Research AccessibilityResearch acce

Research Accessibility
Research accessibility relates to staff having access to the evidence base (such as subscription to journals), access to a research mentor (usually an active researcher who can dedicate time to mentoring, role modelling, and coaching nurses in research activities), and access to research opportunities. As undertaken in the example of trialling the model presented here, this part of the model involves a high level of visibility of nurse researcher(s)/mentor around the hospital. In reality, this component of the model takes a bit of time; however, the process of engagement is key to the implementation of the model. The level of engagement required relates specifically to resources and mentorship. Resources are essential for clinical staff and although many publically funded hospitals have access to journals and journal databases (i.e., Pubmed, EBSCOhost), some smaller and privately funded hospitals may have limited access. Consequently, the evidence base can remain elusive, and staff will rely on alternative and diverse means to access evidence for practice. There are certainly alternatives to organizational journal subscription to databases, for instance, Google Scholar; however, access to full text articles is not always guaranteed. Staff will need access to research information. Information related to important clinical databases such as Johanna Briggs Institute, Cochrane Collaboration, National Institute of Clinical Excellence, and National Health and Medical Research Council websites are important to communicate. Research information can also be provided through seminars, workshops, and educational forums. In consideration of such activities, collaboration with other research mentors can be advantageous in terms of participant numbers and diversity of skill set for inclusion on research projects.

Staff will need access to the research mentor. Mentoring and/or leadership within this domain cannot be undertaken from a distance. In some research–industry appointments, researchers are focused on undertaking only funded and high-quality research (through competitive grants), which are essential for academic track record and academic legitimacy. Although undertaking competitively funded projects is important to enable research to be undertaken, leadership of clinical staff on smaller unfunded projects is often a good initial step for nurses to explore research and build confidence in participating in research or even leading their own projects. In addition, staff may be mentored in higher degrees (such as master's or PhD), a valuable activity for both the health care organization and the university sectors in such partnerships. Essential to the role of research leadership and/or mentoring is the active engagement of the research leader (professor) in the day-to-day realities of the clinical setting. High visibility translates to heightened accessibility of a research resource for staff—that is, the resource of the researcher mentor. Staff need to perceive the research leader as accessible, approachable, and engaging. To this end, attendance to key meetings, e-mail updates, annual reports, and being located at all campuses should the facility have multiple campuses are some ways to enhance visibility. Once staff are engaged and enthused, plans to apply research to the nursing clinical context can begin.

Results (Thai) 1:

การเข้าถึงงานวิจัยวิจัยถึงเกี่ยวข้องกับมีการเข้าถึงฐานหลักฐาน (เช่นสมัครใช้งานสมุดรายวัน), ถึงปรึกษางานวิจัย (โดยปกติการใช้งานนักวิจัยที่สามารถอุทิศเวลาเพื่อปรึกษา แบบจำลองบทบาท และพยาบาลฝึกอบรมในกิจกรรมการวิจัย), และการเข้าถึงโอกาสวิจัย ขณะทำตัวอย่างของ trialling รูปแบบนำเสนอที่นี่ นี้เป็นส่วนหนึ่งของรูปแบบเกี่ยวข้องกับระดับการแสดงผลของ researcher(s) พยาบาล / ที่ปรึกษารอบโรงพยาบาล ในความเป็นจริง ส่วนประกอบของรูปแบบนี้ใช้กัน อย่างไรก็ตาม การหมั้นเป็นคีย์การใช้งานของแบบจำลอง ระดับของความผูกพันที่ต้องเกี่ยวข้องกับทรัพยากรและตรวจสอบโดยเฉพาะ ทรัพยากรจำเป็นสำหรับการบริการทางคลินิก และถึงแม้ว่าโรงพยาบาลป่าว funded จำนวนมากสามารถเข้าถึงสมุดรายวันและสมุดรายวันการฐานข้อมูล (เช่น Pubmed, EBSCOhost), โรงพยาบาลบางเล็ก และสนับสนุนเอกชนอาจมีจำกัดเข้า ดังนั้น ฐานหลักฐานสามารถยังคงเปรียว และพนักงานจะพึ่งวิธีอื่น และมีความหลากหลายถึงหลักฐานในการปฏิบัติ มีทางเลือกให้องค์กรสมาชิกกับฐานข้อมูล เช่น Google นักวิชาการ อย่างไรก็ตาม การเข้าถึงบทความเต็มจะไม่เสมอรับประกัน พนักงานจะต้องเข้าถึงข้อมูลงานวิจัย ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับฐานข้อมูลทางคลินิกที่สำคัญเช่น สถาบัน Johanna บริกส์ ขั้นร่วม สถาบันแห่งชาติเว็บไซต์ความเป็น เลิศ และ สุขภาพแห่งชาติ และ สภาวิจัยทางการแพทย์ทางคลินิกเป็นสำคัญในการสื่อสาร ยังสามารถให้ข้อมูลงานวิจัยผ่านสัมมนา ประชุมเชิงปฏิบัติการ และกระดานข่าวเพื่อการศึกษา โดยคำนึงถึงกิจกรรมดังกล่าว ความร่วมมือกับ mentors วิจัยอื่น ๆ สามารถประโยชน์ผู้เข้าร่วมจำนวนและความหลากหลายของทักษะที่ตั้งเพื่อรวมไว้ในโครงการวิจัยพนักงานจะต้องเข้าไปปรึกษาวิจัย ปรึกษาหรือเป็นผู้นำภายในโดเมนนี้ไม่สามารถตอบได้จากระยะไกล ในบางงานวิจัย – อุตสาหกรรมนัดหมาย นักวิจัยมีความสำคัญกับกิจการเท่านั้น ได้รับการสนับสนุนและวิจัยคุณภาพสูง (ผ่านการแข่งขันทุน), ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการศึกษาประวัติและชอบธรรมทางวิชาการ แม้ว่ากิจการสามารถแข่งขันได้สนับสนุน โครงการเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้งานวิจัยที่จะดำเนินการ เป็นผู้นำของเจ้าหน้าที่คลินิกขนาดเล็ก unfunded โครงการเป็นขั้นตอนเริ่มต้นที่ดีสำหรับพยาบาลในการสำรวจวิจัย และสร้างความเชื่อมั่นในการมีส่วนร่วมในการวิจัย หรือแม้แต่ผู้นำโครงการของตัวเอง นอกจากนี้ อาจพวกพนักงานในองศาที่สูงขึ้น (เช่นโทหรือปริญญาเอก), กิจกรรมที่มีคุณค่าสำหรับองค์กรสุขภาพและภาคมหาวิทยาลัยในความร่วมมือดังกล่าวได้ จำเป็นบทบาทของผู้วิจัยและ/หรือปรึกษาได้หมั้นงานผู้นำวิจัย (อาจารย์) ในความเป็นจริงแต่ละวันของการตั้งค่าทางคลินิก มองเห็นสูงแปลถึงแถลงการณ์ของทรัพยากรวิจัยพนักงาน — นั่นคือ ทรัพยากรปรึกษานักวิจัย พนักงานต้องสังเกตวิจัยผู้นำเข้า เร็ว และฉลาด เพื่อการนี้ เข้าร่วมประชุมสำคัญ อีเม รายงานประจำปี และการตั้งอยู่ที่วิทยาเขตทั้งหมดควรให้มีหลายวิทยาเขตเป็นวิธีการบางส่วนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการมองเห็น เมื่อพนักงานมีส่วนร่วม และ enthused แผนการนำไปใช้วิจัยการพยาบาลทางคลินิกสามารถเริ่มต้น

Results (Thai) 2:

วิจัยการเข้าถึง
การเข้าถึงการวิจัยที่เกี่ยวข้องกับพนักงานที่มีการเข้าถึงหลักฐาน (เช่นการสมัครสมาชิกวารสาร) การเข้าถึงผู้ให้คำปรึกษาการวิจัย (โดยปกติจะใช้งานวิจัยที่สามารถอุทิศเวลาในการให้คำปรึกษา, การสร้างแบบจำลองบทบาทและพยาบาลในการฝึกกิจกรรมการวิจัย) และ การเข้าถึงโอกาสในการวิจัย ในขณะที่ดำเนินการในตัวอย่างของ trialling รูปแบบที่นำเสนอนี้เป็นส่วนหนึ่งของรูปแบบนี้จะเกี่ยวข้องกับระดับสูงของการมองเห็นของพยาบาลนักวิจัย (s) / ผู้ให้คำปรึกษาทั่วโรงพยาบาล ในความเป็นจริงองค์ประกอบของรูปแบบนี้จะใช้เวลาบิตของเวลา; แต่กระบวนการของการมีส่วนร่วมเป็นกุญแจสำคัญในการดำเนินการตามรูปแบบ ระดับของการมีส่วนร่วมที่ต้องเกี่ยวข้องโดยเฉพาะเพื่อให้ทรัพยากรและการให้คำปรึกษา ทรัพยากรที่มีความจำเป็นสำหรับพนักงานที่คลินิกและโรงพยาบาลแม้ว่ากองทุนสาธารณะจำนวนมากสามารถเข้าถึงวารสารและฐานข้อมูลวารสาร (เช่น Pubmed, EBSCOhost) โรงพยาบาลขนาดเล็กและกองทุนเอกชนบางรายอาจมีการ จำกัด การเข้าถึง ดังนั้นหลักฐานจะยังคงเข้าใจยากและพนักงานจะพึ่งพาวิธีการทางเลือกและความหลากหลายในการเข้าถึงหลักฐานสำหรับการปฏิบัติ มีแน่นอนทางเลือกในการสมัครสมาชิกวารสารขององค์กรไปยังฐานข้อมูลเช่น Google Scholar; แต่การเข้าถึงบทความฉบับเต็มจะไม่รับประกันเสมอ พนักงานจะต้องเข้าถึงข้อมูลการวิจัย ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับฐานข้อมูลทางคลินิกที่สำคัญเช่น Johanna บริกส์สถาบัน Cochrane ร่วมมือสถาบันแห่งชาติของความเป็นเลิศทางคลินิกและสุขภาพแห่งชาติและสภาวิจัยทางการแพทย์เว็บไซต์มีความสำคัญในการสื่อสาร ข้อมูลการวิจัยยังสามารถให้บริการผ่านการสัมมนาเชิงปฏิบัติการและฟอรั่มการศึกษา ในการพิจารณาการกิจกรรมดังกล่าวร่วมกับผู้ให้คำปรึกษางานวิจัยอื่น ๆ จะเป็นประโยชน์ในแง่ของจำนวนผู้เข้าร่วมและความหลากหลายของทักษะการตั้งค่าสำหรับการรวมในโครงการวิจัยพนักงานจะต้องเข้าถึงผู้ให้คำปรึกษางานวิจัย การให้คำปรึกษาและ / หรือความเป็นผู้นำภายในโดเมนนี้ไม่สามารถดำเนินการได้จากระยะไกล ในบางการนัดหมายการวิจัยอุตสาหกรรมนักวิจัยกำลังมุ่งเน้นไปที่การดำเนินการได้รับการสนับสนุนเพียงและการวิจัยที่มีคุณภาพสูง (ทุนผ่านการแข่งขัน) ซึ่งมีความจำเป็นสำหรับประวัติทางวิชาการและความชอบธรรมทางวิชาการ แม้ว่าการดำเนินโครงการที่ได้รับทุนสนับสนุนการแข่งขันเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้การวิจัยที่จะดำเนินการเป็นผู้นำของทีมงานทางคลินิกในโครงการสมทบขนาดเล็กมักจะเป็นขั้นตอนแรกที่ดีสำหรับพยาบาลในการสำรวจการวิจัยและการสร้างความเชื่อมั่นในการมีส่วนร่วมในการวิจัยหรือแม้กระทั่งนำโครงการของตัวเองของพวกเขา นอกจากนี้เจ้าหน้าที่อาจจะ mentored ในระดับที่สูงขึ้น (เช่นปริญญาโทหรือปริญญาเอก) ซึ่งเป็นกิจกรรมที่มีค่าสำหรับทั้งสององค์กรที่ดูแลสุขภาพและภาคมหาวิทยาลัยในความร่วมมือดังกล่าว สิ่งสำคัญที่จะมีบทบาทในการเป็นผู้นำด้านการวิจัยและ / หรือการให้คำปรึกษาเป็นงานหมั้นของผู้นำการวิจัย (อาจารย์) ในความเป็นจริงวันต่อวันของการตั้งค่าทางคลินิก การมองเห็นสูงหมายถึงการเข้าถึงความคิดริเริ่มของทรัพยากรการวิจัยสำหรับพนักงานที่เป็นทรัพยากรของผู้ให้คำปรึกษานักวิจัย พนักงานต้องรับรู้เป็นผู้นำการวิจัยที่สามารถเข้าถึงได้เข้าถึงและมีส่วนร่วม ด้วยเหตุนี้การเข้าร่วมการประชุมที่สำคัญการปรับปรุงทาง e-mail, รายงานประจำปีและถูกตั้งอยู่ที่มหาวิทยาลัยทุกคนควรมีสิ่งอำนวยความสะดวกวิทยาเขตหลายวิธีการบางอย่างเพื่อเพิ่มการมองเห็น เมื่อพนักงานมีส่วนร่วมและชวนวางแผนที่จะใช้การวิจัยเพื่อบริบททางคลินิกการพยาบาลสามารถเริ่มต้น

Results (Thai) 3:

การเข้าถึงการเข้าถึงงานวิจัย
วิจัยเกี่ยวข้องกับพนักงานที่มีการเข้าถึงหลักฐานฐาน ( เช่นการสมัครสมาชิกวารสาร ) , การเข้าถึงที่ปรึกษาวิจัย ( ปกติใช้นักวิจัยที่สามารถอุทิศเวลาเพื่อให้บทบาทนางแบบ และพยาบาลที่ฝึกในกิจกรรมการวิจัย และการวิจัยโอกาส เป็นดังในตัวอย่างของ trialling รูปแบบนำเสนอที่นี่ส่วนนี้ของแบบจำลองที่เกี่ยวข้องกับระดับสูงของการมองเห็นของพยาบาลวิจัย ( s ) / พี่เลี้ยงรอบโรงพยาบาล ในความเป็นจริงนี้เป็นส่วนประกอบของรูปแบบจะใช้เวลาบิตของเวลา อย่างไรก็ตาม กระบวนการของงานหมั้นเป็นกุญแจสำคัญที่จะใช้รูปแบบ ระดับของงานหมั้นต้องเกี่ยวข้องโดยเฉพาะทรัพยากรและการให้คำปรึกษา .ทรัพยากรที่จำเป็นสำหรับพนักงานในคลินิก และแม้ว่าหลายได้รับการสนับสนุน publically โรงพยาบาลมีการเข้าถึงวารสารและวารสารฐานข้อมูล ( เช่น PubMed บริการ , ) , บางขนาดเล็กและกองทุนส่วนตัวโรงพยาบาลอาจมีการเข้าถึงที่ จำกัด ดังนั้นหลักฐานฐานยังคงเข้าใจยาก และเจ้าหน้าที่จะต้องพึ่งพาทางเลือกและหลากหลายวิธีการเข้าถึงหลักฐานการปฏิบัติงานมีแน่นอนทางเลือกกับการสมัครสมาชิกวารสาร ฐานข้อมูล ตัวอย่างเช่น Google Scholar ; อย่างไรก็ตาม , การเข้าถึงบทความข้อความเต็มไม่เสมอรับประกัน เจ้าหน้าที่จะต้องเข้าถึงงานวิจัยข้อมูล ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับฐานข้อมูลทางคลินิกที่สำคัญ เช่น โจแอนนาบริกส์สถาบัน ริงโก สตาร์ , สถาบันความเป็นเลิศทางคลินิกสภาวิจัยทางการแพทย์และสุขภาพแห่งชาติและเว็บไซต์ที่สำคัญในการสื่อสาร ข้อมูลการวิจัยยังสามารถให้บริการผ่านการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ และเว็บบอร์ดเพื่อการศึกษา ในการพิจารณาของกิจกรรมดังกล่าว ร่วมกับพี่เลี้ยงงานวิจัยอื่น ๆที่สามารถได้ประโยชน์ในแง่ของจำนวนผู้เข้าร่วมและความหลากหลายของทักษะชุดเพื่อรวมไว้ในโครงการวิจัย .

เจ้าหน้าที่จะต้องมีการเข้าถึงที่ปรึกษางานวิจัย แอฟริกัน และ / หรือ ความเป็นผู้นำภายในโดเมนนี้ไม่สามารถแลกได้จากระยะไกล ในงานวิจัยและอุตสาหกรรม การนัดหมาย นักวิจัยจะมุ่งเน้นกิจการเพียงการสนับสนุนและการวิจัยที่มีคุณภาพสูง ( ผ่านการอนุญาตการแข่งขัน ) ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการบันทึกติดตามทางวิชาการและความถูกต้องทางวิชาการแม้ว่ากิจการทุนแข่งขันโครงการสำคัญเพื่อให้งานวิจัยมีปัญหา ภาวะผู้นำของเจ้าหน้าที่ทางคลินิกในโครงการสมทบขนาดเล็กมักจะเป็นขั้นตอนแรกที่ดีสำหรับพยาบาลที่จะสำรวจ วิจัย และสร้างความมั่นใจในการมีส่วนร่วมในโครงการวิจัย หรือแม้แต่ผู้นำของพวกเขาเอง นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่อาจจะ mentored ในระดับที่สูงขึ้น ( เช่นปริญญาโทหรือปริญญาเอก )เป็นกิจกรรมที่มีคุณค่าสำหรับทั้งการดูแลสุขภาพองค์กรและมหาวิทยาลัยภาคในความร่วมมือดังกล่าว สรุปบทบาทของผู้นำ และ / หรือ แอฟริกันศึกษางานหมั้น งาน ผู้นำการวิจัย ( อาจารย์ ) ในความเป็นจริงในแต่ละวันของการตั้งค่าทางคลินิก การมองเห็นสูงแปลความเข้าถึงของทรัพยากรสำหรับพนักงานที่เป็น