With the escalation of the war in E

With the escalation of the war in Europe in the early 1940s, Thompson volunteered for service in the United States Army, an important turning point in his life.

During the Second World War, Thompson was assigned to the Office of Strategic Services (OSS), forerunner of the Central Intelligence Agency (CIA), a move which offered him an opportunity to see more of the world.

Thompson as a member of an OSS group was assigned to work with French forces in North Africa. His assignments also took him into Italy, France and Asia.

To prepare for his mission, Thompson undertook rigorous training in jungle survival. He completed the course successfully.

However the war ended abruptly as Thompson and the other OSS men were en route to Bangkok. A few weeks later, he assumed the duties of OSS station chief. In late 1946, he received orders to return to the States to receive his military discharge.


The 'old' Oriental Hotel
Thompson was confident that with peace restored and the expansion of air travel, there would be a significant increase in leisure travel to the Far East. Upon their arrival in the capital, these travelers would need acceptable accommodation.

Few hotels in Bangkok could then even be considered of international standard. Only one had an ideal location -- the old Oriental, a former palace overlooking the Chao Phraya River that flowed through the capital.


Noel Coward
It was a meeting place for travelers and a social center for the foreign community. Charlie Chaplin, Noel Coward and Somerset Maugham were just a few of its famous patrons. Excited by the prospects presented, Thompson became actively involved in the reorganization of the Oriental Hotel.

By this time, Thompson had developed a certain fondness for the country and its people. He began to seriously contemplate settling down and going into business in Thailand. He foresaw a promising future for the country and wanted to be a part of this process. He decided that upon leaving the service, he would return and take up residence in Thailand permanently.




Somerset Maugham Somerset Maugham Suite at The Oriental


In late 1946, Thompson left for the States to get his discharge.

Results (Thai) 1:

มีการเลื่อนระดับของสงครามในยุโรปในช่วงต้นปี 1940 ผันแปรสำหรับบริการในกองทัพสหรัฐ จุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิตของเขาในระหว่างสงครามโลกครั้งสอง ทอมป์สันถูกกำหนดไป Office ของกลยุทธ์บริการ (OSS), forerunner ของเซ็นทรัลข่าวกรองหน่วยงาน (CIA), ย้ายที่เสนอโอกาสที่จะเห็นโลกเขาทอมป์สันเป็นสมาชิกของกลุ่มมี OSS ถูกกำหนดให้ทำงานกับกองกำลังของฝรั่งเศสในแอฟริกาเหนือ กำหนดของเขายังพาเขาเข้าไปในอิตาลี ฝรั่งเศส และเอเชียการเตรียมตัวสำหรับภารกิจของเขา ทอมป์สัน undertook การฝึกซ้อมในการอยู่รอดของป่า เขาสมบูรณ์หลักสูตรเรียบร้อยอย่างไรก็ตาม สงครามสิ้นสุดลงทันทีณทอมป์สันและคนอื่น ๆ OSS เส้นไปกรุงเทพ กี่สัปดาห์ต่อมา เขาสันนิษฐานหน้าที่ของ OSS หัวหน้าสถานี ในช่วงปลายปี 1946 เขาได้รับคำสั่งเพื่อกลับไปยังสหรัฐฯ เพื่อปลดทหารของเขา โอเรียนทอล 'เก่า' ทอมป์สันเป็นสันติภาพที่คืนค่าและการขยายตัวของการเดินทางทางอากาศ จะได้เดินทางไปตะวันออกไกลมีประสิทธิภาพเพิ่มความมั่นใจ เมื่อมาถึงในเมืองหลวง นักเดินทางเหล่านี้จะต้องพักที่ยอมรับได้โรงแรมในกรุงเทพมหานครสามารถแล้วแม้จะถือว่ามาตรฐานสากล เดียวมีน่า - โอเรียนเต็ลเก่า พระราชวังเดิมมองเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาที่ไหลผ่านเมืองหลวงโนเอล มันเป็นสถานนัดพบสำหรับนักท่องเที่ยวและเป็นศูนย์กลางชุมชนต่างสังคม ชาร์ลีแชปลิน โนเอล และ Somerset Maugham ถูกของลูกค้ามีชื่อเสียง ตื่นเต้นตามโอกาสที่แสดง ทอมป์สันเป็นส่วนเกี่ยวข้องในการปรับโครงสร้างของโอเรียนเต็ลโดยเวลานี้ ทอมป์สันได้พัฒนาความชื่นชอบบางอย่างสำหรับประเทศและประชาชน เขาเริ่มปักนั่งลง และจะเข้าสู่ธุรกิจในประเทศไทย เขารุ่งเรืองอนาคตประเทศ และอยากเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการนี้ เขาตัดสินใจว่า เมื่อออกจากการบริการ เขาจะกลับ และกินในประเทศไทยอย่างถาวร Somerset Maugham Somerset Maugham ชุดที่สาม ในช่วงปลายปี 1946 ทอมป์สันเหลือสำหรับอเมริกาจะปล่อยเขา

Results (Thai) 2:

ด้วยการเพิ่มของสงครามในทวีปยุโรปในช่วงต้นปี 1940 ที่ ธ อมป์สันอาสาให้บริการในกองทัพสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญในชีวิตของเขา. ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ธ อมป์สันได้รับมอบหมายให้สำนักบริการยุทธศาสตร์ (OSS) บรรพบุรุษของสำนักข่าวกรองกลาง (ซีไอเอ) ย้ายที่เสนอให้เขามีโอกาสที่จะเห็นมากขึ้นของโลก. ธ อมป์สันเป็นสมาชิกของกลุ่ม OSS ได้รับมอบหมายให้ทำงานร่วมกับกองกำลังฝรั่งเศสในแอฟริกาเหนือ การมอบหมายงานของเขายังพาเขาเข้าไปในอิตาลีฝรั่งเศสและเอเชีย. เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับภารกิจของ ธ อมป์สันมารับการฝึกอบรมอย่างเข้มงวดในการอยู่รอดในป่า เขาจบการเรียนการสอนที่ประสบความสำเร็จ. อย่างไรก็ตามสงครามสิ้นสุดลงอย่างกะทันหันในขณะที่ ธ อมป์สันและคนอื่น ๆ ก็ OSS เส้นทางที่จะไปกรุงเทพฯ ไม่กี่สัปดาห์ต่อมาเขาคิดว่าหน้าที่ของหัวหน้าสถานีโอเอส ในช่วงปลายปี 1946 เขาได้รับการสั่งซื้อที่จะกลับไปยังประเทศที่จะได้รับการปลดประจำการทหาร. ของเก่า 'Oriental Hotel ธ อมป์สันก็มั่นใจว่าด้วยความสงบการบูรณะและการขยายตัวของการเดินทางทางอากาศจะมีการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในการท่องเที่ยวพักผ่อนไปยังฟา ตะวันออก เมื่อเดินทางมาถึงของพวกเขาในเมืองหลวงนักท่องเที่ยวเหล่านี้จะต้องได้รับการยอมรับที่พัก. ไม่กี่โรงแรมในกรุงเทพฯสามารถแล้วได้รับการพิจารณาตามมาตรฐานสากล เพียงคนเดียวที่มีสถานที่ที่เหมาะ -. เก่าโอเรียนเต็ลเป็นพระราชวังเดิมที่สามารถมองเห็นแม่น้ำเจ้าพระยาที่ไหลผ่านเมืองหลวงประสานเสียงขี้ขลาดมันเป็นสถานที่ประชุมสำหรับนักเดินทางและศูนย์กลางทางสังคมสำหรับชุมชนชาวต่างชาติ ชาร์ลีแชปลินประสานเสียงขี้ขลาด Somerset Maugham และมีเพียงไม่กี่ของลูกค้าที่มีชื่อเสียง ตื่นเต้นกับโอกาสที่นำเสนอ ธ อมป์สันกลายเป็นส่วนร่วมอย่างแข็งขันในการปรับโครงสร้างของโอเรียนเต็ลโรงแรม. โดยขณะนี้ ธ อมป์สันได้พัฒนาความชื่นชอบในบางประเทศและประชาชน เขาเริ่มที่จะพิจารณาอย่างจริงจังนั่งลงและจะเข้าสู่ธุรกิจในประเทศไทย เขาเล็งเห็นถึงแนวโน้มในอนาคตสำหรับประเทศและต้องการที่จะเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการนี้ เขาตัดสินใจว่าเมื่อออกจากการบริการที่เขาจะกลับมาและมีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทยอย่างถาวร. Somerset Maugham Somerset Maugham สวีทที่โอเรียนเต็ลในช่วงปลายปี 1946 ธ อมป์สันออกจากสหรัฐอเมริกาที่จะได้รับการปลดประจำการของเขา