In 1983, while on a company trip to

In 1983, while on a company trip to Milan, Italy, Schultz observed the immense popularity
of coffee, which was central to the national culture. In 1983, there were around 200,000
coffee bars in Italy and 1,500 coffee bars in Milan alone. The espresso8 bars in the cities had
trained baristas9 who used high-quality Arabica beans to prepare espresso, cappuccino, and
other drinks. Schultz witnessed that though each coffee bar had its own individual character,
all provided a sense of comfort and the ambience of an extended family. During his week-long
stay in Milan, he made frequent visits to espresso bars. These visits were a revelation to
Schultz, which he described in his book10 thus:

Results (Thai) 2:

ในปี 1983 ในขณะที่ในการเดินทาง บริษัท มิลาน, อิตาลี, ชูลท์ซสังเกตนิยมอันยิ่งใหญ่
ของกาแฟซึ่งเป็นศูนย์กลางวัฒนธรรมของชาติ ในปี 1983 มีประมาณ 200,000
บาร์กาแฟในอิตาลีและ 1,500 บาร์กาแฟในมิลานเพียงอย่างเดียว บาร์ espresso8 ในเมืองได้
รับการฝึกอบรม baristas9 ที่ใช้ถั่วอาราบิก้าคุณภาพสูงเพื่อเตรียมความพร้อมเอสเพรสโซคาปูชิโน่และ
เครื่องดื่มอื่น ๆ ชูลท์ซร่วมเป็นสักขีพยานว่าแม้ว่าบาร์กาแฟแต่ละคนก็มีตัวบุคคลของตัวเอง
ทั้งหมดที่ให้ความรู้สึกของความสะดวกสบายและบรรยากาศของครอบครัวขยายที่ ในช่วงสัปดาห์ที่ยาวนานของเขา
เข้าพักในมิลานเขาทำเข้าชมบ่อยไปเอสเพรสโซบาร์ ผู้เข้าชมเหล่านี้ได้ถูกเปิดเผยให้
ชูลท์ซซึ่งเขาอธิบายไว้ใน book10 ของเขาดังนี้:

Results (Thai) 3:

ในปี 1983 ในขณะที่ บริษัท ทริปที่มิลาน ประเทศอิตาลี ชูลท์ซสังเกตความนิยมเวิ้งว้างของกาแฟ ซึ่งเป็นศูนย์กลางวัฒนธรรมแห่งชาติ ในปี 1983 มีรอบ 200000คอฟฟี่บาร์ในอิตาลีและ 1500 กาแฟบาร์ในมิลานคนเดียว การ espresso8 บาร์ในเมืองมีbaristas9 การฝึกอบรมที่ใช้เมล็ดอาราบิก้าคุณภาพสูงเพื่อเตรียมความพร้อมเอสเพรสโซ , คาปูชิโน่ , และเครื่องดื่มอื่น ๆ ชูลท์ซเป็นพยานว่ากาแฟแต่ละแถบมีตัวละครของตัวเองส่วนบุคคลทั้งหมดที่ให้ความรู้สึกของความสะดวกสบายและบรรยากาศของครอบครัวขยาย ในช่วงสัปดาห์ของเขาอยู่ในมิลาน เค้าทำบ่อยครั้งเข้าชมบาร์เอสเพรสโซ การเข้าชมเหล่านี้มีการเปิดเผยชูลท์ซ , ซึ่งเขาอธิบายไว้ใน book10 ของเขาดังนี้