The difference is how the latent im

The difference is how the latent image is created and how this image processing
is done. The basic CR imaging cycle has three steps [13]: (1) expose, (2) readout,
and (3) erase.
Inside the radiography cassette an image plate (IP)—or SPS—having a detective
layer of photostimulable crystals is available. The detective layer consists of a
family of phosphors BaFX:Eu2+ where X can be any of the halogens Cl, Br, or I (or
an arbitrary mixture of them) [17]. A typical SPS can store a latent image for a
considerable period of time. However, according to the American Association of
Physicists in Medicine [18], it will lose about 25% of the stored signal between
10 min and 8 h after an exposure resulting in the loss of energy through spontaneous
phosphorescence.
The phosphor crystals are usually cast into plates into resin material in an
unstructured way (unstructured scintillators) [10]. When the SPS is exposed to
the X-ray the energy of the incident radiation is absorbed and excites electrons
to high-energy levels (Fig. 2.2a, b). These excited electrons remain trapped at
unstable energy levels of the atom. The absorbed X-ray energy is stored in crystal
structure of the phosphor and a latent image is then created at these high-energy
states giving a spatial distribution of these electrons at the SP detector. This trapped
energy can be released if stimulated by additional light energy of the proper
wavelength by the process of photostimulated luminescence (PSL) (Fig. 2.2) [18].
After the X-ray exposure and the creation of the latent image, the SPS is scanned in
a separate CR reader device. The readout is a process that follows exposure of the
image plate and constitutes the second step of the CR imaging cycle. A red laser beam

Results (Thai) 1:

ข้อแตกต่างคือ วิธีสร้างภาพแฝงอยู่ และวิธีการประมวลผลภาพแล้ว CR พื้นฐานภาพวงจรมีขั้นตอนที่ 3 [13]: (1) การเปิดเผย (2) readoutและลบ (3)ภายในเทป radiography รูปแผ่น (IP) — หรือ SPS โดยมีนักสืบมีชั้นของผลึก photostimulable ได้ ชั้นนักสืบประกอบด้วยการครอบครัวของ BaFX:Eu2+ phosphors ที่ X สามารถใด ๆ halogens Cl, Br หรือฉัน (หรือการกำหนดส่วนผสมของพวกเขา) [17] SPS โดยทั่วไปสามารถเก็บรูปภาพที่แฝงอยู่ในตัวระยะเวลาพอสมควร อย่างไรก็ตาม ตามสมาคมอเมริกันPhysicists ในยา [18], มันจะหายไปประมาณ 25% ของสัญญาณเก็บไว้ระหว่าง10 นาทีและ h 8 หลังจากแสงเกิดการสูญเสียของพลังงานผ่านอยู่phosphorescencePhosphor ผลึกมักจะโยนในแผ่นเป็นวัสดุยางในตัวไม่มีโครงสร้างทาง (ไม่มีโครงสร้าง scintillators) [10] เมื่อสัมผัสกับ SPS ที่เอกซเรย์พลังงานของรังสีที่เกิดเหตุถูกดูดซึม และตื่นเต้นอิเล็กตรอนระดับ high-energy (Fig. 2.2a, b) อิเล็กตรอนเหล่านี้ตื่นเต้นยังคงติดอยู่ที่ระดับพลังงานไม่เสถียรของอะตอม พลังงานเอกซเรย์ดูดซึมไว้ในผลึกโครงสร้างของ phosphor และคือภาพแล้วสร้างที่นี่ high-energyอเมริกาที่ให้การกระจายของอิเล็กตรอนเหล่านี้ที่จับ SP นี้ติดอยู่สามารถปล่อยพลังงานถ้าถูกกระตุ้น โดยพลังงานแสงเพิ่มเติมของเหมาะสมความยาวคลื่นตามกระบวนการของ photostimulated luminescence (พีเอสแอล) (Fig. 2.2) [18]หลังจากที่แสงเอกซเรย์และการสร้างภาพแฝงอยู่ SPS เป็นแกนในแยก CR อ่านอุปกรณ์ Readout เป็นกระบวนการที่ความเสี่ยงของการภาพแผ่น และถือขั้นตอนสองของ CR ภาพวงจร แสงเลเซอร์สีแดง

Results (Thai) 2:

ความแตกต่างคือวิธีที่แฝงภาพที่ถูกสร้างขึ้นและวิธีการประมวลผลภาพนี้
จะทำ วงจรการถ่ายภาพขั้นพื้นฐาน CR มีสามขั้นตอน [13] (1) เปิดเผย (2) กม,
. และ (3) ลบ
ภายในเทปคาสเซ็ตภาพรังสีแผ่นภาพ (IP) -or SPS-มีนักสืบ
ชั้นของผลึก photostimulable เป็น ใช้ได้ ชั้นนักสืบประกอบด้วย
ครอบครัวของสารเรืองแสง BaFX: EU2 + ที่ X สามารถใด ๆ ของฮาโลเจน Cl, Br หรือฉัน (หรือ
ส่วนผสมโดยพลการของพวกเขา) [17] SPS ทั่วไปสามารถเก็บภาพแฝงสำหรับ
ช่วงเวลาสำคัญของเวลา อย่างไรก็ตามตามที่สมาคมอเมริกันของ
นักฟิสิกส์ในการแพทย์ [18] มันจะสูญเสียประมาณ 25% ของสัญญาณระหว่างที่เก็บไว้
10 นาทีและ 8 ชั่วโมงหลังจากได้รับสารนี้มีผลในการสูญเสียของพลังงานผ่านธรรมชาติ
ฟอสฟอรัส.
ผลึกสารเรืองแสงมักจะโยน เป็นแผ่นเป็นวัสดุเรซินใน
ทางที่ไม่มีโครงสร้าง (scintillators ไม่มีโครงสร้าง) [10] เมื่อ SPS มีการสัมผัสกับ
รังสีเอกซ์พลังงานของรังสีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะถูกดูดซึมและตื่นเต้นอิเล็กตรอน
ให้อยู่ในระดับพลังงานสูง (รูป. 2.2 ก, ข) อิเล็กตรอนตื่นเต้นเหล่านี้ยังคงติดอยู่ที่
ระดับพลังงานของอะตอมที่ไม่เสถียร ดูดซึมพลังงาน X-ray จะถูกเก็บไว้ในผลึก
โครงสร้างของสารเรืองแสงและภาพที่ซ่อนเร้นจะถูกสร้างขึ้นแล้วที่เหล่านี้พลังงานสูง
รัฐให้กระจายของอิเล็กตรอนเหล่านี้ในการตรวจจับ SP ติดกับดักนี้
พลังงานจะถูกปล่อยออกถ้ากระตุ้นด้วยพลังงานแสงที่เพิ่มขึ้นของที่เหมาะสม
ความยาวคลื่นโดยกระบวนการของการเรืองแสง photostimulated (PSL) (รูปที่ 2.2.) [18].
หลังจากรังสีและการสร้างภาพแฝง, SPS ถูกสแกนใน
แยกอุปกรณ์อ่าน CR กมเป็นกระบวนการที่ต่อไปนี้การสัมผัสของ
แผ่นภาพและถือเป็นขั้นตอนที่สองของรอบการถ่ายภาพ CR ลำแสงเลเซอร์สีแดง

Results (Thai) 3:

ความแตกต่างคือว่าภาพแฝงที่ถูกสร้างขึ้นและวิธีการประมวลผลภาพ
เสร็จแล้ว พื้นฐานวงจรภาพ CR ที่มีสามขั้นตอน [ 13 ] : ( 1 ) ตาก ( 2 ) และ ( 3 ) บน

ลบ . ภายในด้วยเทปเป็นแผ่นภาพ ( IP ) หรือ SP มีนักสืบ
ชั้นของผลึก photostimulable พร้อม นักสืบชั้นประกอบด้วย
ครอบครัวของ phosphors bafx :eu2 ที่ X สามารถใด ๆของธาตุ Cl , BR หรือผม ( หรือ
ผสมโดยพลการของพวกเขา ) [ 17 ] เป็น SP สามารถจัดเก็บภาพแฝงสำหรับ
ระยะเวลามากของเวลา อย่างไรก็ตาม ตามที่สมาคมอเมริกันของ
นักฟิสิกส์การแพทย์ [ 18 ] จะสูญเสียประมาณ 25% ของการจัดเก็บสัญญาณระหว่าง
10 นาทีและ 8 ชั่วโมงหลังการสัมผัส ซึ่งจะส่งผลในการสูญเสียของพลังงานผ่านธรรมชาติ
เรืองแสง .
Phosphor ผลึกมักจะโยนลงไปในจานเป็นวัสดุเรซินในทางที่ไม่มีโครงสร้าง ( unstructured scintillators
) [ 10 ] เมื่อ SP ตาก
รังสีเอกซ์พลังงานของรังสีที่ถูกดูดซึม และเหตุการณ์ตื่นเต้นอิเล็กตรอนพลังงานสูง ( รูปที่ 2.2a
ถึงระดับ B ) อิเล็กตรอนตื่นเต้นเหล่านี้ยังคงติดอยู่ที่
เสถียรระดับพลังงานของอะตอมการดูดซับรังสีเอกซ์พลังงานจะถูกเก็บไว้ในโครงสร้างผลึก
ของฟอสเฟอร์และภาพแฝงแล้วสร้างเหล่านี้พลังงาน
รัฐให้การกระจายเชิงพื้นที่ของอิเล็กตรอนเหล่านี้ที่ SP เครื่องตรวจจับ นี้ติด
พลังงานสามารถออก ถ้ากระตุ้นด้วยพลังงานแสงเพิ่มเติมของความยาวคลื่นที่เหมาะสม
โดยกระบวนการของ photostimulated เรืองแสง ( PSL ) ( รูปที่ 2.2 )
[ 18 ]หลังจากเอกซเรย์ การเปิดรับและการสร้างภาพแฝงที่เป็น SP ในการสแกนอุปกรณ์อ่าน CR ที่แยกต่างหาก ผลที่ออกมาคือ กระบวนการที่ตามแสงของ
แผ่นภาพและก้าวที่สองของรอบภาพ CR . แสงเลเซอร์สีแดง