๒๔ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๑เรื่อง รูปประติมากรรมหล่อปูนปลาสเตอร์ของไทย ที่เม translation - ๒๔ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๑เรื่อง รูปประติมากรรมหล่อปูนปลาสเตอร์ของไทย ที่เม Italian how to say

๒๔ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๑เรื่อง รูปประต

๒๔ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๑
เรื่อง รูปประติมากรรมหล่อปูนปลาสเตอร์ของไทย ที่เมือง Carrara ประเทศอิตาลี
เรียน หัวหน้าหน่วยประชาสัมพันธ์ พระราชวังบางปะอิน

ผม นาย นที เกวลกุล ประติมากรด้านแกะสลักหินอ่อน ทำงานและอาศัยอยู่ที่เมืองคาร์ราร่า (Carrara) ประเทศอิตาลี ผมขออนุญาต
เท้าความเรื่องราวดังนี้

ย้อนกลับไปเมื่อ๙ปีที่แล้วเวลานั้นผมกำลังศึกษาอยู่ชั้นปีสุดท้าย คณะจิตรกรรมประติมากรรม มหาวิทยาศิลปากร อาจารย์ที่คณะผมได้นำงานประติมากรรมไปว่าจ้างแกะสลักให้เป็นหินอ่อน ที่โรงงานแห่งหนึ่ง ในเมืองคาร์ราร่า ประเทศอิตาลี อาจารย์ได้เล่าให้ผมฟังเกี่ยวกับรูปปูนรูปหนึ่งในโรงงาน ว่าได้เห็นรูปประติมากรรมปูนปลาสเตอร์บุคคลสำคัญของไทยอยู่ที่โรงงานแห่งนี้ แต่ไม่สามารถระบุได้ว่าคือใครในราชนิกุล และโรงงานแกะหินอ่อนที่กล่าวถึงนี้ มีชื่อว่า สตูดิโอ นิโคลี(Studi Nicoli) ตั้งอยู่กลางเมืองคาร์ราร่า ประเทศอิตาลี

จนเมื่อจบการศึกษาที่ม.ศิลปากร ผมได้มีโอกาสมาศึกษาต่อด้านการแกะหินอ่อนที่ Academy of fine art แห่งเมือง Carrara พร้อมกับได้ทำงานแกะสลักหินอ่อนอยู่ที่นี่ ณ ปัจจุบันนี้เป็นเวลาเกือบ ๘ ปีแล้ว กระทั่งเมื่อปลายปีที่แล้ว พ.ศ.๒๕๕๐ ผมบังเอิญได้พบกับเจ้าของโรงงานNicoli คือคุณคาร์โล นิโคลี (Carlo Nicoli) จึงได้เข้าไปพูดคุย และไต่ถามถึงเรื่องที่ผมเคยได้ยินมาจากอาจารย์

ได้ความว่า มีรูปประติมากรรมปูนปลาสเตอร์ ๒ รูป ที่เป็นรูปคนไทยอยู่จริง ได้จัดทำในสมัยของคุณปู่ของเขา เรียกว่าน่าจะร้อยกว่าปีที่แล้วได้ คุณปู่ได้เคยเล่าให้ฟังว่า ตอนนั้นได้รับการว่าจ้างจากคนไทยให้แกะรูปหินอ่อน เพื่อเป็นอนุสรณ์ให้กับบุคคลในรูป ซึ่งสิ้นชีวิตในขณะยังเยาว์แต่ทั้งนี้ก็มิได้ทราบนามของทั้ง ๒ ได้ยินแต่เพียงว่าเกี่ยวข้องกับพระองค์เจ้าหญิงพระองค์หนึ่ง ซึ่งสิ้นพระชนม์ในอุบัติเหตุขณะเดินทางแปรพระราชฐานทางน้ำ ส่วนรูปแกะสลักหินอ่อนที่แล้วเสร็จได้ส่งกลับไปยังเมืองไทย ทราบคร่าวๆว่านำไปติดตั้งที่โรงพยาบาลเด็กแห่งแรกของไทย
ทางคุณนิโคลีออกปากว่าอยากเห็นภาพรูปหินอ่อนจริง และอยากจะทราบว่าตอนนี้รูปหินอ่อนนี้ยังมีอยู่หรือไม่ และอยู่ที่ใด คุณนิโคลีจึงอนุญาตให้ผมเข้าไปในห้องเก็บรูปปูน ซึ่งถือว่าเป็นส่วนที่บุคคลภายนอกห้ามเข้า เมื่อได้เข้าไป พบว่า รูปปูนปลาสเตอร์ที่ว่า เป็นรูปเด็กขนาดเต็มตัว ๒ รูป

รูปหนึ่งคือเด็กอายุราว๘-๙ ขวบ มัดผมจุก มีเปียยาว
สวมชุดไทย มีสายสร้อย เครื่องประดับ และ นุ่งโจงกระเบน

อีกรูปหนึ่ง เป็นเด็กชายอายุราว ๔ ขวบ สวมหมวกและเสื้อติดกระดุมชุดคล้ายชุดจีน ลวดลายประดับเดียวกัน

ผมเห็นรูปปูนแต่ก็ไม่สามารถตอบคุณนิโคลีได้ว่าคือใคร และในตอนนั้น ผมไม่ได้เตรียมตัวว่าจะได้มีโอกาสเข้าไปดูรูปประติมากรรมดังกล่าว จึงไม่ได้บันทึกหลักฐานอะไรไว้ และหลังจากนั้นก็ไม่มีเวลาไปค้นข้อมูลเพิ่มเติม จนกระทั่งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาผมมีโอกาสได้พบกับคุณนิโคลี ผมจึงได้ขอให้คุณนิโคลีเล่าถึงเรื่องราวเกี่ยวกับรูปปูนที่ได้ยินมาอีกครั้ง ในวันถัดมา ผมจึงได้ขออนุญาตเข้าไปถ่ายรูปรูปปูนทั้งสอง และกลับไปค้นข้อมูลทั้งทางอินเตอร์เน็ตและหนังสือเท่าที่มี เพื่อหาคำตอบว่ารูปปูนทั้ง ๒ รูปคือใครในราชนิกุลไทย

อ้างอิงจากเรื่องที่คุณนิโคลีได้เล่าให้ฟัง ผมได้เริ่มค้นข้อมูลของพระองค์เจ้าหญิงที่ประสบอุบัติเหตุทางน้ำ ซึ่งได้คำตอบไม่ยากนักว่า คือพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

จากเรื่องราวที่บันทึกกล่าวว่า พระนางได้สิ้นพระชมน์พร้อมกับพระราชธิดา และในเวลานั้นก็กำลังทรงพระครรภ์ ต่อมาภายหลังพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างอนุสาวรีย์เพื่อเป็นอนุสรณ์รำลึงถึง ที่น้ำตกพริ้ว จ.จันทบุรี สวนสราญรมย์และพระราชวังบางปะอิน สถานที่ที่พระนางทรงโปรด

ตอนแรกผมสันนิษฐานว่ารูปปูนพระองค์ทั้งสอง อาจจะเป็นพระราชโอรสพระราชธิดาของพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์แต่จากข้อมูลที่พบ ก็มีข้อขัดแย้ง กล่าวคือ พระชันษาของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้ากรรณาภรณ์เพชรรัตน์ฯพระราชธิดาที่สิ้นพระชนม์นั้นมีเพียง ๒ พรรษาส่วนอีกพระองค์ในพระองค์เจ้าหญิงยังอยู่ในพระครรภ์แต่ขณะที่รูปปูนทั้งสองมีพระชันษามากกว่า

อย่างไรก็ตาม เรื่องอนุสาวรีย์ที่กล่าวไว้ตอนแรกเป็นสิ่งที่ข้าม ไปไม่ได้ ผมจึงพยายามหาข้อมูลและรูปถ่ายของอนุสาวรีย์จากข้อมูลที่พบ กล่าวถึงอนุสาวรีย์ที่พระราชวังบางปะอิน ว่าสร้างด้วยหินอ่อนจากประเทศอิตาลี จากจุดนี้ผมจึงหาข้อมูลเกี่ยวกับพระราชวังบางปะอิน

อนุสาวรีย์ในพระราชวังบางปะอินมี ๒ แห่ง จึงขออนุญาตคัดลอกข้อความมาไว้ดังนี้

“ อนุสาวรีย์สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์เป็นอนุสาวรีย์ที่รัชกาลที่ ๕ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ ซึ่งสวรรคตในระหว่างการเสด็จแปรพระราชฐานมายังพระราชวังบางปะอิน”“อนุสาวรีย์ราชานุสรณ์ เป็นอนุสาวรีย์ที่รัชกาลที่ ๕ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึง พระอรรคชายาเธอพระองค์เจ้าเสาวภาคย์นารีรัตน์ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอเจ้าฟ้าศิริราชกกุธภัณฑ์ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอเจ้าฟ้าพาหุรัดมณีมัย และสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอเจ้าฟ้าตรีเพ็ชรุตม์ธำรง ซึ่งสิ้นพระชนม์ภายในปีเดียวกัน”

ผมได้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า วันที่ ๓๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๒๓ เป็นวันที่สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พร้อมพระราชธิดาสิ้นพระชนม์จากอุบัติเหตุ และในวันเดียวกันนี้ในปี พ.ศ. ๒๔๓๐ สมเด็จเจ้าฟ้าชายสิริราชกกุธภัณฑ์ ก็ทรงสิ้นพระชนม์ด้วยโรคบิดในขณะที่มีพระชันษาเพียง ๑ พรรษา และจากข้อมูลของอนุสาวรีย์ราชานุสรณ์ พระราชวังบางปะอินข้างต้น ก็ได้กล่าวด้วยว่ามีพระองค์อื่นๆ
สิ้นพระชนม์ในปีเดียวกันกับสมเด็จเจ้าฟ้าชายสิริราชกกุธภัณฑ์ คือในปีพ.ศ. ๒๔๓๐ นี่อาจเป็นสาเหตุสำคัญกระมังที่อนุสาวรีย์ของพระองค์ต่างๆได้มาอยู่ ณ ที่เดียวกันในพระราชวังบางปะอิน

สิ่งสำคัญที่ผมต้องทำต่อไปคือการค้นรูปถ่ายหรือรูปภาพของพระองค์ต่างๆ เพื่อเทียบกับภาพรูปปูนปลาสเตอร์ที่ผมได้ถ่ายไว้ และภาพหนึ่ง ก็ทำให้เรื่องราวได้คลี่คลาย

ภาพถ่ายของ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าตรีเพ็ชรุตม์ธำรงพระราชโอรสใน พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมร
0/5000
From: -
To: -
Results (Italian) 1: [Copy]
Copied!
24 giugno 2551 (2008)Re: una scultura cast intonaco della città thailandese di Carrara Italia.Caro capo delle pubbliche relazioni Bang PA-in PalazzoIo sono il signor simona Kwenkun. Scultore in marmo scultura. Lavorare e vivere in città di Carlsbad, hotel (Carrara), Italia. Con la presente autorizzoI piedi della storia è come segue:Risalgono a quel periodo quando avevo 9 anni, studiando classe anno finale. Facoltà di pittura, scultura Storia di belle arti Docenti, facoltà, ho preso scultura andare a noleggiare un scolpito in marmo presso una delle fabbriche. Nella città di Carlsbad, hotel. Paese Italia Mi ha detto di ascoltare circa un'immagine nelle fabbriche di cemento che hanno visto una persona significativa di sculture in gesso presso lo stabilimento thailandese si trova, ma non è riuscita a determinare chi è nei membri della famiglia reale e la fabbrica di questo marmo scultura intitolato Studio nikho League (Studi Nicoli) Situato nel centro di Carlsbad, hotel. Paese ItaliaCosì quando mi sono laureato presso l'Università di belle arti, ho avuto l'opportunità di studiare presso l'Accademia d'arte di scultura in marmo della città di Carrara con la scultura di marmo ha lavorato qui in questo momento è quasi 8 anni e fino alla fine dello scorso anno, 2550 (2007) Mi capita di avere incontrato il proprietario della fabbrica è nikho Carlo Nicoli League (Carlo Nicoli), per intenderci e chiedere che ho sentito da parte degli insegnanti.Ha una scultura in gesso di un popolo tailandese reale figura 2 lavorando nel suo nonno. Più di cento anni fa sarebbe chiamato e che poi. Nonno ha detto che era stato assunto dal popolo Thai per ritagliarsi un marmo commemorativo alla persona nell'immagine, che è la morte, mentre ancora giovane, ma ha fatto conoscere il nome dell'intero 2 sentire ma solo che è legato a uno della sua principessa, che morì in un incidente mentre volava un Royal Naval Base variante. Migliori sculture in marmo foto fu completata tornò in Thailandia. Prendere nota che l'installazione dei bambini primi nazionali tailandesi di ospedale.Diciamo che voglio vedere Lee nikho fuori marmo foto e vorrei sapere ora, come ci sono anche marmo e si trova? Così permesso tuo nikho League in sala di stoccaggio modello di gesso, che è considerato come il meglio che gli estranei non frequentano. Quando vanno a trovare se il gesso che è una foto di bambino full-size 2.Un'immagine è di circa 9 anni vecchio bambino legato 8-ho lunga nappa Cap.Indossare cavo di gioielli collana con Thai e indossare un perizoma.Un altro è circa 4 anni ragazzo cappelli e camicie a cucire un bottone su una serie simile, ambientata in Cina negli stessi modelli di arredamento.ผมเห็นรูปปูนแต่ก็ไม่สามารถตอบคุณนิโคลีได้ว่าคือใคร และในตอนนั้น ผมไม่ได้เตรียมตัวว่าจะได้มีโอกาสเข้าไปดูรูปประติมากรรมดังกล่าว จึงไม่ได้บันทึกหลักฐานอะไรไว้ และหลังจากนั้นก็ไม่มีเวลาไปค้นข้อมูลเพิ่มเติม จนกระทั่งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาผมมีโอกาสได้พบกับคุณนิโคลี ผมจึงได้ขอให้คุณนิโคลีเล่าถึงเรื่องราวเกี่ยวกับรูปปูนที่ได้ยินมาอีกครั้ง ในวันถัดมา ผมจึงได้ขออนุญาตเข้าไปถ่ายรูปรูปปูนทั้งสอง และกลับไปค้นข้อมูลทั้งทางอินเตอร์เน็ตและหนังสือเท่าที่มี เพื่อหาคำตอบว่ารูปปูนทั้ง ๒ รูปคือใครในราชนิกุลไทยอ้างอิงจากเรื่องที่คุณนิโคลีได้เล่าให้ฟัง ผมได้เริ่มค้นข้อมูลของพระองค์เจ้าหญิงที่ประสบอุบัติเหตุทางน้ำ ซึ่งได้คำตอบไม่ยากนักว่า คือพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจากเรื่องราวที่บันทึกกล่าวว่า พระนางได้สิ้นพระชมน์พร้อมกับพระราชธิดา และในเวลานั้นก็กำลังทรงพระครรภ์ ต่อมาภายหลังพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างอนุสาวรีย์เพื่อเป็นอนุสรณ์รำลึงถึง ที่น้ำตกพริ้ว จ.จันทบุรี สวนสราญรมย์และพระราชวังบางปะอิน สถานที่ที่พระนางทรงโปรดตอนแรกผมสันนิษฐานว่ารูปปูนพระองค์ทั้งสอง อาจจะเป็นพระราชโอรสพระราชธิดาของพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์แต่จากข้อมูลที่พบ ก็มีข้อขัดแย้ง กล่าวคือ พระชันษาของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้ากรรณาภรณ์เพชรรัตน์ฯพระราชธิดาที่สิ้นพระชนม์นั้นมีเพียง ๒ พรรษาส่วนอีกพระองค์ในพระองค์เจ้าหญิงยังอยู่ในพระครรภ์แต่ขณะที่รูปปูนทั้งสองมีพระชันษามากกว่าอย่างไรก็ตาม เรื่องอนุสาวรีย์ที่กล่าวไว้ตอนแรกเป็นสิ่งที่ข้าม ไปไม่ได้ ผมจึงพยายามหาข้อมูลและรูปถ่ายของอนุสาวรีย์จากข้อมูลที่พบ กล่าวถึงอนุสาวรีย์ที่พระราชวังบางปะอิน ว่าสร้างด้วยหินอ่อนจากประเทศอิตาลี จากจุดนี้ผมจึงหาข้อมูลเกี่ยวกับพระราชวังบางปะอิน
อนุสาวรีย์ในพระราชวังบางปะอินมี ๒ แห่ง จึงขออนุญาตคัดลอกข้อความมาไว้ดังนี้

“ อนุสาวรีย์สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์เป็นอนุสาวรีย์ที่รัชกาลที่ ๕ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ ซึ่งสวรรคตในระหว่างการเสด็จแปรพระราชฐานมายังพระราชวังบางปะอิน”“อนุสาวรีย์ราชานุสรณ์ เป็นอนุสาวรีย์ที่รัชกาลที่ ๕ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึง พระอรรคชายาเธอพระองค์เจ้าเสาวภาคย์นารีรัตน์ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอเจ้าฟ้าศิริราชกกุธภัณฑ์ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอเจ้าฟ้าพาหุรัดมณีมัย และสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอเจ้าฟ้าตรีเพ็ชรุตม์ธำรง ซึ่งสิ้นพระชนม์ภายในปีเดียวกัน”

ผมได้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า วันที่ ๓๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๒๓ เป็นวันที่สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พร้อมพระราชธิดาสิ้นพระชนม์จากอุบัติเหตุ และในวันเดียวกันนี้ในปี พ.ศ. ๒๔๓๐ สมเด็จเจ้าฟ้าชายสิริราชกกุธภัณฑ์ ก็ทรงสิ้นพระชนม์ด้วยโรคบิดในขณะที่มีพระชันษาเพียง ๑ พรรษา และจากข้อมูลของอนุสาวรีย์ราชานุสรณ์ พระราชวังบางปะอินข้างต้น ก็ได้กล่าวด้วยว่ามีพระองค์อื่นๆ
สิ้นพระชนม์ในปีเดียวกันกับสมเด็จเจ้าฟ้าชายสิริราชกกุธภัณฑ์ คือในปีพ.ศ. ๒๔๓๐ นี่อาจเป็นสาเหตุสำคัญกระมังที่อนุสาวรีย์ของพระองค์ต่างๆได้มาอยู่ ณ ที่เดียวกันในพระราชวังบางปะอิน

สิ่งสำคัญที่ผมต้องทำต่อไปคือการค้นรูปถ่ายหรือรูปภาพของพระองค์ต่างๆ เพื่อเทียบกับภาพรูปปูนปลาสเตอร์ที่ผมได้ถ่ายไว้ และภาพหนึ่ง ก็ทำให้เรื่องราวได้คลี่คลาย

ภาพถ่ายของ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าตรีเพ็ชรุตม์ธำรงพระราชโอรสใน พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมร
Being translated, please wait..
Results (Italian) 2:[Copy]
Copied!
๒๔ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๑
เรื่อง รูปประติมากรรมหล่อปูนปลาสเตอร์ของไทย ที่เมือง Carrara ประเทศอิตาลี
เรียน หัวหน้าหน่วยประชาสัมพันธ์ พระราชวังบางปะอิน

ผม นาย นที เกวลกุล ประติมากรด้านแกะสลักหินอ่อน ทำงานและอาศัยอยู่ที่เมืองคาร์ราร่า (Carrara) ประเทศอิตาลี ผมขออนุญาต
เท้าความเรื่องราวดังนี้

ย้อนกลับไปเมื่อ๙ปีที่แล้วเวลานั้นผมกำลังศึกษาอยู่ชั้นปีสุดท้าย คณะจิตรกรรมประติมากรรม มหาวิทยาศิลปากร อาจารย์ที่คณะผมได้นำงานประติมากรรมไปว่าจ้างแกะสลักให้เป็นหินอ่อน ที่โรงงานแห่งหนึ่ง ในเมืองคาร์ราร่า ประเทศอิตาลี อาจารย์ได้เล่าให้ผมฟังเกี่ยวกับรูปปูนรูปหนึ่งในโรงงาน ว่าได้เห็นรูปประติมากรรมปูนปลาสเตอร์บุคคลสำคัญของไทยอยู่ที่โรงงานแห่งนี้ แต่ไม่สามารถระบุได้ว่าคือใครในราชนิกุล และโรงงานแกะหินอ่อนที่กล่าวถึงนี้ มีชื่อว่า สตูดิโอ นิโคลี(Studi Nicoli) ตั้งอยู่กลางเมืองคาร์ราร่า ประเทศอิตาลี

จนเมื่อจบการศึกษาที่ม.ศิลปากร ผมได้มีโอกาสมาศึกษาต่อด้านการแกะหินอ่อนที่ Academy of fine art แห่งเมือง Carrara พร้อมกับได้ทำงานแกะสลักหินอ่อนอยู่ที่นี่ ณ ปัจจุบันนี้เป็นเวลาเกือบ ๘ ปีแล้ว กระทั่งเมื่อปลายปีที่แล้ว พ.ศ.๒๕๕๐ ผมบังเอิญได้พบกับเจ้าของโรงงานNicoli คือคุณคาร์โล นิโคลี (Carlo Nicoli) จึงได้เข้าไปพูดคุย และไต่ถามถึงเรื่องที่ผมเคยได้ยินมาจากอาจารย์

ได้ความว่า มีรูปประติมากรรมปูนปลาสเตอร์ ๒ รูป ที่เป็นรูปคนไทยอยู่จริง ได้จัดทำในสมัยของคุณปู่ของเขา เรียกว่าน่าจะร้อยกว่าปีที่แล้วได้ คุณปู่ได้เคยเล่าให้ฟังว่า ตอนนั้นได้รับการว่าจ้างจากคนไทยให้แกะรูปหินอ่อน เพื่อเป็นอนุสรณ์ให้กับบุคคลในรูป ซึ่งสิ้นชีวิตในขณะยังเยาว์แต่ทั้งนี้ก็มิได้ทราบนามของทั้ง ๒ ได้ยินแต่เพียงว่าเกี่ยวข้องกับพระองค์เจ้าหญิงพระองค์หนึ่ง ซึ่งสิ้นพระชนม์ในอุบัติเหตุขณะเดินทางแปรพระราชฐานทางน้ำ ส่วนรูปแกะสลักหินอ่อนที่แล้วเสร็จได้ส่งกลับไปยังเมืองไทย ทราบคร่าวๆว่านำไปติดตั้งที่โรงพยาบาลเด็กแห่งแรกของไทย
ทางคุณนิโคลีออกปากว่าอยากเห็นภาพรูปหินอ่อนจริง และอยากจะทราบว่าตอนนี้รูปหินอ่อนนี้ยังมีอยู่หรือไม่ และอยู่ที่ใด คุณนิโคลีจึงอนุญาตให้ผมเข้าไปในห้องเก็บรูปปูน ซึ่งถือว่าเป็นส่วนที่บุคคลภายนอกห้ามเข้า เมื่อได้เข้าไป พบว่า รูปปูนปลาสเตอร์ที่ว่า เป็นรูปเด็กขนาดเต็มตัว ๒ รูป

รูปหนึ่งคือเด็กอายุราว๘-๙ ขวบ มัดผมจุก มีเปียยาว
สวมชุดไทย มีสายสร้อย เครื่องประดับ และ นุ่งโจงกระเบน

อีกรูปหนึ่ง เป็นเด็กชายอายุราว ๔ ขวบ สวมหมวกและเสื้อติดกระดุมชุดคล้ายชุดจีน ลวดลายประดับเดียวกัน

ผมเห็นรูปปูนแต่ก็ไม่สามารถตอบคุณนิโคลีได้ว่าคือใคร และในตอนนั้น ผมไม่ได้เตรียมตัวว่าจะได้มีโอกาสเข้าไปดูรูปประติมากรรมดังกล่าว จึงไม่ได้บันทึกหลักฐานอะไรไว้ และหลังจากนั้นก็ไม่มีเวลาไปค้นข้อมูลเพิ่มเติม จนกระทั่งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาผมมีโอกาสได้พบกับคุณนิโคลี ผมจึงได้ขอให้คุณนิโคลีเล่าถึงเรื่องราวเกี่ยวกับรูปปูนที่ได้ยินมาอีกครั้ง ในวันถัดมา ผมจึงได้ขออนุญาตเข้าไปถ่ายรูปรูปปูนทั้งสอง และกลับไปค้นข้อมูลทั้งทางอินเตอร์เน็ตและหนังสือเท่าที่มี เพื่อหาคำตอบว่ารูปปูนทั้ง ๒ รูปคือใครในราชนิกุลไทย

อ้างอิงจากเรื่องที่คุณนิโคลีได้เล่าให้ฟัง ผมได้เริ่มค้นข้อมูลของพระองค์เจ้าหญิงที่ประสบอุบัติเหตุทางน้ำ ซึ่งได้คำตอบไม่ยากนักว่า คือพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

จากเรื่องราวที่บันทึกกล่าวว่า พระนางได้สิ้นพระชมน์พร้อมกับพระราชธิดา และในเวลานั้นก็กำลังทรงพระครรภ์ ต่อมาภายหลังพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างอนุสาวรีย์เพื่อเป็นอนุสรณ์รำลึงถึง ที่น้ำตกพริ้ว จ.จันทบุรี สวนสราญรมย์และพระราชวังบางปะอิน สถานที่ที่พระนางทรงโปรด

ตอนแรกผมสันนิษฐานว่ารูปปูนพระองค์ทั้งสอง อาจจะเป็นพระราชโอรสพระราชธิดาของพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์แต่จากข้อมูลที่พบ ก็มีข้อขัดแย้ง กล่าวคือ พระชันษาของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้ากรรณาภรณ์เพชรรัตน์ฯพระราชธิดาที่สิ้นพระชนม์นั้นมีเพียง ๒ พรรษาส่วนอีกพระองค์ในพระองค์เจ้าหญิงยังอยู่ในพระครรภ์แต่ขณะที่รูปปูนทั้งสองมีพระชันษามากกว่า

อย่างไรก็ตาม เรื่องอนุสาวรีย์ที่กล่าวไว้ตอนแรกเป็นสิ่งที่ข้าม ไปไม่ได้ ผมจึงพยายามหาข้อมูลและรูปถ่ายของอนุสาวรีย์จากข้อมูลที่พบ กล่าวถึงอนุสาวรีย์ที่พระราชวังบางปะอิน ว่าสร้างด้วยหินอ่อนจากประเทศอิตาลี จากจุดนี้ผมจึงหาข้อมูลเกี่ยวกับพระราชวังบางปะอิน

อนุสาวรีย์ในพระราชวังบางปะอินมี ๒ แห่ง จึงขออนุญาตคัดลอกข้อความมาไว้ดังนี้

“ อนุสาวรีย์สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์เป็นอนุสาวรีย์ที่รัชกาลที่ ๕ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ ซึ่งสวรรคตในระหว่างการเสด็จแปรพระราชฐานมายังพระราชวังบางปะอิน”“อนุสาวรีย์ราชานุสรณ์ เป็นอนุสาวรีย์ที่รัชกาลที่ ๕ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึง พระอรรคชายาเธอพระองค์เจ้าเสาวภาคย์นารีรัตน์ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอเจ้าฟ้าศิริราชกกุธภัณฑ์ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอเจ้าฟ้าพาหุรัดมณีมัย และสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอเจ้าฟ้าตรีเพ็ชรุตม์ธำรง ซึ่งสิ้นพระชนม์ภายในปีเดียวกัน”

ผมได้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า วันที่ ๓๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๒๓ เป็นวันที่สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พร้อมพระราชธิดาสิ้นพระชนม์จากอุบัติเหตุ และในวันเดียวกันนี้ในปี พ.ศ. ๒๔๓๐ สมเด็จเจ้าฟ้าชายสิริราชกกุธภัณฑ์ ก็ทรงสิ้นพระชนม์ด้วยโรคบิดในขณะที่มีพระชันษาเพียง ๑ พรรษา และจากข้อมูลของอนุสาวรีย์ราชานุสรณ์ พระราชวังบางปะอินข้างต้น ก็ได้กล่าวด้วยว่ามีพระองค์อื่นๆ
สิ้นพระชนม์ในปีเดียวกันกับสมเด็จเจ้าฟ้าชายสิริราชกกุธภัณฑ์ คือในปีพ.ศ. ๒๔๓๐ นี่อาจเป็นสาเหตุสำคัญกระมังที่อนุสาวรีย์ของพระองค์ต่างๆได้มาอยู่ ณ ที่เดียวกันในพระราชวังบางปะอิน

สิ่งสำคัญที่ผมต้องทำต่อไปคือการค้นรูปถ่ายหรือรูปภาพของพระองค์ต่างๆ เพื่อเทียบกับภาพรูปปูนปลาสเตอร์ที่ผมได้ถ่ายไว้ และภาพหนึ่ง ก็ทำให้เรื่องราวได้คลี่คลาย

ภาพถ่ายของ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าตรีเพ็ชรุตม์ธำรงพระราชโอรสใน พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมร
Being translated, please wait..
 
Other languages
The translation tool support: Afrikaans, Albanian, Amharic, Arabic, Armenian, Azerbaijani, Basque, Belarusian, Bengali, Bosnian, Bulgarian, Catalan, Cebuano, Chichewa, Chinese, Chinese Traditional, Corsican, Croatian, Czech, Danish, Detect language, Dutch, English, Esperanto, Estonian, Filipino, Finnish, French, Frisian, Galician, Georgian, German, Greek, Gujarati, Haitian Creole, Hausa, Hawaiian, Hebrew, Hindi, Hmong, Hungarian, Icelandic, Igbo, Indonesian, Irish, Italian, Japanese, Javanese, Kannada, Kazakh, Khmer, Kinyarwanda, Klingon, Korean, Kurdish (Kurmanji), Kyrgyz, Lao, Latin, Latvian, Lithuanian, Luxembourgish, Macedonian, Malagasy, Malay, Malayalam, Maltese, Maori, Marathi, Mongolian, Myanmar (Burmese), Nepali, Norwegian, Odia (Oriya), Pashto, Persian, Polish, Portuguese, Punjabi, Romanian, Russian, Samoan, Scots Gaelic, Serbian, Sesotho, Shona, Sindhi, Sinhala, Slovak, Slovenian, Somali, Spanish, Sundanese, Swahili, Swedish, Tajik, Tamil, Tatar, Telugu, Thai, Turkish, Turkmen, Ukrainian, Urdu, Uyghur, Uzbek, Vietnamese, Welsh, Xhosa, Yiddish, Yoruba, Zulu, Language translation.

Copyright ©2024 I Love Translation. All reserved.

E-mail: