ABSTRACTThere is a great demand and

ABSTRACT
There is a great demand and need for oral health care during the course of HIV
disease (HIV Costs and Services Utilization Study; Marcus et. al., 2005). HIV+ patients
identified three key barriers to obtaining oral health treatment: 1) beliefs and attitudes of
dental health care providers (DHCPs) may have lead to their unwillingness to treat
HIV/AIDS patients; 2) the existence of racial and ethnic disparities in health care in the
United States, and 3) how DHCPs perceive their risk of contracting HIV. The fear and
stigma associated with treating patients with HIV further compromises their access to
care and their health status. Oral health conditions associated with HIV disease are
frequently more severe than those of the general population, making access to both dental
and medical care imperative. Plus, Florida has some of the highest numbers of
HIV/AIDS patients in the nation.
This study was descriptive, cross-sectional and used quantitative methods to
explore the dental hygienists’ behavioral and normative beliefs, attitudes, and intentions
toward treating patients with HIV/AIDS. A three-phase pilot study was conducted to
assess the validity and reliability of the survey instrument. An email delivery method
was used to implement the survey, and a 22% response rate was achieved (n=219). The
ix
majority of respondents were female (96%), white (89%), married (77%), currently
working (86%), and had treated HIV/AIDS patients in private practice (80%). Bivariate
analysis showed that dental hygienists’ intentions toward treating HIV/AIDS patients
were significantly associated with five independent variables, and binary logistic
regression confirmed the significance of two of these associations. Overall, study
participants indicated that they were willing to, and had positive attitudes toward,
clinically treating HIV/AIDS patients; they were confident in their ability to treat them,
and their normative beliefs did not hinder their intention to do so, and they did not worry
about acquiring HIV in the workplace.
Three recommendations were made: increase access to oral health care for
HIV/AIDS patients within community settings by removing barriers to care, incorporate
cultural/sensitivity training in all dental/dental hygiene school curriculums, and mandate
Florida HIV/AIDS continuing education requirements every biennium for dentists and
dental hygienists

Results (Thai) 2:

บทคัดย่อ
มีความต้องการที่ดีและจำเป็นในการดูแลสุขภาพช่องปากในระหว่างหลักสูตรของเอชไอวี
โรค (เอชไอวีและค่าใช้จ่ายในการบริการการศึกษาการใช้ประโยชน์.. มาร์คัส et al, 2005) เอชไอวีผู้ป่วย +
ระบุสามอุปสรรคสำคัญที่จะได้รับการรักษาสุขภาพช่องปาก 1) ความเชื่อและทัศนคติของ
ผู้ให้บริการดูแลสุขภาพฟัน (DHCPs) อาจจะมีนำไปสู่ความไม่เต็มใจของพวกเขาในการรักษา
ผู้ป่วยเอชไอวี / เอดส์ 2) การดำรงอยู่ของความแตกต่างทางเชื้อชาติและชาติพันธุ์ในการดูแลสุขภาพใน
สหรัฐอเมริกาและ 3) วิธีการรับรู้ DHCPs ความเสี่ยงของการทำสัญญาเอชไอวี ความกลัวและ
ความอัปยศที่เกี่ยวข้องกับการรักษาผู้ป่วยเอชไอวีต่อไปบั่นทอนการเข้าถึงของพวกเขาที่จะ
ดูแลและสถานะสุขภาพของพวกเขา สภาวะสุขภาพช่องปากที่เกี่ยวข้องกับโรคเอชไอวีมี
บ่อยครั้งที่รุนแรงมากขึ้นกว่าประชากรทั่วไปทำให้เข้าถึงทั้งทันตกรรม
การดูแลและความจำเป็นทางการแพทย์ พลัส, ฟลอริด้ามีบางส่วนของตัวเลขที่สูงที่สุดของ
เอชไอวี / ผู้ป่วยเอดส์ในประเทศ.
ศึกษาครั้งนี้เป็นการบรรยายตัดขวางและใช้วิธีการเชิงปริมาณเพื่อ
สำรวจทันตกรรม Hygienists ความเชื่อพฤติกรรมและกฎเกณฑ์ทัศนคติและความตั้งใจ
ที่มีต่อการรักษาผู้ป่วยเอชไอวี / เอดส์ การศึกษานำร่องสามเฟสมีวัตถุประสงค์เพื่อ
ประเมินความถูกต้องและความน่าเชื่อถือของตราสารสำรวจ วิธีการส่งอีเมล
ที่ถูกใช้ในการดำเนินการสำรวจและอัตราการตอบสนอง 22% ประสบความสำเร็จ (n = 219)
ix
ของผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง (96%), สีขาว (89%) แต่งงาน (77%) ในขณะ
ที่ทำงาน (86%) และได้รับการรักษาผู้ป่วยเอชไอวี / เอดส์ในทางปฏิบัติเอกชน (80%) bivariate
การวิเคราะห์แสดงให้เห็นว่าความตั้งใจของทันตกรรม Hygienists ต่อการรักษาผู้ป่วยเอชไอวี / เอดส์
มีความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญกับห้าตัวแปรอิสระและโลจิสติกไบนารี
ถดถอยได้รับการยืนยันความสำคัญของทั้งสองสมาคมเหล่านี้ โดยรวม, การศึกษา
เข้าร่วมการชี้ให้เห็นว่าพวกเขายินดีที่จะและมีทัศนคติที่ดีต่อ,
คลินิกรักษาผู้ป่วยเอชไอวี / เอดส์ พวกเขามีความมั่นใจในความสามารถของพวกเขาในการรักษาพวกเขา
และความเชื่อของพวกเขากฎเกณฑ์ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อความตั้งใจที่จะทำเช่นนั้นและพวกเขาไม่ต้องกังวล
เกี่ยวกับการรับเอชไอวีในสถานที่ทำงาน.
สามคำแนะนำที่ถูกสร้างขึ้น: เพิ่มการเข้าถึงการดูแลสุขภาพช่องปากสำหรับ
เอชไอวี / เอดส์ ผู้ป่วยในการตั้งค่าของชุมชนโดยการลบอุปสรรคในการดูแลรวม
วัฒนธรรม / การฝึกอบรมความไวในทุกทางทันตกรรม / หลักสูตรโรงเรียนสุขภาพฟันและอาณัติ
ฟลอริด้าเอชไอวี / เอดส์อย่างต่อเนื่องทุกความต้องการการศึกษา biennium สำหรับทันตแพทย์และ
ทันตกรรม Hygienists

Results (Thai) 3:

นามธรรม
มีความต้องการมากและต้องการการดูแลสุขภาพช่องปากในระหว่างหลักสูตรของโรค
( HIV ต้นทุน และบริการการศึกษา ; มาร์คัส et al . , 2005 ) ผู้ป่วยโรคเอดส์
ระบุสามคีย์อุปสรรคได้รับการรักษาสุขภาพช่องปาก : 1 ) ความเชื่อและทัศนคติของผู้ให้การดูแลทันตสุขภาพ (
dhcps ) อาจทำให้พวกเขาไม่เต็มใจที่จะรักษา
ผู้ติดเชื้อเอชไอวี / ผู้ป่วยเอดส์2 ) การมีอยู่ของเชื้อชาติและชาติพันธุ์ความไม่เสมอภาคในการดูแลสุขภาพใน
สหรัฐอเมริกา และ 3 ) วิธี dhcps รับรู้ของความเสี่ยงของการทำสัญญาเอชไอวี ความกลัวและ
จุดเชื่อมโยงกับรักษาผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่มเติม การเข้าถึงของพวกเขา

ดูแลและสถานะสุขภาพของพวกเขา เงื่อนไขที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพช่องปากโรคเป็นรุนแรงมากขึ้น
บ่อยกว่าประชากรทั่วไปการเข้าถึงและการดูแลทันตกรรม
ขวางทั้งทางการแพทย์ Plus , Florida มีตัวเลขสูงสุดของ
ผู้ติดเชื้อเอชไอวี / ผู้ป่วยเอดส์ในประเทศ .
การศึกษาเชิงพรรณนาภาคตัดขวางและใช้วิธีการสำรวจ hygienists

' ทันตกรรมเกี่ยวกับพฤติกรรมและความเชื่อ ทัศนคติ และความตั้งใจ
ต่อการรักษาผู้ป่วยเอชไอวี / เอดส์ สามเฟสนำร่องศึกษา

การประเมินความเที่ยงตรงและความน่าเชื่อถือของแบบสอบถามเครื่องมือ วิธีการส่งอีเมล์
ถูกใช้เพื่อใช้สำรวจและอัตราการตอบสนองร้อยละ 30 เท่ากับ ( n = 1 )
9
ส่วนใหญ่เป็นหญิง ( 96% ) , สีขาว ( 89% ) , แต่งงาน ( 77 เปอร์เซ็นต์ ) , ปัจจุบัน
ทำงาน ( ร้อยละ 86 ) , และได้รับการรักษาผู้ติดเชื้อเอชไอวี / ผู้ป่วยเอดส์ในคลินิกส่วนตัว ( 80% ) โดยใช้
การวิเคราะห์แสดงให้เห็นว่าทันตนามัย ' เจตนาต่อการรักษา HIV / ผู้ป่วยเอดส์
มีความสัมพันธ์กับห้าตัวแปรอิสระ และตัวแปรเชิงซ้อน
ไบนารียืนยันความสำคัญของ 2 สมาคมนี้ โดยผู้เข้าร่วมการศึกษา
ระบุว่า พวกเขาตั้งใจ และมีเจตคติทางบวกต่อ
ทางคลินิกรักษาผู้ป่วยเอชไอวี / เอดส์พวกเขาเชื่อมั่นในความสามารถของตนเองในการรักษาพวกเขา
และความเชื่อของพวกเขาเกี่ยวกับไม่ได้ขัดขวางความตั้งใจที่จะทำและพวกเขาไม่ได้กังวลเกี่ยวกับการรับเชื้อเอชไอวีในสถานที่ทำงาน
.
3 แนะนำให้เพิ่มการเข้าถึงการดูแลสุขภาพช่องปากสำหรับ
ผู้ติดเชื้อเอชไอวี / ผู้ป่วยเอดส์ภายในชุมชนโดยการขจัดอุปสรรคของการดูแล รวม
การฝึกอบรมทางวัฒนธรรม / ความไวในสุขอนามัยทันตกรรมทันตกรรม / หลักสูตรการศึกษา และอาณัติ
ฟลอริด้าเอชไอวี / เอดส์ความต้องการศึกษาต่อทุก biennium สำหรับทันตแพทย์และ
ทันตนามัย