the upper leftmost 7 bits, so the t

the upper leftmost 7 bits, so the tags are different and unique.
To see how these addresses differ, let’s look at a smaller, simpler example.
Suppose we have a system using direct mapping with 16 words of main memory
divided into 8 blocks (so each block has 2 words). Assume the cache is 4 blocks
in size (for a total of 8 words). Table 6.1 shows how the main memory blocks
map to cache.
We know:
• A main memory address has 4 bits (because there are 24 or 16 words in
main memory).
• This 4-bit main memory address is divided into three fields: The word field is 1 bit
(we need only 1 bit to differentiate between the two words in a block); the block
field is 2 bits (we have 4 blocks in main memory and need 2 bits to uniquely identify
each block); and the tag field has 1 bit (this is all that is left over).
The main memory address is divided into the fields shown in Figure 6.6.

Results (Thai) 1:

ด้านบนซ้าย 7 บิต ดังนั้นแท็กจึงแตกต่าง และไม่ซ้ำกันเมื่อต้องการดูวิธีดังกล่าวแตกต่างกัน ลองดูที่ตัวอย่างมีขนาดเล็กกว่า ง่ายกว่าสมมติว่า เรามีระบบที่ใช้แมปโดยตรงกับหน่วยความจำหลัก 16 คำแบ่งออกเป็นบล็อก 8 (ดังนั้นแต่ละบล็อคมี 2 คำ) สมมติว่า แคเป็น 4 บล็อกขนาด (ในทั้ง 8 คำ) ตารางแสดงขนาด 6.1 วิธีการบล็อกหน่วยความจำหลักแผนการแคชเรารู้ว่า:•อยู่หน่วยความจำหลักมี 4 บิต (เนื่องจากมีคำ 24 หรือ 16หลักหน่วยความจำ)•ที่อยู่หน่วยความจำหลัก 4 บิตนี้จะแบ่งออกเป็นสามเขตข้อมูล: เขตข้อมูล word เป็นบิต 1(เราต้องการแยกความแตกต่างระหว่างคำสองคำในบล็อกเพียง 1 บิต); บล็อคฟิลด์คือ 2 บิต (มี 4 บล็อกหน่วยความจำหลักและต้องการบิตที่ 2 ระบุแต่ละบล็อก); และฟิลด์ป้ายมี 1 บิต (นี่คือสิ่งที่เหลือไว้)อยู่หน่วยความจำหลักถูกแบ่งออกเป็นฟิลด์ที่แสดงในรูปที่ 6.6

Results (Thai) 2:

ซ้ายสุดบน 7 บิตดังนั้นแท็กมีความแตกต่างและไม่ซ้ำกัน.
เพื่อดูว่าที่อยู่เหล่านี้แตกต่างกันให้ดูที่ขนาดเล็กลงตัวอย่างง่าย.
สมมติว่าเรามีระบบที่ใช้การทำแผนที่โดยตรงกับ 16 คำพูดของหน่วยความจำหลัก
แบ่งออกเป็น 8 บล็อก (ดังนั้น แต่ละบล็อกมี 2 คำ) สมมติแคชคือ 4 บล็อก
ขนาด (รวม 8 คำ) ตารางที่ 6.1 แสดงให้เห็นวิธีการบล็อกหน่วยความจำหลัก
. แผนที่ไปยังแคช
เรารู้:
•หน่วยความจำที่อยู่หลักมี 4 บิต (เพราะมี 24 หรือ 16 คำใน
หน่วยความจำหลัก).
•นี้ 4 บิตที่อยู่หน่วยความจำหลักแบ่งออกเป็นสามสาขา: ข้อมูลคำเป็น 1 บิต
(เราต้องการเพียง 1 บิตเพื่อแยกความแตกต่างระหว่างสองคำในบล็อก); บล็อก
ข้อมูลเป็น 2 บิต (เรามี 4 บล็อกในหน่วยความจำหลักและต้องใช้เวลา 2 บิตเพื่อระบุตัวตนของ
แต่ละบล็อก); และข้อมูลแท็กมี 1 บิต (นี่คือทั้งหมดที่เหลือ).
ที่อยู่หน่วยความจำหลักแบ่งออกเป็นสาขาที่แสดงในรูปที่ 6.6

Results (Thai) 3:

บนซ้ายสุด 7 บิต ดังนั้นแท็กที่แตกต่างกันและเป็นเอกลักษณ์
เพื่อดูวิธีการที่อยู่เหล่านี้แตกต่างกัน ลองดูตัวอย่างเล็ก ๆ .
สมมติ เรา มี ระบบแผนที่ โดยตรง มี 16 คำ
หน่วยความจำหลักแบ่งออกเป็น 8 บล็อก ( ดังนั้นแต่ละบล็อกมี 2 คำ ) ถือว่าแคชเป็นบล็อก 4
ขนาด ( รวมเป็น 8 คำ ) ตารางที่ 6.1 แสดงให้เห็นว่าหน่วยความจําหลักบล็อก
แผนที่แคช เรารู้ :

- หน่วยความจําหลักที่อยู่มี 4 บิต ( เพราะมี 24 หรือ 16 คำ

- หน่วยความจำหลัก หน่วยความจําหลักนี้ 4-bit ที่อยู่จะแบ่งออกเป็นสามเขต : คำฟิลด์บิต 1
( เราต้องการเพียง 1 บิต เพื่อแยกความแตกต่างระหว่างสองคำนี้ในบล็อก ) บล็อก
สนามคือ 2 บิต ( ขณะนี้มี 4 บล็อกในหน่วยความจำหลัก และต้อง 2 บิตเพื่อระบุตัวตนของ
แต่ละบล็อก )และแท็กฟิลด์ได้ 1 บิต ( นี้คือทั้งหมดที่เหลือ ) .
หน่วยความจำหลักที่อยู่จะแบ่งออกเป็นเขตข้อมูลที่แสดงในรูปที่ 6.6 .