ological evidence is limited. We ex

ological evidence is limited. We examined prospectively the relation of calcium and vitamin D intake to type 2 diabetes risk in a Japanese cohort.
Methods Participants were 59,796 middle-aged and older
men and women, who participated in the Japan Public Health Center-based Prospective Study and had no history of type 2 diabetes or other serious diseases. Dietary intake of calcium and vitamin D were c timatcd using a validated food frequency questiom1aire. Logistic regression was used to assess the association between intake of these nutrients and self-repot1ed newly diagnosed type 2 diabetes.
Results During a 5 year follow-up, 1,114 ea cs of type 2
diabetes were documented. Overall, calcium intake was not associated with a significantly lower risk of type 2 diabetes; the multivariable odds ratio for the highest vs lowest quartiles was 0.93 (95% CI 0.71-1.22) in men and 0.76 (95'Yo CI 0.56-1.03) in women. Ilowcvcr, among partici­ pants with a higher vitamin D intake, calcimn intake was inversely associated with diabetes risk; the odds ratio for the highest vs lowest intake categories 'Nas 0.62 (95% Cl
0.41-0.94) in men and 0.59 (95% CI 0.38-0.91) in women.
Dairy food intake was si -,rnificantly associated with a lower risk of type 2 diabetes in women only. Conclusions/interpretation Calcium and vitamin D may not be independently associated with type 2 diabetes risk. Our finding suggesting a joint action of these nutrients against type 2 diabetes warrants further investigation

Results (Thai) 1:

หลักฐาน ological มีจำกัด เราตรวจสอบ prospectively ความสัมพันธ์บริโภคแคลเซียมและวิตามิน D ให้พิมพ์ความเสี่ยงโรคเบาหวาน 2 ในแบบญี่ปุ่นผู้ผ่าน
วิธีการผู้เข้าร่วมได้ 59,796 วัยกลางคน และสูงอายุ
ผู้ชายและผู้หญิง เข้าร่วมตามศูนย์สาธารณสุขญี่ปุ่นศึกษาคาดหวัง และก็ไม่มีประวัติของโรคเบาหวานชนิดที่ 2 หรือโรคร้ายแรงอื่น ๆ บริโภคอาหารแคลเซียมและวิตามินดีได้โดยใช้การตรวจอาหารความถี่ questiom1aire timatcd c ถดถอยโลจิสติกที่ใช้ในการประเมินความสัมพันธ์ระหว่างปริมาณของสารอาหารเหล่านี้ และตนเอง repot1ed ใหม่วินิจฉัยโรคเบาหวานประเภท 2.
ติดตามผลในระหว่าง 5 ปี ซีเอสเอ 1,114 ชนิด 2
ได้จัดโรคเบาหวาน โดยรวม บริโภคแคลเซียมไม่สัมพันธ์กับความเสี่ยงต่ำของโรคเบาหวานชนิดที่ 2 อัตราส่วนราคา multivariable สำหรับ quartiles ต่ำสุดกับสูงสุด 0.93 (95% CI 0.71-1.22 ในผู้ชาย) และ 0.76 (95'Yo CI 0.56-1.03) ในผู้หญิง Ilowcvcr ระหว่างกางเกง partici­ กับการบริโภควิตามินดีสูง บริโภค calcimn มี inversely ที่เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงโรคเบาหวาน อัตราส่วนราคาต่อรองสูงสุดกับต่ำสุดบริโภคประเภท ' Nas 0.62 (95% Cl
0.41-0.94) คือ 0.59 (95% CI 0.38-0.91) ในผู้หญิงและผู้ชาย
นมอาหารบริโภคใน - rnificantly เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงที่ต่ำกว่าชนิด 2 เบาหวานในหญิง บทสรุป/ตีแคลเซียมและวิตามิน D ได้อย่างอิสระที่เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงโรคเบาหวานชนิดที่ 2 การค้นหาของเราที่แนะนำการดำเนินการร่วมกันของสารอาหารเหล่านี้กับโรคเบาหวานประเภท 2 วอร์แรนต์สอบสวนเพิ่มเติม

Results (Thai) 2:

หลักฐาน ological มี จำกัด เราตรวจสอบเป็นต้นความสัมพันธ์ระหว่างแคลเซียมและวิตามินดีปริมาณพิมพ์ 2 โรคเบาหวานมีความเสี่ยงในญี่ปุ่นกลุ่ม
ผู้เข้าร่วมกิจกรรมมีวิธี 59,796 วัยกลางคนและผู้สูงอายุ
ทั้งชายและหญิงที่เข้าร่วมในการศึกษาในอนาคตญี่ปุ่นศูนย์บริการสาธารณสุขที่ใช้และไม่เคยมีประวัติ ของโรคเบาหวานชนิดที่ 2 หรือโรคร้ายแรงอื่น ๆ การบริโภคแคลเซียมและวิตามินดีมีค timatcd ใช้ questiom1aire ความถี่การตรวจสอบอาหาร การถดถอยโลจิสติกถูกนำมาใช้ในการประเมินความสัมพันธ์ระหว่างปริมาณของสารอาหารเหล่านี้และตนเอง repot1ed วินิจฉัยใหม่ชนิดที่ 2 โรคเบาหวาน
ผลในช่วง 5 ปีติดตาม 1,114 อี cs ของชนิดที่ 2
โรคเบาหวานได้รับการบันทึก โดยรวมการบริโภคแคลเซียมไม่ได้เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงอย่างมีนัยสำคัญลดลงของโรคเบาหวานชนิดที่ 2; อัตราส่วนราคาต่อรองหลายตัวแปรสำหรับสูงสุดเทียบกับควอไทล์ต่ำสุดคือ 0.93 (95% CI 0.71-1.22) ในผู้ชายและ 0.76 (0.56-1.03 95'Yo CI) ในผู้หญิง Ilowcvcr หมู่กางเกงมีส่วนร่วมที่มีปริมาณวิตามินดีสูงกว่าการบริโภค calcimn มีความสัมพันธ์ผกผันกับความเสี่ยงโรคเบาหวาน; อัตราส่วนราคาต่อรองสำหรับสูงสุดต่ำสุดเทียบกับการบริโภคหมวดหมู่ 'นาส 0.62 (95% Cl
0.41-0.94) ในผู้ชายและ 0.59 (95% CI 0.38-0.91) ในผู้หญิง
รับประทานอาหารนมเป็น si - ที่เกี่ยวข้องกับการ rnificantly ลดความเสี่ยงของโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ในผู้หญิงเท่านั้น สรุป / การตีความแคลเซียมและวิตามินดีอาจจะไม่เกี่ยวข้องกับการเป็นอิสระชนิดที่ 2 ความเสี่ยงโรคเบาหวาน การค้นพบของเราแสดงให้เห็นการดำเนินการร่วมกันของสารอาหารเหล่านี้กับชนิดที่ 2 โรคเบาหวานใบสำคัญแสดงสิทธิที่ตรวจสอบต่อไป

Results (Thai) 3:

หลักฐาน ological จำกัด เราตรวจสอบการความสัมพันธ์ของการบริโภคแคลเซียมและวิตามิน D ประเภทความเสี่ยงโรคเบาหวานในหมู่คนญี่ปุ่น .
วิธีการเข้าร่วมเป็น 59796 วัยกลางคนและผู้สูงอายุ
ชายและหญิงที่เข้าร่วมในญี่ปุ่น ศูนย์สาธารณสุข ผู้ป่วยตาม และไม่มีประวัติของโรคเบาหวานหรือโรคร้ายแรงอื่น ๆการบริโภคแคลเซียมและวิตามิน D C timatcd ใช้ตรวจสอบความถี่อาหาร questiom1aire . ใช้ Logistic Regression ประเมินความสัมพันธ์ระหว่างการบริโภคของสารอาหารเหล่านี้และ self-repot1ed ใหม่วิเคราะห์ประเภท 2 โรคเบาหวาน .
ผลในระหว่าง 5 ปี ติดตาม รายการ เอ CS ประเภท 2
เบาหวานถูกบันทึกไว้ โดยรวมแคลเซียมไม่ได้เกี่ยวข้องกับการลดความเสี่ยงของโรคเบาหวานประเภท 2 ; อัตราส่วน multivariable ราคาต่อรองสำหรับ VS สุดคว ไทลสูงสุดเท่ากับ 0.93 ( 95% CI 0.71-1.22 ) ในผู้ชายและ 0.76 ( 95'yo CI 0.56-1.03 ) ในผู้หญิง ilowcvcr ระหว่างเข้าร่วมองกางเกงที่มีวิตามิน D สูงกว่าปริมาณการบริโภค calcimn เป็นตรงกันข้ามที่เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงโรคเบาหวานอัตราเดิมพันสำหรับ VS สูงสุดต่ำสุดบริโภคประเภท ' เป็น 0.62 ( 95% CI
0.41-0.94 ) ในผู้ชาย และ 0.59 ( 95% CI 0.38-0.91 ) ในผู้หญิง
นม การบริโภคอาหารเป็นศรี - , rnificantly เกี่ยวข้องกับการลดความเสี่ยงของโรคเบาหวานประเภท 2 ในผู้หญิงเท่านั้น สรุป / การตีความ แคลเซียม และวิตามิน D อาจจะไม่ได้เป็นอิสระที่เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงต่อเบาหวานชนิดที่ 2เราพบจะร่วมดำเนินการของสารอาหารเหล่านี้กับโรคเบาหวานชนิดที่ 2 สิทธิ
ต่อไป