A positive ethos will take managers

A positive ethos will take managers a long way towards influencing their audiences with their intended messages, whereas a negative ethos is one of the greatest barriers to effective communication. How a manager is perceived makes the difference in how well he or she is believed, how persuasive he or she is, and ultimately, how effectively he or she communicates.
Successful leadership communication depends on projecting a positive ethos.

One of the primary requirements to inspire confidence and induce others to listen is credibility. In their research on leadership, James M. Kouzes and Barry Z. Posner found that credibility is the number one reason people follow someone (1993). To be effective, leaders must be credible to their followers. Credibility is essential to creating a positive ethos. Aristotle says, “persuasion is achieved by the speaker’s personal character when the speech is so spoken as to make us think him credible” (Roberts, 1954).

For an audience to view leaders as credible, they must perceive them as knowledgeable, authoritative, confident, honest, and trustworthy. Leaders can achieve the first two through hard work and position. For instance, if they are giving a presentation on the future of energy production in the United States, they must know the industry and the market as well as something about politics and regulatory policy. They can learn the facts and appear knowledgeable. In addition, if they are senior executives of a major energy company, their audience will probably perceive them as persons with the authority to talk about energy. They can exude confidence by being well prepared and feeling comfortable delivering presentations. They can even create an aura of honesty and trustworthiness by effective delivery techniques, such as steady eye contact, easy rapport with the audience, being well prepared to answer questions, and saying, “I do not know but will find out for you” when they do not have the answer at hand. Thus, they can take specific actions to build greater credibility. By doing so, they can begin to establish a positive ethos.

To build a positive ethos, leaders need to know how others perceive them; however, determining how all audiences perceive them is not easy. Research on the ability of managers to judge how they are perceived found that “most managers overestimate their own credibility – considerably” (Conger, 1998). Few people really see themselves as others see them. The idea that when two people meet, six people are really in the room – the persons as they see themselves, the persons as the other sees them, and the persons as they may actually be – underscores the complexity of perception and self perception (Barnlund, 1962). Deciding which perception would be the most accurate would lead to a philosophical tangle, although determining which one is most important would depend on the purpose of the encounter. If one of the individuals intends to influence the other, then the perception of the other takes on great importance, and the need for that individual to know how he or she is perceived becomes critical.

What can managers do to find out how they are perceived? The first step is to develop greater emotional intelligence. Emotional intelligence is the capacity to understand one’s own emotions and those of other people. In addition to attempting to understand the self better, the prospective leader should solicit honest feedback from others. Self-exploration and some sought-after honest feedback from others will bring the greater self-awareness necessary to judge ourselves more accurately and to recognize the signals others send back to us either in their words or, often more importantly, in their body language and their actions.

Also, managers can improve their ability to project a positive ethos by building a positive reputation, improving their professional appearance, projecting greater confidence, and learning to communicate more effectively. Reputation could include title, organizational positions, past roles or accomplishments, and public opinion. They can achieve a positive appearance through appropriate and culturally expected dress and grooming. To suggest confidence to an audience, they can use eye contact, establish a rapport, and speak easily about a subject without notes when presenting. By using language effectively to capture the meaning and inspire trust, they can create believers in their message.

Results (Thai) 1:

ปัดค่าบวกจะจัดการแบบต่อมีอิทธิพลต่อผู้ชมของพวกเขา ด้วยข้อความตั้งใจของพวกเขา ปัดลบเป็นอุปสรรคการสื่อสารมีประสิทธิภาพมากที่สุดอย่างใดอย่างหนึ่ง วิธีการจัดการถือว่าทำให้ ความแตกต่างในวิธีดีเขาเชื่อว่า persuasive ว่าเขาหรือเธอเป็น และสุด วิธีมีประสิทธิภาพเขาสื่อสาร สื่อสารความเป็นผู้นำที่ประสบความสำเร็จขึ้นอยู่กับ projecting ปัดบวก หนึ่งความหลักเพื่อสร้างแรงบันดาลใจความเชื่อมั่น และฟังผู้อื่นก่อให้เกิดความน่าเชื่อถือได้ ในการวิจัยภาวะผู้นำ James M. Kouzes และ Barry Posner z.พบว่า ความน่าเชื่อถือคือ เหตุผลจำนวนหนึ่งคนตาม (1993) มีประสิทธิภาพ ผู้นำต้องน่าเชื่อถือเพื่อติดตามของพวกเขา ความน่าเชื่อถือเป็นสิ่งสำคัญเพื่อสร้างปัดบวก อริสโตเติลกล่าวว่า "จูงใจสามารถทำได้ตามลักษณะส่วนตัวของผู้บรรยายเมื่อการออกเสียงให้พูดเป็นทำให้เราคิดว่า เขาน่าเชื่อถือ" (โรเบิตส์ 1954) สำหรับผู้ชมให้ดูผู้นำเป็นที่น่าเชื่อถือ พวกเขาต้องสังเกตเหล่านั้นเป็นความรู้ ไทม์ มั่นใจ ซื่อสัตย์ ความน่าเชื่อถือ ผู้นำสามารถบรรลุสองแรกผ่านการทำงานและตำแหน่ง เช่น ถ้าพวกเขาจะนำเสนอในอนาคตของการผลิตพลังงานในประเทศสหรัฐอเมริกา พวกเขาต้องรู้อุตสาหกรรม และตลาด รวมทั้งบางสิ่งบางอย่างเกี่ยวกับการเมืองและนโยบายการกำกับดูแล พวกเขาสามารถเรียนรู้ข้อเท็จจริง และแสดงความรู้ ถ้าเป็นผู้บริหารระดับสูงของบริษัทพลังงานรายใหญ่ ผู้ชมของพวกเขาจะคงสังเกตเหล่านั้นเป็นผู้มีอำนาจจะพูดคุยเกี่ยวกับพลังงาน พวกเขาสามารถคายความเชื่อมั่น โดยการเตรียมความพร้อมและรู้สึกสะดวกสบายเสนอส่งมอบ พวกเขายังสามารถสร้าง aura ซื่อสัตย์และน่าเชื่อถือ โดยเทคนิคการจัดส่งที่มีประสิทธิภาพ เช่นตามั่นคง สายสัมพันธ์ง่ายกับผู้ชม การเตรียมความพร้อมตอบคำถาม และว่า "ฉันไม่ทราบ แต่จะค้นหาสำหรับคุณ" เมื่อไม่มีคำตอบที่ ดังนั้น พวกเขาสามารถใช้การดำเนินการเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือมากขึ้น โดยการทำเช่นนั้น พวกเขาสามารถเริ่มต้นสร้างปัดบวก สร้างปัดบวก ผู้นำจำเป็นต้องรู้ว่าผู้อื่นสังเกตได้ อย่างไรก็ตาม กำหนดวิธีสังเกตของผู้ชมทั้งหมด นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย วิจัยความสามารถของผู้จัดการจะตัดสินว่าจะรับรู้พบว่า "ผู้จัดการส่วนใหญ่ overestimate ตนความน่าเชื่อถือมาก" (Conger, 1998) บางคนเห็นตัวเองเป็นคนอื่นเห็น ความคิดที่ว่า เมื่อพบคนสองคน หกคนอยู่จริง ๆ ในห้อง – บุคคลพวกเขาเห็นตัวเอง บุคคลเป็นอีกเห็นพวกเขา และบุคคลที่พวกเขาจริงอาจ – underscores ความซับซ้อนของการรับรู้และรับรู้ตนเอง (Barnlund, 1962) ตัดสินใจที่รับรู้จะถูกต้องที่สุดจะทำให้ขนาดปรัชญา แม้กำหนดใดสำคัญสุดจะขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของพบ ถ้าบุคคลหนึ่งมีอิทธิพลอื่น ๆ แล้ว การรับรู้ของอื่นจะสำคัญมาก และต้องการที่บุคคลรู้ว่าเขาหรือเธอจะมองเห็นเป็นสำคัญ สามารถจัดการอย่างไรเพื่อหาวิธีที่พวกเขาจะมองเห็น ขั้นตอนแรกคือการ พัฒนาความฉลาดทางอารมณ์มากขึ้น ความฉลาดทางอารมณ์เป็นความสามารถในการเข้าใจอารมณ์ของตนเองและของผู้อื่น นอกจากการพยายามทำความเข้าใจตนเองดีกว่า ผู้นำในอนาคตควรชวนซื่อสัตย์คำติชมจากผู้อื่น สำรวจตนเองและผลป้อนกลับซื่อสัตย์บางชื่อจากผู้อื่นจะนำ self-awareness มากกว่าจำเป็นวิพากษ์ตนเองได้ชัดเจนยิ่งขึ้น และ การรับรู้สัญญาณ อื่น ๆ ส่งไปเราทั้งคำพูดของพวกเขาอย่างน้อย มักจะสำคัญ ในภาษาร่างกายและการกระทำของพวกเขา ยัง ผู้จัดการสามารถปรับปรุงความสามารถในการโครงการปัดบวก โดยสร้างชื่อเสียงบวก ลักษณะของมืออาชีพ ความมั่นใจมากขึ้นประเมิน ปรับปรุง และเรียนรู้การสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ ชื่อเสียงอาจรวมถึงชื่อ ตำแหน่งงาน บทบาทที่ผ่านมา หรือสำเร็จ และมติมหาชน พวกเขาสามารถบรรลุลักษณะบวกผ่านเครื่องแต่งกายที่เหมาะสม และวัฒนธรรมคาดและกรูมมิ่ง แนะนำมั่นใจกับผู้ชม พวกเขาสามารถใช้ตา สร้างสายสัมพันธ์เป็น และพูดง่าย ๆ เรื่องโดยไม่มีหมายเหตุเมื่อนำเสนอ โดยใช้ภาษาได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อรวบรวมความหมาย และแรงบันดาลใจให้ความน่าเชื่อถือ พวกเขาสามารถสร้างผู้เชื่อในข้อความของพวกเขา

Results (Thai) 2:

ร๊อคในเชิงบวกจะใช้ผู้จัดการไกลต่อการที่มีอิทธิพลต่อผู้ชมของพวกเขาที่มีข้อความตั้งใจของพวกเขาในขณะที่ร๊อคเชิงลบเป็นหนึ่งในอุปสรรคที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ วิธีผู้จัดการเป็นที่รับรู้ทำให้ความแตกต่างในวิธีที่ดีที่เขาหรือเธอจะเชื่อว่าวิธีการโน้มน้าวใจเขาหรือเธอและในที่สุดวิธีการได้อย่างมีประสิทธิภาพเขาหรือเธอสื่อสาร.
การสื่อสารความเป็นผู้นำที่ประสบความสำเร็จขึ้นอยู่กับการฉายร๊อคบวก. หนึ่งในความต้องการหลักในการ สร้างแรงบันดาลใจทำให้เกิดความเชื่อมั่นและคนอื่น ๆ ที่จะฟังคือความน่าเชื่อถือ ในงานวิจัยของพวกเขาในการเป็นผู้นำ, เจมส์เมตร Kouzes และแบร์รี่ซี Posner พบว่าความน่าเชื่อถือเป็นจำนวนหนึ่งในเหตุผลที่คนทำตามคน (1993) ที่จะมีประสิทธิภาพจะต้องเป็นผู้นำที่น่าเชื่อถือในการติดตามของพวกเขา ความน่าเชื่อถือเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างความเป็นมิตรในเชิงบวก อริสโตเติลกล่าวว่า "การชักชวนจะทำได้โดยตัวบุคคลของลำโพงเมื่อพูดเป็นภาษาพูดเพื่อที่จะทำให้เราคิดว่าเขาน่าเชื่อถือ" (โรเบิร์ต, 1954). สำหรับผู้ชมเพื่อดูผู้นำเป็นที่น่าเชื่อถือ, พวกเขาจะต้องรับรู้ว่าพวกเขาเป็นความรู้เผด็จการ มั่นใจซื่อสัตย์และน่าเชื่อถือ ผู้นำจะประสบความสำเร็จครั้งแรกที่สองผ่านการทำงานหนักและตำแหน่ง ตัวอย่างเช่นถ้าพวกเขาจะให้นำเสนอเกี่ยวกับอนาคตของการผลิตพลังงานในประเทศสหรัฐอเมริกาที่พวกเขาจะต้องรู้ว่าอุตสาหกรรมและตลาดเช่นเดียวกับบางสิ่งบางอย่างเกี่ยวกับการเมืองและนโยบายการกำกับดูแล พวกเขาสามารถเรียนรู้ข้อเท็จจริงและปรากฏความรู้ นอกจากนี้หากพวกเขาเป็นผู้บริหารระดับสูงของ บริษัท พลังงานรายใหญ่ชมของพวกเขาอาจจะรู้ว่าพวกเขาเป็นคนที่มีอำนาจที่จะพูดคุยเกี่ยวกับพลังงาน พวกเขาสามารถคายความเชื่อมั่นโดยการเตรียมความพร้อมและความรู้สึกที่นำเสนอความสะดวกสบายในการส่งมอบ พวกเขายังสามารถสร้างกลิ่นอายของความซื่อสัตย์สุจริตและความน่าเชื่อถือโดยใช้เทคนิคการจัดส่งที่มีประสิทธิภาพเช่นการสบตามั่นคงสามัคคีง่ายกับผู้ชมเป็นเตรียมความพร้อมที่จะตอบคำถามและพูดว่า "ผมไม่ทราบ แต่จะหาออกมาให้คุณ" เมื่อ พวกเขาไม่ได้มีคำตอบที่อยู่ในมือ ดังนั้นพวกเขาสามารถดำเนินการเฉพาะเจาะจงในการสร้างความน่าเชื่อถือมากขึ้น . โดยการทำเช่นนั้นพวกเขาสามารถเริ่มต้นที่จะสร้างความเป็นมิตรในเชิงบวกเพื่อสร้างความเป็นมิตรบวกผู้นำจำเป็นต้องรู้ว่าคนอื่น ๆ รับรู้พวกเขา; แต่การกำหนดวิธีการรับรู้ของผู้ชมทั้งหมดพวกเขาไม่ใช่เรื่องง่าย งานวิจัยเกี่ยวกับความสามารถของผู้บริหารที่จะตัดสินว่าพวกเขาจะรับรู้พบว่า "ผู้จัดการส่วนใหญ่ประเมินความน่าเชื่อถือของตัวเอง - มาก" (ตู, 1998) จริงๆไม่กี่คนที่เห็นว่าตัวเองเป็นคนอื่นเห็นพวกเขา ความคิดที่ว่าเมื่อคนสองคนพบกันหกคนเป็นจริงในห้องพัก - บุคคลที่พวกเขาเห็นตัวเองเป็นคนอื่น ๆ ที่เห็นพวกเขาและคนที่พวกเขาอาจจะเป็นจริง - ขีดความซับซ้อนของการรับรู้และการรับรู้ด้วยตนเอง (Barnlund , 1962) การตัดสินใจที่จะมีการรับรู้ที่ถูกต้องที่สุดจะนำไปสู่ความยุ่งเหยิงปรัชญาแม้ว่าการกำหนดเป็นที่หนึ่งที่สำคัญที่สุดจะขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของการเผชิญหน้า หากหนึ่งในบุคคลที่มีความตั้งใจที่จะมีอิทธิพลต่ออื่น ๆ แล้วการรับรู้ของคนอื่น ๆ จะใช้เวลาในความสำคัญที่ดีและความจำเป็นสำหรับบุคคลที่จะรู้ว่าเขาหรือเธอเป็นที่รับรู้เป็นสำคัญ. สิ่งที่ผู้จัดการสามารถทำเพื่อหาวิธีการที่พวกเขามีการรับรู้ ? ขั้นตอนแรกคือการพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์มากขึ้น ความฉลาดทางอารมณ์คือความสามารถที่จะเข้าใจอารมณ์ของตนเองและของคนอื่น ๆ นอกเหนือจากความพยายามที่จะเข้าใจตัวเองดีกว่าผู้นำในอนาคตควรขอความคิดเห็นจากคนอื่น ๆ มีความซื่อสัตย์ สำรวจตัวเองและบางส่วนขอหลังคิดเห็นอย่างจริงใจจากคนอื่น ๆ จะนำมาซึ่งความตระหนักในตนเองมากขึ้นจำเป็นที่จะต้องพิจารณาตัวเราเองมากขึ้นอย่างถูกต้องและจะรับรู้สัญญาณอื่น ๆ ที่ส่งกลับมาให้เราอย่างใดอย่างหนึ่งในคำพูดของพวกเขาหรือมักจะมีความสำคัญมากในภาษากายของพวกเขาและ การกระทำของพวกเขา. นอกจากนี้ผู้จัดการสามารถปรับปรุงความสามารถของพวกเขาในโครงการร๊อคบวกโดยการสร้างชื่อเสียงที่ดีในการปรับปรุงลักษณะมืออาชีพของพวกเขาที่ยื่นความมั่นใจมากขึ้นและการเรียนรู้ที่จะสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ ชื่อเสียงอาจรวมถึงชื่อตำแหน่งขององค์กรบทบาทในอดีตหรือความสำเร็จและความคิดเห็นของประชาชน พวกเขาสามารถบรรลุลักษณะบวกผ่านการแต่งกายที่เหมาะสมและคาดว่าวัฒนธรรมและกรูมมิ่ง เพื่อแสดงให้เห็นความเชื่อมั่นให้กับผู้ชมพวกเขาสามารถใช้สายตาในการสร้างความสามัคคีและพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องบันทึกเมื่อแสดง โดยการใช้ภาษาได้อย่างมีประสิทธิภาพในการจับภาพความหมายและแรงบันดาลใจความไว้วางใจพวกเขาสามารถสร้างศรัทธาในข้อความของพวกเขา

Results (Thai) 3:

ethos บวกจะใช้เป็นทางยาวต่อที่มีอิทธิพลต่อผู้ชมของพวกเขากับพวกเขาตั้งใจข้อความผู้จัดการ ในขณะที่ ethos ลบเป็นหนึ่งในที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอุปสรรคเพื่อการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ วิธีการเป็นผู้จัดการการทำให้ความแตกต่างในวิธีที่ดีที่เขาหรือเธอจะเชื่อ ว่าใจเขาหรือเธอและในที่สุดวิธีการได้อย่างมีประสิทธิภาพเขาหรือเธอสื่อสาร .
การสื่อสารความเป็นผู้นำที่ประสบความสำเร็จขึ้นอยู่กับการคาด ethos บวก

เป็นหนึ่งในความต้องการหลักที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้คนอื่น ๆฟัง เป็นเงิน วิจัยภาวะผู้นำ เจมส์เมตร kouzes แบร์รี่ ซี พอสเนอร์พบว่าเงินเป็นจำนวนหนึ่งเหตุผลที่ผู้คนปฏิบัติตามคน ( 1993 ) จะมีประสิทธิภาพ ผู้นำจะต้องมีความน่าเชื่อถือให้กับผู้ติดตามของพวกเขาความน่าเชื่อถือเป็นสิ่งที่จำเป็นเพื่อสร้าง ethos บวก อริสโตเติลกล่าวว่า " persuasion คือโดยนิสัยส่วนตัวของผู้พูดที่พูดแล้วพูดให้เราคิดว่าเขาน่าเชื่อถือ " ( โรเบิร์ต , 1954 )

สำหรับผู้ชมที่จะเห็นผู้นำที่น่าเชื่อถือ พวกเขาต้องรับรู้พวกเขาเป็นมีความรู้ เผด็จการ มั่นใจ เที่ยงตรง และเชื่อถือได้ผู้นำสามารถบรรลุสองตัวแรกผ่านการทำงานหนักและตำแหน่ง ตัวอย่างเช่นถ้าพวกเขาจะให้นำเสนออนาคตของการผลิตพลังงานในประเทศสหรัฐอเมริกา พวกเขาต้องรู้อุตสาหกรรมและตลาด รวมทั้งเรื่องการเมืองและนโยบายด้านกฎระเบียบ พวกเขาสามารถเรียนรู้ข้อเท็จจริงและปรากฏมีความรู้ นอกจากนี้หากพวกเขาเป็นผู้บริหารอาวุโสของบริษัทพลังงานรายใหญ่ผู้ชมของพวกเขาอาจจะรับรู้พวกเขาเป็นบุคคลที่มีอำนาจที่จะพูดเกี่ยวกับพลังงาน พวกเขาสามารถให้ความเชื่อมั่น โดยเตรียมไว้อย่างดี และรู้สึกสบาย การส่งมอบงานนำเสนอ พวกเขายังสามารถสร้างออร่าของความซื่อสัตย์และความไว้วางใจ โดยเทคนิคการจัดส่งที่มีประสิทธิภาพ เช่น การสบตานิ่งกันง่ายกับผู้ชมเป็นอย่างดีพร้อมที่จะตอบคำถามและกล่าวว่า " ผมไม่รู้ แต่จะหาให้คุณ " เมื่อพวกเขาไม่ได้มีคำตอบอยู่ในมือ ดังนั้น พวกเขาสามารถใช้เพื่อสร้างการกระทำที่เฉพาะเจาะจงมากกว่าเงิน โดยการทำเช่นนั้นพวกเขาสามารถเริ่มต้นสร้าง ethos บวก

สร้าง ethos บวก ผู้นำต้องรู้ว่าคนอื่นรับรู้พวกเขา อย่างไรก็ตาม กำหนดวิธีการที่ผู้ชมทุกคนรับรู้พวกเขาไม่ใช่เรื่องง่ายงานวิจัยเกี่ยวกับความสามารถของผู้จัดการที่จะตัดสินว่าพวกเขามีการรับรู้ พบว่า ผู้จัดการทั่วไปของพวกเขาเองและความน่าเชื่อถือมากที่สุด " ( ปลาตูนา , 1998 ) บางคนคิดว่าตัวเองเป็นคนอื่นเห็นพวกเขา ความคิดที่ว่า เมื่อสองคนเจอกัน หก คน จริง ๆห้อง–บุคคลที่พวกเขาเห็นตัวเอง คนเป็นอื่น ๆเห็นพวกเขาและ คน ที่พวกเขาจริงอาจจะกล่าวถึงความซับซ้อนของการรับรู้และการรับรู้ตนเอง ( barnlund , 1962 ) การตัดสินใจที่รับรู้จะถูกต้องมากที่สุดจะนำไปสู่ความยุ่งเหยิงทางปรัชญา แม้ว่าการกำหนดที่สำคัญที่สุดจะขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของการแข่งขัน ถ้าหนึ่งในบุคคลที่ตั้งใจที่จะมีอิทธิพลอื่น ๆแล้วความเข้าใจในการใช้อื่น ๆที่สำคัญและจำเป็นที่แต่ละคนต้องทราบว่าเขาหรือเธอจะถูกมองว่าเป็นวิกฤติ

สิ่งที่ผู้บริหารทำเพื่อหาวิธีการที่พวกเขาจะรับรู้ ? ขั้นตอนแรกคือการ พัฒนามากขึ้นความฉลาดทางอารมณ์ . ความฉลาดทางอารมณ์ คือ ความสามารถในการเข้าใจอารมณ์ของตนเองและของผู้อื่นนอกจากพยายามเข้าใจตนเองดีขึ้น ผู้นำในอนาคตควรเรียกร้องความซื่อสัตย์ความคิดเห็นจากคนอื่น สำรวจตนเอง และขอหลังจากเที่ยงตรงความคิดเห็นจากคนอื่นจะเอามากกว่า ตนเอง จำเป็นจะต้องพิจารณาตัวเราเองมากขึ้นอย่างถูกต้องและรับรู้สัญญาณที่คนอื่นส่งมาให้เราด้วยคำพูดของตน หรือ บ่อย ๆที่สำคัญในภาษาร่างกายของพวกเขาและการกระทำของพวกเขา

ยัง ผู้จัดการสามารถปรับปรุงความสามารถในโครงการ ethos บวกโดยการสร้างชื่อเสียงที่ดีในการปรับปรุงลักษณะที่ปรากฏของอาชีพ ฉายความมั่นใจมากขึ้น และเรียนรู้ที่จะสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ ชื่อเสียงอาจรวมถึงชื่อตำแหน่งองค์การ บทบาทที่ผ่านมา หรือ ความสำเร็จ และความคิดเห็นของประชาชนพวกเขาสามารถบรรลุลักษณะที่เหมาะสม และคาดว่าจะผ่านทางวัฒนธรรมการแต่งกายและกรูมมิ่ง . เพื่อให้ความมั่นใจกับผู้ชม พวกเขาสามารถใช้สายตา สร้างความสามัคคี และพูดได้อย่างง่ายดายเกี่ยวกับเรื่องโดยไม่ต้องบันทึกเมื่อเสนอ . โดยการใช้ภาษาอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อจับความหมายและสร้างความไว้วางใจ พวกเขาสามารถสร้างศรัทธาในข้อความของพวกเขา