“Economies of scale” is a simple co

“Economies of scale” is a simple concept that can be demonstrated through an example. Assume you are a small business owner and are considering printing a marketing brochure. The printer quotes a price of $5,000 for 500 brochures, and $10,000 for 2,500 copies. While 500 brochures will cost you $10 per brochure, 2,500 will only cost you $4 per brochure. In this case, the printer is passing on part of the cost advantage of printing a larger number of brochures to you. This cost advantage arises because the printer has the same initial set-up cost regardless of whether the number of brochures printed is 500 or 2,500. Once these costs are covered, there is only a marginal extra cost for printing each additional brochure.

Economies of scale can arise in several areas within a large enterprise. While the benefits of this concept in areas such as production and purchasing are obvious, economies of scale can also impact areas like finance. For example, the largest companies often have a lower cost of capital than small firms because they can borrow at lower interest rates. As a result, economies of scale are often cited as a major rationale when two companies announce a merger or takeover.

However, there is a finite upper limit to how large an organization can grow to achieve economies of scale. After reaching a certain size, it becomes increasingly expensive to manage a gigantic organization for a number of reasons, including its complexity, bureaucratic nature and operating inefficiencies. This undesirable phenomenon is referred to as "diseconomies of scale".

Results (Thai) 1:

"การประหยัดจากขนาด" เป็นแนวคิดง่ายๆที่สามารถแสดงให้เห็นถึงตัวอย่างเช่น สมมติว่าคุณเป็นเจ้าของธุรกิจขนาดเล็กและกำลังพิจารณาการพิมพ์โบรชัวร์การตลาด เครื่องพิมพ์ราคาราคา 5,000 บาทสำหรับ 500 โบรชัวร์และ 10,000 ดอลลาร์ 2,500 สำเนา ในขณะที่โบรชัวร์ 500 จะเสียค่าใช้จ่าย $ 10 ต่อโบรชัวร์, 2500 จะเสียค่าใช้จ่าย $ 4 ต่อโบรชัวร์ ในกรณีนี้เครื่องพิมพ์จะผ่านในส่วนของความได้เปรียบค่าใช้จ่ายในการพิมพ์จำนวนมากของโบรชัวร์ให้กับคุณ เปรียบค่าใช้จ่ายนี้เกิดขึ้นเพราะเครื่องพิมพ์มีเดียวกันค่าใช้จ่ายในการตั้งค่าเริ่มต้นโดยไม่คำนึงว่าจำนวนของโบรชัวร์ที่พิมพ์เป็น 500 หรือ 2500 เมื่อค่าใช้จ่ายเหล่านี้จะครอบคลุมถึงมีเพียงค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเล็กน้อยสำหรับการพิมพ์โบรชัวร์แต่ละเพิ่มเติมคือ.

การประหยัดจากขนาดที่สามารถเกิดขึ้นในหลายพื้นที่ภายในองค์กรขนาดใหญ่ ในขณะที่ผลประโยชน์ของแนวคิดในพื้นที่เช่นการผลิตและการจัดซื้อนี้เป็นที่เห็นได้ชัดการประหยัดจากขนาดนอกจากนี้ยังสามารถส่งผลกระทบต่อพื้นที่เช่นการเงิน ตัวอย่างเช่น บริษัท ที่ใหญ่ที่สุดมักจะมีค่าใช้จ่ายที่ลดลงของทุนมากกว่า บริษัท ขนาดเล็กเพราะพวกเขาสามารถยืมที่ลดอัตราดอกเบี้ย เป็นผลให้การประหยัดจากขนาดมักจะอ้างเป็นเหตุผลสำคัญเมื่อทั้งสอง บริษัท ประกาศการควบรวมกิจการหรือการปฏิวัติ.

แต่มีขีด จำกัด บนขอบเขตวิธีการที่องค์กรขนาดใหญ่สามารถเจริญเติบโตเพื่อให้บรรลุการประหยัดจากขนาดคือ หลังจากถึงมีขนาดบางมันจะกลายเป็นราคาแพงมากขึ้นในการจัดการองค์กรขนาดยักษ์ด้วยเหตุผลหลายประการรวมทั้งความซับซ้อนของมันธรรมชาติของระบบราชการและความไร้ประสิทธิภาพในการดำเนินงาน ปรากฏการณ์ที่ไม่พึงประสงค์นี้จะเรียกว่า "diseconomies ของวัด"

Results (Thai) 2:

"เศรษฐกิจของขนาด" เป็นแนวคิดง่าย ๆ ที่สามารถแสดงถึงตัวอย่าง สมมติว่า คุณเป็นเจ้าของธุรกิจขนาดเล็ก และกำลังพิจารณาพิมพ์โบรชัวร์การตลาด พิมพ์ใบเสนอราคาของ $5000 สำหรับโบรชัวร์ 500 และ $10000 สำหรับสำเนา 2500 ขณะที่โบรชัวร์ 500 จ่ายคุณ $10 ต่อโบรชัวร์ 2500 คิดเฉพาะค่า $4 ต่อแผ่นพับ ในกรณีนี้ เครื่องพิมพ์จะช่วยในส่วนของต้นทุนข้อดีของการพิมพ์จำนวนของแผ่นพับการ ประโยชน์จากต้นทุนนี้เกิดขึ้นเนื่องจากเครื่องพิมพ์การตั้งค่าเริ่มต้นเดียวกับต้นทุนไม่ว่าจำนวนพิมพ์โบรชัวร์จะ 500 หรือ 2500 เมื่อต้นทุนเหล่านี้จะครอบคลุม ไม่เท่ากับต้นทุนสำหรับการพิมพ์โบรชัวร์เพิ่มเติมแต่ละเพิ่มกำไร

เศรษฐกิจของขนาดสามารถเกิดขึ้นในพื้นที่ต่าง ๆ ภายในองค์กรขนาดใหญ่ ขณะที่ประโยชน์ของแนวคิดนี้ในพื้นที่ เช่นการผลิตและการซื้อชัดเจน เศรษฐกิจของขนาดอาจส่งผลยังต่อพื้นที่เช่นทางการเงิน ตัวอย่าง บริษัทใหญ่ที่สุดมักจะได้ต้นทุนต่ำลงทุนมากกว่าบริษัทขนาดเล็กเนื่องจากพวกเขาสามารถกู้ในอัตราดอกเบี้ยต่ำ เป็นผล เศรษฐกิจของขนาดมักจะอ้างเป็นเหตุผลสำคัญเมื่อบริษัทประกาศการควบรวมกิจการหรือ takeover

อย่างไรก็ตาม มีขีดจำกัดกับขนาดองค์กรสามารถเติบโตให้เศรษฐกิจของขนาด หลังจากถึงขนาดบาง มันกลายเป็นราคาแพงมากขึ้นในการจัดการองค์กรขนาดใหญ่สำหรับจำนวนของเหตุผล รวมถึงความซับซ้อนของ ธรรมชาติราชการและปฏิบัติ inefficiencies ปรากฏการณ์ที่ไม่พึงปรารถนานี้เรียกว่า "diseconomies ของมาตราส่วน"