Results (
English) 1:
[Copy]Copied!
Kawasaki motorcycle history – knowledge aboutShozo Kawasaki 1878 founders opened a shipyard. Kawasaki Tsukiji, where fleet following the Western steel in Tokyo in the year 1886 the scope of business expansion until the establishment is a company, Kawasaki shipyard in Kobe.Founder, Shozo Kawasaki Kawasaki's origin, then count back to 1876, when in 1882, Shozo Kawasaki established Kawasaki Tsukiji shipyard in Tokyo, after 18 years, then in 1896, it has developed into a company shipyard Kawasaki Ltd.Shozo Kawasaki เกิดในเมือง Kagoshima เป็นตระกูลพ่อค้ากิโมโนและกลายมาเป็นพ่อค้ารายย่อย ในช่วงอายุ 17 ในเมือง Nagasaki ซึ่งเป็นเมืองเดียวของญี่ปุ่นที่เปิดติดต่อกับทางตะวันตก เขาได้เริ่มธุรกิจการขนส่งทางเรือในเมือง Osaka เมื่ออายุได้ 27 ซึ่งเกิดการผิดพลาดขึ้นเมื่อเรือสินค้าของเขาเกิดจมลงในพายุ ในปี 1869 เขาได้เข้าร่วมบริษัทที่ดำเนินการเกี่ยวกับการค้าน้ำตาลจากเมือง Ryukyu ( ในประจุบันคืออำเภอในเมือง Okinawa ) ซึ่งก่อตั้งโดยตระกูลซามูไรแห่ง Kagoshima และในปี1893 ได้ทำการวิจัยเกี่ยวกับน้ำตาลพันธ์ Ryukyu รวมทั้งเส้นทางเดินเรือ ตามคำสั่งของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ซึ่งในปี1894 ได้รับแต่งตั้งให้เป็นรองประธานฝ่ายบริหารของบริษัทขนส่งMailSteam-Powered แห่งญี่ปุ่นและประสบความสำเร็จในการเปิดเส้นทางเดินเรือไปยัง Ryukyu และการขนส่งน้ำตาลไปยังญี่ปุ่นแผ่นดินใหญ่ ประโยชน์จากการที่มีประสบการณ์จาก อุบัติเหตุทางทะเลหลายๆครั้งในชีวิต ทำให้ Kawasaki เกิดรู้สึกไว้ใจต่อเรือของตะวันตกอย่างยิ่งเพราะเรือเหล่านั้น มีเนื้อที่กว้างขวาง,มั่นคงและรวดเร็วมากกว่าเรือญี่ปุ่นทั่วไป และเขาก็ยังสนใจในอุตสาหกรรมต่อเรือสมัยใหม่ ทำให้ใน เดือนเมษายน ปี 1878 โดยการสนับสนุนของ Masayoshi Matsukata ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ซึ่งมาจากจังหวัดเดียวกันกับ Kawasaki ได้ก่อตั้งอู่ต่อเรือ Kawasaki Tsukiji โดยการยืมพื้นที่จากรัฐบาลใน แถบแม่น้ำ Sumidagawa,Tsukiji Minami-Iizaka-cho(ปัจจุบันTsukiji 7-chome,Chuo-ku,)กรุงโตเกียว ที่เป็นก้าวสำคัญของการเป็นนักต่อเรือ1896 บริษัทอู่ต่อเรือ Kawasaki จำกัดอยู่ในรูปของบริษัท โดยมี Kojiro Matsukata ได้รับแต่งตั้งให้เป็นประธานคนแรก ของบริษัทใหม่นี้Matsukata Kojiro, first President In the year 1894 seven years after the founding of the company, Kawasaki shipbuilding the war begun and Sino-Japanese industry, shipbuilding in Japan, it was affected by the incident, which Kawasaki repair job with so many quick ship. Once aware of the limitations of management by the person making the decision in the Kawasaki company into public company immediately. After the war ended, came to the entrance of 60′s when there is no son aged enough to take, so Kawasaki chose Matsukata Kojiro, third son of the patron, his business name is Masayoshi Matsukata subsequent recipients.Kojiro Matsukata เกิดที่อำเภอ Satsuma (ในปัจจุบันคืออำเภอในเมือง Kagoshima) ในปี 1865 กลายมาเป็นเลขาฯของนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ระหว่างการบริหารงานของบิดาในช่วงปี 1891 และปี 1892 ในปี 1896 Matsukata ได้รับแต่งตั้งให้เป็นประธานคนแรกของบริษัทอู่ต่อเรือ Kawasaki จำกัด และอยู่ในตำแหน่งเป็นเวลา 32 ปี จนถึงปี 1928 โดยการขยายธุรกิจในด้านรถไฟบรรทุกสินค้า, อากาศยาน การขนส่งทางทะเล และนำระบบ 8 ชั่วโมงต่อวันมาใช้ในญี่ปุ่นเป็นเจ้าแรกรวมทั้งวิธีอื่นๆ เขาได้บำรุงและทำให้ Kawasaki เติบโตเป็นบริษัทผู้นำทางด้าน อุตสาหกรรมหนังของประเทศญี่ปุ่น Matsukata เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะผู้สะสมงานศิลป์พิพิธพันธ์แห่งชาติทางศิลปะตะวันตกในกรุงโตเกียวได้สร้าง จากของสะสมส่วนตัวของ Matsukata รวมทั้งพิพิธพันธ์แห่งชาติโตเกียวได้เก็บของสะสมของเขา คือ ภาพพิมพ์ Ukiyoeเรือโดยสาร-ขนสินค้า Iyomaru ในปี 1897 อู่ต่อเรือ Kawasaki ได้ต่อเรือโดยสาร-สินค้า Iyomaru (727 ตันกรอส) เรือลำแรก หลังจากที่กลายมาเป็นบริษัทการค้าสาธารณะ ระหว่าง 10 ปีของการจัดการโดยบุคคลระหว่างปี1886 จนถึงปี1896 บริษัทก็ได้ต่อเรือใหม่อีก 80 ลำรวมถึงเรือเหล็กกล้า 6 ลำ เช่นเรือ Tamamaru (ขนาดประมาณ 570 ตันกรอส) ตั้งแต่เรือเหล็กเกล้าลำแรกได้ถูกต่อขึ้นในญี่ปุ่น ในปี1890 วัสดุในการต่อเรือได้พัฒนาปรับเปลี่ยนจากเหล็กเป็น เหล็กกล้า การเริ่มต้นของอู่ต่อเรือ Kawasaki จึงถือว่าเป้นการเริ่มต้นของอุตสาหกรรมต่อเรือแบบทันสมัยของญี่ปุ่นการสร้างอู่ต่อเรือแห้ง 1902 เรือ Mikawamaru ของ Nippon Yusen Kabushiki Kaisha (NYK Line) ได้เข้าใช้บริการอู่แห้งซึ่งเป็นเรือลำแรกที่ถูกซ่อมทำในอู่ Shozo Kawasaki ได้ตระหนักอย่างแรงกล้าว่าอู่เรือของบริษัทมีความต้องการอย่างมากในการเพิ่มขีดความ สามารถนับตั้งแต่ที่อู่ต่อเรือ Kawasaki ได้ถูกสร้างขึ้นที่เมืองโกเบ อำเภอ Hyogo เขาจึงได้วางแผนสร้างอู่แห้ง โดยการบำรุงพื้นที่ใกล้ๆกับอู่เรือ โดยในปี 1892 การสำรวจพื้นที่ได้เริ่มขึ้นและปี 1895 การทดลองเจาะก็เกิดขึ้น หลังจาก ได้ควบเป็นบริษัทต่อเรือKawasaki ,Kojiro Matsukata ก็ได้ดำเนินการตามแผนงานก่อสร้างประสบอุปสรรคเนื่องจากโครงสร้างที่อ่อนแอมากๆของทำเลที่ตั้งบนแม่น้ำMinatogawa River delta หลังจากลองผิดลองถูก เทคนิคใหม่ๆได้ถูกนำมาใช้เพื่อเสริมความแข็งแกร่งของฐานรากใต้น้ำ โดยการเท คอนกรีต หลังจากนั้นหกปีในปี1902 อู่แห้งก็สร้างสำเร็จโดยเสียค่าใช้จ่ายและเวลามากกว่าการก่อสร้างอู่ ภายใต้ เงื่อนไขปกติถึง 3 เท่าอู่แห้ง ขนาดของอู่แห้ง ยาว 130 เมตร,กว้าง 15.7 เมตร,ลึก 5.5 เมตร ขนาดระวางขับน้ำของเรือที่เข้าใช้สูงสุดที่ 6,000 ตันกรอส(ปันจุบันเป็นอู่หมายเลข 1,อู่เรือโกเบ) ถูกบันทึกให้เป็นสมบัติทางวัฒนธรรมที่ลงทะเบียนเป็นรูปธรรม ของญี่ปุ่นในปี 1998<< 1999 – อู่หมายเลข 1 , อู่เรือโกเบ<< ใบรับรองอู่ให้เป็นสมบัติทางวัฒนธรรมที่ลงทะเบียนเป็นรูปธรรม1906 โรงงาน Hyogo แห่งใหม่ได้เริ่มประดิษฐ์ห
Being translated, please wait..