่มเก่าปัจจุบันมีศาลาของพระนางเนาวรงค์เทวีอยู่ในวัด ชาวบ้านเรียกว่า ศาลาแม่เข็มทองกับพ่อขุนผาเมือง เข็มทองเป็นชื่อเดิมของพระนางเนาวรงค์เทวี และมีศาลเก่าๆของแม่เข็มทองอยู่ 1 แห่ง “ตำนานเมืองหล่มเก่าที่เกี่ยวข้องกับแม่เข็มทอง เล่ากันว่า พระนางเนาวรงค์เทวีเป็นผู้กล้าหาญ เฉลียวฉลาด และร่วมออกรบกับพ่อขุนผาเมือง เมื่อครั้งเข้าตีกรุงสุโขทัยคืนจากขอมสบาดโขลญลำพงด้วยพระนางจึงเป็นที่รักของพ่อขุนผาเมืองยิ่งนักท่านได้เขียนหนังพ่อขุนผาเมือง เพื่อเป็นหลักฐานเชื่อมโยงประวัติศาสตร์ของพ่อขุนผาเมืองให้เป็นเรื่องราวไปในทางเดียวกัน และได้สร้างอนุสรณ์สถานเมืองราด ก็คือ บ้
Being translated, please wait..