Describe conflict and then describe

Describe conflict and then describe the conflict resolution process and how it can be of benefit and is vitally important to us?
What is Conflict?
Interpersonal conflict has been defined as:

“An expressed struggle between at least two interdependent parties who perceive incompatible goals, scarce resources, and interference from the other party in achieving their goals”.
Unpicking this a little, it means that for a disagreement to become a conflict, there needs to be:

Some element of communication: a shared understanding that there is a disagreement;
The well-being of the people involved need to depend on each other in some way. This doesn’t mean that they have to have equal power: a manager and subordinate can be equally as interdependent as a married couple;
The people involved perceive that their goals are incompatible, meaning that they cannot both be met;
They are competing for resources; and
Each perceives the other as interfering with the achievement of their goals.


Resolving Conflict
It’s important to emphasise that dealing with conflict early is usually easier, because positions are not so entrenched, others are less likely to have started to take sides, and the negative emotions are not so extreme. The best way to address a conflict in its early stages is through negotiation between the participants.Later on, those in conflict are likely to need the support of mediation, or even arbitration or a court judgement, so it’s much better to resolve things early.
5 Strategies for Dealing with Conflict
1) Compete or Fight

This is the classic win/lose situation, where the strength and power of one person wins the conflict.

It has its place, but anyone using it needs to be aware that it will create a loser and if that loser has no outlet for expressing their concerns, then it will lead to bad feeling.

2) Collaboration

This is the ideal outcome: a win/win situation.

However, it requires input of time from those involved to work through the difficulties, and find a way to solve the problem that is agreeable to all.

3) Compromise or Negotiation

This is likely to result in a better result than win/lose, but it’s not quite win/win.

Both parties give up something, in favour of an agreed mid-point solution. It takes less time than collaboration, but is likely to result in less commitment to the outcome.

4) Denial or Avoidance

This is where everyone pretends there is no problem.

It’s helpful if those in conflict need time to ‘cool down’ before any discussion or if the conflict is unimportant, but cannot be used if the conflict won’t just die down. It will create a lose/lose situation, since there will still be bad feeling, but no clearing the air through discussion, and results, in Transactional Analysis terms, in ‘I’m not OK, you’re not OK’.

5) Smoothing Over the Problem

On the surface, harmony is maintained, but underneath, there is still conflict.

It’s similar to the situation above, except that one person is probably OK with this smoothing, while the other remains in conflict, creating a win/lose situation again. It can work where preserving a relationship is more important than dealing with the conflict right now, but is not useful if others feel the need to deal with the situation.

Results (Thai) 1:

อธิบายความขัดแย้ง และอธิบายกระบวนการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งและวิธีการที่มันสามารถเป็นประโยชน์ และเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งกับเราแล้วความขัดแย้งคืออะไรความขัดแย้งระหว่างบุคคลมีการกำหนดเป็น:การแสดงต่อสู้ระหว่างน้อยสองปากบุคคลที่รับรู้เป้าหมายเข้ากันไม่ได้ ขาดแคลนทรัพยากร และการรบกวนจากบุคคลอื่นในการบรรลุเป้าหมายของพวกเขา"Unpicking นี้เล็กน้อย หมายความ ว่า การขัดแย้งเป็น ความขัดแย้ง ต้องมี:บางองค์ประกอบของการสื่อสาร: มีความเข้าใจร่วมกันว่ามีความขัดแย้งความเป็นอยู่ของผู้ที่เกี่ยวข้องจำเป็นต้องพึ่งพากันในบางวิธี นี้ไม่ได้หมายความ ว่า พวกเขาต้องมีอำนาจเท่าเทียมกัน: จัดการและ subordinate สามารถเท่าเทียมกันปากเป็นคู่สมรสผู้ที่เกี่ยวข้องรับรู้ว่า เป้าหมายของพวกเขาจะเข้ากันไม่ได้ ซึ่งหมายความ ว่า พวกเขาไม่สามารถทั้งทำตามพวกเขากำลังแข่งขันสำหรับทรัพยากร และแต่ละคนรับรู้อื่น ๆ ที่เป็นการรบกวนจากความสำเร็จของเป้าหมายของพวกเขาการแก้ไขความขัดแย้งการเน้นการจัดการกับความขัดแย้งในช่วงต้นว่ามักง่าย เพราะตำแหน่งไม่ให้ยึดที่มั่น อื่น ๆ มีโอกาสน้อยที่จะเริ่มเข้าข้าง และอารมณ์เชิงลบไม่รุนแรงเพื่อให้ได้ การจัดการความขัดแย้งในขั้นต้นคือการเจรจาระหว่างผู้เข้าร่วม ในภายหลัง ในความขัดแย้งมีแนวโน้มจะต้องสนับสนุนของการไกล่ เกลี่ย หรือแม้แต่อนุญาโตตุลาการ หรือศาลตัดสิน ใจ ดังนั้นจึงเป็นการแก้ไขสิ่งที่เร็วกว่า5 กลยุทธ์ในการจัดการกับความขัดแย้ง1) แข่งขัน หรือต่อสู้นี้เป็นคลาสสิกชนะ/แพ้สถานการณ์ ซึ่งความแข็งแรงและพลังของคนชนะความขัดแย้งมีสถานที่ แต่คนใช้ต้องระวังว่า จะสร้างเป็นผู้แพ้ และผู้แพ้ที่มีไม่มีเต้าเสียบสำหรับแสดงเรื่อง ถ้ามันจะนำไปสู่ความรู้สึกที่ไม่ดี2) ทำงานร่วมกันนี้เป็นผลที่เหมาะ: สถานการณ์ที่ชนะ/ชนะอย่างไรก็ตาม มันต้องป้อนข้อมูลเวลาจากผู้ที่เกี่ยวข้องกับการทำงานผ่านความยากลำบาก และหาทางแก้ปัญหาที่น่าพอใจทั้งหมด3) หรือการเจรจาแนวโน้มที่จะส่งผลให้ผลลัพธ์ดีขึ้นกว่าชนะแพ้ แต่มันไม่ได้ลุ้นมากทั้งสองฝ่ายแพ้บางสิ่งบางอย่าง สนับสนุนโซลูชันจุดกลางตกลงกัน มันใช้เวลาน้อยกว่าการทำงานร่วมกัน แต่น่าจะส่งผลให้ผลน้อยทุ่มเท4) การปฏิเสธหรือหลีกเลี่ยงที่ทุกคนแอบมีปัญหาไม่ได้จะเป็นประโยชน์ ถ้าผู้ที่อยู่ในความขัดแย้งต้องใช้เวลา 'เย็นลง' ก่อนสนทนาใด ๆ หรือ ถ้าความขัดแย้งสำคัญ แต่ไม่สามารถใช้ความขัดแย้งก็จะตายลง มันจะทำให้เกิดการแพ้หรือแพ้ เนื่องจากจะยังคงมีความรู้สึกที่ไม่ดี แต่ไม่ล้างอากาศผ่านและคำอธิบาย ผลลัพธ์ ในแง่การวิเคราะห์ Transactional ใน 'ฉันไม่ตกลง คุณไม่ตกลง'5) ให้เรียบเกินปัญหาบนพื้นผิว รักษาสามัคคี แต่ภายใต้ ยังคงมีความขัดแย้งก็คล้ายกับสถานการณ์ข้างต้น ยกเว้นหนึ่งคนน่าจะเป็นตกลงกับนี้ปรับให้เรียบ ขณะอื่น ๆ ยังคงอยู่ในความขัดแย้ง สร้างชนะแพ้สถานการณ์อีกครั้ง สามารถทำงานที่รักษาความสัมพันธ์ที่สำคัญกว่าการจัดการกับความขัดแย้งในขณะนี้ แต่ไม่มีประโยชน์ถ้าผู้อื่นรู้สึกว่าต้องจัดการกับสถานการณ์

Results (Thai) 2:

อธิบายความขัดแย้งแล้วอธิบายขั้นตอนการแก้ไขความขัดแย้งและวิธีที่จะสามารถเป็นประโยชน์และมีความสำคัญกับเราอย่างจำเป็น?
ความขัดแย้งอะไร?
ความขัดแย้งระหว่างบุคคลที่ได้รับการกำหนดให้เป็น:

"การต่อสู้แสดงระหว่างอย่างน้อยสองฝ่ายการพึ่งพาซึ่งกันและกันที่รับรู้เป้าหมายเข้ากันไม่ได้ขาดแคลน . ทรัพยากรและการแทรกแซงจากบุคคลอื่นในการบรรลุเป้าหมายของพวกเขา "
Unpicking นี้น้อยก็หมายความว่าไม่เห็นด้วยที่จะกลายเป็นความขัดแย้งที่มีความต้องการที่จะ:

องค์ประกอบของการสื่อสารบางอย่าง: ความเข้าใจร่วมกันว่ามีความขัดแย้ง;
ความเป็นอยู่ของผู้คนที่เกี่ยวข้องจำเป็นที่จะต้องขึ้นอยู่กับแต่ละอื่น ๆ ในทางใดทางหนึ่ง นี้ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะต้องมีอำนาจเท่าเทียมกัน: ผู้จัดการและผู้ใต้บังคับบัญชาสามารถเท่าเทียมกันพึ่งพากันเป็นคู่สมรส;
คนที่เกี่ยวข้องเห็นว่าเป้าหมายของพวกเขาเข้ากันไม่ได้หมายความว่าพวกเขาไม่สามารถที่ทั้งสองได้พบกัน;
พวกเขามีการแข่งขันสำหรับทรัพยากร ; และ
แต่ละคนมีมุมมองอื่น ๆ ที่เป็นยุ่งกับความสำเร็จของเป้าหมายของพวกเขา.


แก้ปัญหาความขัดแย้ง
มันเป็นสิ่งสำคัญที่จะเน้นว่าการจัดการกับความขัดแย้งในช่วงต้นมักจะง่ายขึ้นเพราะตำแหน่งไม่ได้ยึดที่มั่นเพื่อให้คนอื่น ๆ มีโอกาสน้อยที่จะได้เริ่มต้นที่จะใช้ด้านและเชิงลบ อารมณ์ไม่ได้มากดังนั้น วิธีที่ดีที่สุดเพื่อแก้ไขความขัดแย้งในระยะแรกคือผ่านการเจรจาระหว่าง participants.Later ในผู้ที่อยู่ในความขัดแย้งที่มีแนวโน้มที่จะต้องการการสนับสนุนจากการไกล่เกลี่ยหรือแม้กระทั่งอนุญาโตตุลาการหรือคำพิพากษาศาลดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่ดีมากที่จะแก้ไขสิ่งที่ในช่วงต้น
5 กลยุทธ์ในการจัดการกับความขัดแย้ง
1) การแข่งขันหรือต่อสู้

นี้เป็นคลาสสิกชนะ / สถานการณ์การสูญเสียที่แข็งแรงและพลังของคนคนหนึ่งชนะความขัดแย้ง.

มันมีสถานที่ แต่ทุกคนที่ใช้จะต้องทราบว่ามันจะสร้าง . ผู้แพ้และถ้าแพ้ที่มีทางออกสำหรับแสดงความกังวลของพวกเขาแล้วมันจะนำไปสู่ความรู้สึกที่ไม่ดี

2) ความร่วมมือ

นี้เป็นผลที่ดีที่สุดคือการชนะ / ชนะสถานการณ์.

แต่ก็ต้องมีการป้อนข้อมูลของเวลาจากผู้ที่เกี่ยวข้องในการทำงานผ่าน ความยากลำบากและหาวิธีที่จะแก้ปัญหาที่สอดคล้องกับทุกคน.

3) การประนีประนอมหรือการเจรจาต่อรอง

นี้มีแนวโน้มที่จะส่งผลให้ผลดีกว่าชนะ / สูญเสีย แต่มันไม่ได้ค่อนข้างชนะ / ชนะ.

ทั้งสองฝ่ายให้ขึ้นบางสิ่งบางอย่างใน ความโปรดปรานของการแก้ปัญหาจุดกลางที่ตกลงกันไว้ มันต้องใช้เวลาน้อยกว่าการทำงานร่วมกัน แต่มีแนวโน้มที่จะส่งผลให้เกิดความมุ่งมั่นน้อยลงเพื่อผล.

4) การปฏิเสธหรือหลีกเลี่ยง

ซึ่งเป็นที่ที่ทุกคนอ้างว่าไม่มีปัญหา.

มันเป็นประโยชน์หากผู้ที่อยู่ในความขัดแย้งต้องใช้เวลา 'เย็นลงก่อนการอภิปรายใด ๆ หรือถ้าความขัดแย้งจะไม่สำคัญ แต่ไม่สามารถใช้ในกรณีความขัดแย้งจะไม่เพียง แต่ตายลง มันจะสร้างสถานการณ์การสูญเสีย / การสูญเสียเนื่องจากจะยังคงมีความรู้สึกที่ไม่ดี แต่ไม่มีการล้างอากาศผ่านการอภิปรายและผลในแง่การทำธุรกรรมการวิเคราะห์ใน 'ฉันไม่ตกลงคุณไม่ตกลง'.

5) การปรับให้เรียบกว่าปัญหา

บนพื้นผิว, ความสามัคคีจะยังคงอยู่ แต่ใต้ยังคงมีความขัดแย้ง.

มันคล้ายกับสถานการณ์ดังกล่าวข้างต้นยกเว้นว่าคนคนหนึ่งอาจจะเป็นความตกลงที่มีการปรับให้เรียบนี้ในขณะที่ส่วนที่เหลืออื่น ๆ ที่อยู่ในความขัดแย้งสร้างชนะ / สูญเสีย สถานการณ์อีกครั้ง มันสามารถทำงานที่การรักษาความสัมพันธ์ที่มีความสำคัญมากกว่าการจัดการกับความขัดแย้งในขณะนี้ แต่ไม่เป็นประโยชน์ถ้าคนอื่นรู้สึกว่าต้องรับมือกับสถานการณ์

Results (Thai) 3:

ความขัดแย้งและการอธิบายกระบวนการของการแก้ปัญหาความขัดแย้งและวิธีที่จะสามารถได้รับประโยชน์จาก vitally วิทยาลัยและสหรัฐฯเป็นสำคัญ ? ? ? ? ? ? ?อะไรกัน ? ? ? ? ? ? ?ความขัดแย้งระหว่างบุคคลได้ถูกกำหนดเป็น :" อย่างน้อยสองมีการพึ่งพาอาศัยกันของการแสดงออกของการต่อสู้ระหว่างพรรคการเมืองที่ไม่เข้ากันกับทรัพยากรที่หายากของการรับรู้เป้าหมายและการรบกวนจากบุคคลอื่นในการบรรลุเป้าหมายของพวกเขา " " " " " " "unpicking จุดนี้มันหมายความว่าหนึ่งใน disagreement มีความขัดแย้งจะต้อง :ที่ผมเข้าใจ : หน่วยสื่อสารที่ใช้ร่วมกันและมี disagreement ; ; ; ; ; ; ;" ความเป็นอยู่ของผู้คนขึ้นอยู่กับความต้องการที่เกี่ยวข้องกับแต่ละอื่นๆและวิธีการ นี้ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะต้องให้สิทธิที่เท่าเทียมกันให้กับผู้ใต้บังคับบัญชาของผู้จัดการ : A สามารถเป็นหนึ่งของการพึ่งพาซึ่งกันและกันของคู่รักที่แต่งงานกัน ; ; ; ; ; ; ;การมีส่วนร่วมของประชาชนในการรับรู้เป้าหมายของพวกเขาคือการเข้ากันไม่ได้หมายความว่าพวกเขาไม่สามารถแสดงออกได้ ; ; ; ; ; ; ;พวกเขาเป็นคู่แข่งของทรัพยากรอีกหนึ่ง perceives รบกวนและความสำเร็จของเป้าหมายของพวกเขาการแก้ไขความขัดแย้งมันเป็นหนึ่งในแรกที่สำคัญ emphasise จัดการกับความขัดแย้งเป็นสิ่งที่มักจะไม่ง่ายเพราะตำแหน่งที่เป็นไปไม่ได้ entrenched ผู้อื่นจะเริ่มนำใบหน้าและอารมณ์ที่เป็นลบมากน้อย วิธีที่ดีที่สุดในระยะแรกของที่อยู่ของความขัดแย้งผ่านการเจรจาระหว่างผู้ขัดแย้ง . . . . . . . แล้วผู้ที่เป็นจะต้องมีการสนับสนุนของรัฐในการไกล่เกลี่ยและอนุญาโตตุลาการในศาลหรือแม้แต่การตัดสินใจดังนั้นจึงดีกว่าการแก้ไขหลายๆอย่างก่อน5 กลยุทธ์การจัดการความขัดแย้ง1 ) การแข่งขันหรือการต่อสู้มันเป็นสถานการณ์ win - win หลวมคลาสสิกในความแข็งแรงและหนึ่งชนะอำนาจของความขัดแย้งมันเป็นสถานที่ที่ใช้มันได้ , แต่เราต้องตระหนักว่ามันอาจจะสร้างเป็นขี้แพ้แพ้ถ้าไม่มีการแสดงออกของปัญหาแล้วมันทำให้เกิดความรู้สึกที่ไม่ดี2 ) ร่วมกันมันเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการเป็นสถานการณ์ win - win ผล :อย่างไรก็ตาม , มันต้องใช้เวลาบางส่วนจากการป้อนข้อมูลผ่านงานนี้ยากที่จะหาวิธีการในการแก้ไขปัญหานี้คือ agreeable ทั้งหมด3 ) หรือการเจรจาประนีประนอมมันได้ผลที่ดีกว่าการหลวมของ win - win - win - win แต่ไม่ใช่พวกเราสองเป็นฝ่ายยอมแพ้อะไรในความโปรดปรานของตรงกลางของโซลูชั่นระบบ มันใช้เวลาน้อยกว่ากว่าร่วมกันแต่ก็สัญญาว่าผลลัพธ์ในไม่ได้รับผล4 ) ปฏิเสธหรือหนีมันเป็นปัญหาที่ไม่มี pretendsมันจะช่วยได้ถ้าความขัดแย้งเหล่านี้ต้องใช้เวลาในการอภิปรายใดๆหรือ " เย็น " มันไม่สําคัญถ้าความขัดแย้งที่ใช้ไม่ได้แต่ถ้าความขัดแย้งไม่ใช่แค่ลง นี้จะสร้างการหลวมของสถานการณ์นี้เพราะผมต้องการ / ห้องน้ำและความรู้สึกที่เงียบสงบแต่ไม่ล้างอากาศที่ผ่านการอภิปรายวิเคราะห์และผลลัพธ์ในเรื่องบทความใน " ผมไม่ได้เธอก็ไม่โอเค "มีปัญหา 5 เรียบ )บนพื้นผิวที่ไม่กลมกลืนกัน , เงียบ , มีความขัดแย้งมันคล้ายกับกรณีข้างต้นนี้เป็นคนดีในนี้เรียบและคนอื่นๆยังคงอยู่ในสถานการณ์ขัดแย้งและสร้าง win - win หลวม มันสามารถทํางานได้ในที่สำคัญมากขึ้นกว่าที่ความสัมพันธ์กับการจัดการความขัดแย้งยังคงเป็นประโยชน์แต่หากความรู้สึกของผู้อื่นและต้องมีการทำธุรกรรม