เป็นที่ยอมรับกันในวงกว้างว่า ภาพวาด โมนา ลิซ่า (The Mona Lisa) เป็นภาพ translation - เป็นที่ยอมรับกันในวงกว้างว่า ภาพวาด โมนา ลิซ่า (The Mona Lisa) เป็นภาพ English how to say

เป็นที่ยอมรับกันในวงกว้างว่า ภาพวาด

เป็นที่ยอมรับกันในวงกว้างว่า ภาพวาด โมนา ลิซ่า (The Mona Lisa) เป็นภาพเหมือนที่ยอดเยี่ยมที่สุดตลอดกาล ความคิดริเริ่มที่ยอดเยี่ยมที่สุดของ ดา วินชี (Leonardo Da Vinci) ในรูปนี้ก็คือการวาดแบบให้เห็นแค่ ¾ ของร่างกาย (three-quarter pose) ที่ดูผ่อนคลายและไม่เป็นทางการ การจัดวางองค์ประกอบแบบเป็นรูปพีระมิด ก็เป็นความคิดริเริ่มอีกอย่างหนึ่งของ ดา วินชี ขอให้ลองสังเกตฐานที่ดูกว้างของภาพ ซึ่งทำให้ด้านล่างดูหนักกว่าด้านบนของภาพ มือของ โมนา ลิซ่า อยู่ในตำแหน่งมุมด้านหน้าของพีระมิด ทำให้สายตาของคุณถูกดึงดูดไปที่ส่วนบนของภาพวาด ไปยังรอยยิ้มที่ดูลึกลับอันโด่งดังนั่นเอง แล้ว โมนา ลิซ่า คือใคร ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่เห็นต่างกัน แต่มีความเป็นไปได้สูงว่า เธอคือ Madonna Lisa Di Antonio Maria Gheradini ภรรยาของเศรษฐีชาวเมืองฟลอเรนซ์คนหนึ่ง ซึ่งได้จ้างวานให้วาดภาพนี้ขึ้นในปี 1503 เป็นไปได้ว่า ดา วินชี ไม่ได้วาดภาพนี้ให้เสร็จตามที่ได้รับจ้างวาน เพราะบางส่วนของภาพถูกวาดล่าช้า ถึงปี 1510 นักวิทยาศาสตร์ไม่อาจหาข้อสรุปได้ว่าทำไมรอยยิ้มของ โมนา ลิซ่า จึงถูกตีความแตกต่างกันมากในแต่ละบุคคล มีทฤษฎีต่างกันออกไปมากมาย ตั้งแต่ทฤษฎีเกี่ยวกับการมองเห็นของมนุษย์ ไปจนถึงการตีความของ ซิกมันด์ ฟรอยด์ (Sigmund Freud) ที่ว่ารอยยิ้มนี้แสดงให้เห็นถึงความดึงดูดทางเพศที่ลีโอนาร์โดมีกับมารดาของตัวเอง อย่างไรก็ดี ความลึกลับของรอยยิ้มนี้เองที่ทำให้ภาพ โมนา ลิซ่า น่าสนใจ

ผลงานชิ้นนี้ได้ใช้เทคนิคการวาดภาพมากมายที่เป็นการปฏิวัติวงการศิลปะในสมัยนั้น แสดงให้เห็นถึงฝีมือชั้นครูของศิลปินที่วาด และยังคงทำให้ผู้ที่พบเห็นรู้สึกสนอกสนใจได้จวบจนปัจจุบัน ดังนั้นจึงสามารถกล่าวได้ว่า งานศิลป์ชิ้นเอกของลีโอนาร์โดชิ้นนี้จะยังคงเป็นภาพเหมือนที่ยอดเยี่ยมที่สุดไปตลอดกาล
0/5000
From: -
To: -
Results (English) 1: [Copy]
Copied!
เป็นที่ยอมรับกันในวงกว้างว่า ภาพวาด โมนา ลิซ่า (The Mona Lisa) เป็นภาพเหมือนที่ยอดเยี่ยมที่สุดตลอดกาล ความคิดริเริ่มที่ยอดเยี่ยมที่สุดของ ดา วินชี (Leonardo Da Vinci) ในรูปนี้ก็คือการวาดแบบให้เห็นแค่ ¾ ของร่างกาย (three-quarter pose) ที่ดูผ่อนคลายและไม่เป็นทางการ การจัดวางองค์ประกอบแบบเป็นรูปพีระมิด ก็เป็นความคิดริเริ่มอีกอย่างหนึ่งของ ดา วินชี ขอให้ลองสังเกตฐานที่ดูกว้างของภาพ ซึ่งทำให้ด้านล่างดูหนักกว่าด้านบนของภาพ มือของ โมนา ลิซ่า อยู่ในตำแหน่งมุมด้านหน้าของพีระมิด ทำให้สายตาของคุณถูกดึงดูดไปที่ส่วนบนของภาพวาด ไปยังรอยยิ้มที่ดูลึกลับอันโด่งดังนั่นเอง แล้ว โมนา ลิซ่า คือใคร ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่เห็นต่างกัน แต่มีความเป็นไปได้สูงว่า เธอคือ Madonna Lisa Di Antonio Maria Gheradini ภรรยาของเศรษฐีชาวเมืองฟลอเรนซ์คนหนึ่ง ซึ่งได้จ้างวานให้วาดภาพนี้ขึ้นในปี 1503 เป็นไปได้ว่า ดา วินชี ไม่ได้วาดภาพนี้ให้เสร็จตามที่ได้รับจ้างวาน เพราะบางส่วนของภาพถูกวาดล่าช้า ถึงปี 1510 นักวิทยาศาสตร์ไม่อาจหาข้อสรุปได้ว่าทำไมรอยยิ้มของ โมนา ลิซ่า จึงถูกตีความแตกต่างกันมากในแต่ละบุคคล มีทฤษฎีต่างกันออกไปมากมาย ตั้งแต่ทฤษฎีเกี่ยวกับการมองเห็นของมนุษย์ ไปจนถึงการตีความของ ซิกมันด์ ฟรอยด์ (Sigmund Freud) ที่ว่ารอยยิ้มนี้แสดงให้เห็นถึงความดึงดูดทางเพศที่ลีโอนาร์โดมีกับมารดาของตัวเอง อย่างไรก็ดี ความลึกลับของรอยยิ้มนี้เองที่ทำให้ภาพ โมนา ลิซ่า น่าสนใจผลงานชิ้นนี้ได้ใช้เทคนิคการวาดภาพมากมายที่เป็นการปฏิวัติวงการศิลปะในสมัยนั้น แสดงให้เห็นถึงฝีมือชั้นครูของศิลปินที่วาด และยังคงทำให้ผู้ที่พบเห็นรู้สึกสนอกสนใจได้จวบจนปัจจุบัน ดังนั้นจึงสามารถกล่าวได้ว่า งานศิลป์ชิ้นเอกของลีโอนาร์โดชิ้นนี้จะยังคงเป็นภาพเหมือนที่ยอดเยี่ยมที่สุดไปตลอดกาล
Being translated, please wait..
Results (English) 2:[Copy]
Copied!
เป็นที่ยอมรับกันในวงกว้างว่า ภาพวาด โมนา ลิซ่า (The Mona Lisa) เป็นภาพเหมือนที่ยอดเยี่ยมที่สุดตลอดกาล ความคิดริเริ่มที่ยอดเยี่ยมที่สุดของ ดา วินชี (Leonardo Da Vinci) ในรูปนี้ก็คือการวาดแบบให้เห็นแค่ ¾ ของร่างกาย (three-quarter pose) ที่ดูผ่อนคลายและไม่เป็นทางการ การจัดวางองค์ประกอบแบบเป็นรูปพีระมิด ก็เป็นความคิดริเริ่มอีกอย่างหนึ่งของ ดา วินชี ขอให้ลองสังเกตฐานที่ดูกว้างของภาพ ซึ่งทำให้ด้านล่างดูหนักกว่าด้านบนของภาพ มือของ โมนา ลิซ่า อยู่ในตำแหน่งมุมด้านหน้าของพีระมิด ทำให้สายตาของคุณถูกดึงดูดไปที่ส่วนบนของภาพวาด ไปยังรอยยิ้มที่ดูลึกลับอันโด่งดังนั่นเอง แล้ว โมนา ลิซ่า คือใคร ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่เห็นต่างกัน แต่มีความเป็นไปได้สูงว่า เธอคือ Madonna Lisa Di Antonio Maria Gheradini ภรรยาของเศรษฐีชาวเมืองฟลอเรนซ์คนหนึ่ง ซึ่งได้จ้างวานให้วาดภาพนี้ขึ้นในปี 1503 เป็นไปได้ว่า ดา วินชี ไม่ได้วาดภาพนี้ให้เสร็จตามที่ได้รับจ้างวาน เพราะบางส่วนของภาพถูกวาดล่าช้า ถึงปี 1510 นักวิทยาศาสตร์ไม่อาจหาข้อสรุปได้ว่าทำไมรอยยิ้มของ โมนา ลิซ่า จึงถูกตีความแตกต่างกันมากในแต่ละบุคคล มีทฤษฎีต่างกันออกไปมากมาย ตั้งแต่ทฤษฎีเกี่ยวกับการมองเห็นของมนุษย์ ไปจนถึงการตีความของ ซิกมันด์ ฟรอยด์ (Sigmund Freud) ที่ว่ารอยยิ้มนี้แสดงให้เห็นถึงความดึงดูดทางเพศที่ลีโอนาร์โดมีกับมารดาของตัวเอง อย่างไรก็ดี ความลึกลับของรอยยิ้มนี้เองที่ทำให้ภาพ โมนา ลิซ่า น่าสนใจ

ผลงานชิ้นนี้ได้ใช้เทคนิคการวาดภาพมากมายที่เป็นการปฏิวัติวงการศิลปะในสมัยนั้น แสดงให้เห็นถึงฝีมือชั้นครูของศิลปินที่วาด และยังคงทำให้ผู้ที่พบเห็นรู้สึกสนอกสนใจได้จวบจนปัจจุบัน ดังนั้นจึงสามารถกล่าวได้ว่า งานศิลป์ชิ้นเอกของลีโอนาร์โดชิ้นนี้จะยังคงเป็นภาพเหมือนที่ยอดเยี่ยมที่สุดไปตลอดกาล
Being translated, please wait..
Results (English) 3:[Copy]
Copied!
It is accepted widely that painting, Mona Lisa (The Mona Lisa) is an excellent portrait ที่สุดตลอดกาล. The initiative of the most excellent Da Vinci (Leonardo Da Vinci) in this picture is drawing to see just ¾ of the body (three-quarter. Pose).The composition is a pyramid. It is the one of the Da Vinci, I try to observe the wide base of the image. The heavy bottom view over the top of the image, the hands of Mona Lisa.Make your eyes are attracted to the upper part of the painting. To see the famous mysterious smile. Then, Mona Lisa, who is specializing mainly see the difference, but the possibility. She is Madonna Lisa Di Antonio Maria Gheradini.Which has hired to paint this up in 1503 possible that Da Vinci, not to finish this painting as had been ordered the hit. Because some of the images are drawn late year 1510 scientists could not find the conclusion that รอยยิ้มของ Mona Lisa.There are different theories. Since the theory about human vision to the interpretation of Freud (Sigmund Freud) that this smile shows sexual attraction that Leonardo with mothers themselves. However,Mona Lisa interesting
.
This work has used many painting technique is a revolutionary circles at that time. Demonstrate skill masters of artists draw. And still makes those who see feel interested in it until now.The art masterpiece of Leonardo this piece will still be the best portrait forever!
Being translated, please wait..
 
Other languages
The translation tool support: Afrikaans, Albanian, Amharic, Arabic, Armenian, Azerbaijani, Basque, Belarusian, Bengali, Bosnian, Bulgarian, Catalan, Cebuano, Chichewa, Chinese, Chinese Traditional, Corsican, Croatian, Czech, Danish, Detect language, Dutch, English, Esperanto, Estonian, Filipino, Finnish, French, Frisian, Galician, Georgian, German, Greek, Gujarati, Haitian Creole, Hausa, Hawaiian, Hebrew, Hindi, Hmong, Hungarian, Icelandic, Igbo, Indonesian, Irish, Italian, Japanese, Javanese, Kannada, Kazakh, Khmer, Kinyarwanda, Klingon, Korean, Kurdish (Kurmanji), Kyrgyz, Lao, Latin, Latvian, Lithuanian, Luxembourgish, Macedonian, Malagasy, Malay, Malayalam, Maltese, Maori, Marathi, Mongolian, Myanmar (Burmese), Nepali, Norwegian, Odia (Oriya), Pashto, Persian, Polish, Portuguese, Punjabi, Romanian, Russian, Samoan, Scots Gaelic, Serbian, Sesotho, Shona, Sindhi, Sinhala, Slovak, Slovenian, Somali, Spanish, Sundanese, Swahili, Swedish, Tajik, Tamil, Tatar, Telugu, Thai, Turkish, Turkmen, Ukrainian, Urdu, Uyghur, Uzbek, Vietnamese, Welsh, Xhosa, Yiddish, Yoruba, Zulu, Language translation.

Copyright ©2024 I Love Translation. All reserved.

E-mail: