Unbeknown to most historians there

Unbeknown to most historians there exists an eye-witness account
of the return journey of Prince Mongkut. Pallegoix who had also set
out on a voyage to the north, in order to propagate the Christian
faith, had begun histravel probably on January 15, 1834.2

Late January, while the crew of his boat was slowly paddling
against the current of the Ping River at a location well over 300
kilometres north of Bangkok, the solitude of the river was suddenly
interrupted when he and hisrowers
[…] heard confused shouting and a terrible noise. Soon afterwards
they saw a multitude of large rowing boats, adorned
with peacock feathers, occupied with soldiers, dressed in red
and armed with pikes and halberds, that were coming down
the river with the speed of lightning. We understood immediately
that this was the Prince-Monk (presently the king of
Siam) who returned from his voyage to the Laos people, where
he had been to press gold-leaf on the Sacred Fang-tree, that is
to say an enormous sappan tree or campeche, one that is much

Results (Thai) 1:

บัญชีพยานตาอยู่ unbeknown ให้นักประวัติศาสตร์ส่วนใหญ่มีเดินทางกลับของพระจอมเกล้าเจ้า Pallegoix ที่ยังได้มีการออกในการเดินทางไปภาคเหนือ การแพร่กระจายที่คริสเตียนความเชื่อ เริ่ม histravel คงบน 15 มกราคม 1834.2ปลายเดือนมกราคม ในขณะที่ลูกเรือของเขาไม่ใช่แค่ช้าจากกระแสของแม่น้ำปิงในตำแหน่งดีกว่า 300กิโลเมตรทางทิศเหนือของกรุงเทพมหานคร ความสันโดษของแม่ได้ทันทีเมื่อถูกขัดจังหวะเขาและ hisrowers[…] ได้ยิน shouting ที่สับสนและเสียงน่ากลัว มิช้ามินานเห็นหลากหลายขนาดใหญ่พายเรือ ประดับมีนกยูง ขน การครอบครองกับทหาร แต่งตัวสีแดงและอาวุธ pikes และ halberds ที่มาลงแม่น้ำความเร็วของฟ้าผ่า เราเข้าใจทันทีว่า นี้คือเจ้าพระสงฆ์ (ปัจจุบันพระสยาม) ที่กลับจากการเดินทางของเขาไปคนลาว ที่เคยกดทองคำเปลวบนศักดิ์สิทธิ์ฟางต้น คือว่าต้นไม้ sappan มหาศาลการ campeche ที่มาก

Results (Thai) 2:

ประจักษ์ถึงประวัติศาสตร์มากที่สุดมีอยู่บัญชีพยาน
ของการเดินทางกลับมาของเจ้าชายพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว Pallegoix ที่ได้กำหนด
ออกเดินทางไปทางทิศเหนือเพื่อเผยแพร่คริสเตียน
ศรัทธาได้เริ่ม histravel อาจจะวันที่ 15 มกราคม 1,834.2 ปลายเดือน ม.ค. ขณะที่ลูกเรือของเรือของเขาค่อย ๆ พายเรือเล่นกับปัจจุบันของแม่น้ำปิงที่ สถานที่ตั้งดีกว่า 300 กิโลเมตรทางเหนือของกรุงเทพฯสันโดษของแม่น้ำเป็นที่จู่ ๆ ก็หยุดชะงักเมื่อเขาและ hisrowers [... ] ได้ยินเสียงตะโกนสับสนและเสียงที่น่ากลัว หลังจากนั้นไม่นานพวกเขาได้เห็นความหลากหลายของเรือพายขนาดใหญ่ประดับด้วยขนนกยูงครอบครองกับทหารในชุดสีแดงและติดอาวุธด้วยหอกและ halberds ที่ถูกลงมาแม่น้ำด้วยความเร็วฟ้าผ่า เราเข้าใจได้ทันทีว่านี่คือเจ้าชายพระ (ปัจจุบันคือกษัตริย์แห่งสยาม) ที่กลับมาจากการเดินทางของเขากับคนลาวที่เขาได้รับการกดทองที่ศักดิ์สิทธิ์ฝางต้นไม้นั่นคือจะบอกว่า sappan มหาศาล ต้นไม้หรือกัมเปเชหนึ่งที่เป็นมาก

Results (Thai) 3:

unbeknown ให้กับนักประวัติศาสตร์ส่วนใหญ่ที่มีอยู่ในบัญชีพยานตา
ในการเดินทางกลับของเจ้าชายจอม . pallegoix ซึ่งก็ตั้งค่า
ออกในการเดินทางไปทางเหนือ เพื่อเผยแผ่ศาสนาคริสต์
ศรัทธา ได้เริ่ม histravel อาจบน 15 มกราคม 1834.2

ช่วงปลายเดือนมกราคม ขณะที่ลูกเรือของเรือของเขาก็ค่อยๆพายเรือ
กับกระแสของแม่น้ำปิงในพื้นที่ได้ดีกว่า 300
กิโลเมตรทางเหนือของกรุงเทพฯ ความโดดเดี่ยวของแม่น้ำถูกขัดจังหวะเมื่อเขาและ hisrowers

[ . . . ] ได้ยินงงตะโกนและเสียงน่ากลัว หลังจากนั้นไม่นานพวกเขาก็เห็น

กับเรือพายขนาดใหญ่ ประดับขนนกยูงครอบครองกับทหาร ในชุดสีแดง
และติดอาวุธด้วยหอก และ halberds ที่ลงมา
แม่น้ำด้วยความเร็วฟ้าผ่าเราเข้าใจได้ทันทีว่า นี้คือองค์พระ
( ปัจจุบันกษัตริย์
สยาม ) ที่กลับมาจากการเดินทางของเขาไปยังประชาชนลาวที่
เขาถูกกดทองคำเปลวบนฟางต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ที่เป็น
พูดมหาศาลแซบแพน ต้นไม้ หรือ สุด ที่ มาก